สาเหตุส่วนใหญ่มาจากโชคชะตาที่แตกต่างกันของสองทีม – การฟื้นคืนชีพของเฟอร์รารีและการดิ้นรนของ Mercedes – ทำให้ไม่สามารถเรียกผลการแข่งขันชิงแชมป์ปีนี้ได้
Charles Leclerc ของ Ferrari เป็นผู้นำอันดับนักแข่ง โดยนำหน้า Max Verstappen ของ Red Bull 19 แต้ม ซึ่งคว้าชัยชนะครั้งที่สามของฤดูกาลที่ Miami Grand Prix เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
มีเพียงหกแต้มเท่านั้นที่แยกสองทีมนี้ออกจากอันดับผู้สร้าง ขณะที่เมอร์เซเดส – ผู้ชนะในแปดฤดูกาลที่ผ่านมา – พบว่าตัวเองตามหลังอย่างไม่ธรรมดาในอันดับสาม
Christian Horner หัวหน้าทีม Red Bull บอกกับ CNN Sport ในไมอามีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “เป็นเรื่องดีที่ได้แข่งรถ Formula One ดีสำหรับ Formula One ที่จะมีการแข่งขัน Ferrari”
“Charles Leclerc ทำได้ดีมาก Carlos Sainz เป็นนักขับชั้นหนึ่งเช่นกัน … เรารู้ว่า Mercedes จะจัดการปัญหาของพวกเขา มันยอดเยี่ยมสำหรับ Formula One ที่มีทีมอื่นเข้าร่วม”
สำหรับ Horner ฤดูกาลนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเปลี่ยนการ์ด Verstappen และ Leclerc ทั้งคู่อายุ 24 ปีกับการแข่งขันที่ยังคงนำหน้าพวกเขาอยู่หลายปี
“มันเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมระหว่างคนรุ่นใหม่ที่กำลังมาถึง” เขากล่าวเสริม
“ชาร์ลส์และแม็กซ์แข่งกันตั้งแต่พวกเขายังเด็ก การแข่งกันระหว่างพวกเขาสองคนที่กรังปรีซ์แต่ละงานจนถึงปีนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก”
หลังจากข้อสรุปที่น่าทึ่งและขัดแย้งในการแข่งขันชิงแชมป์ปีที่แล้ว – ซึ่งเห็นว่า Verstappen ชนะตำแหน่งแรกของเขาเหนือ Lewis Hamilton ในการแข่งขัน Abu Dhabi Grand Prix ที่สิ้นสุดฤดูกาล Red Bull ดูเหมือนว่าจะมีส่วนร่วมในการต่อสู้แขนอีกครั้งในฤดูกาลนี้
กฎระเบียบใหม่ที่นำมาใช้เมื่อต้นปี 2565 บังคับให้ทีมออกแบบรถยนต์ใหม่ทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เฟอร์รารีเติบโต เมอร์เซเดส ดิ้นรน และกระทิงแดง ทำได้ดีกว่าความคาดหวังเริ่มต้นของทีม ตามคำกล่าวของ Horner
“ด้วยความพยายามอย่างมากในรถยนต์ของปีที่แล้ว เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้ เราเลือกที่จะเสี่ยงเพราะเรามีโอกาสชนะในปีที่แล้ว และคุณต้องทำมัน” เขาอธิบาย
“นั่นสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับทีมที่เข้าสู่ครึ่งหลังของปีที่แล้วซึ่งเราต้องเล่นตามให้ทัน โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้คาดหวังให้เราเริ่มต้นปีอย่างมีการแข่งขันเท่าที่เรามี
“การได้อยู่แถวหน้าของเรซแรก ชนะเรซที่สอง ชนะและได้ 1 ต่อสองในอิโมล่า ถือเป็นการเริ่มต้นที่เหลือเชื่อสำหรับเรา และผมคิดว่าคำให้การของทีมงานทุกคนที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้ ในเวลาอันสั้นเช่นนี้”
‘ผู้ชมใหม่ทั้งหมด’
Miami Grand Prix ของสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคือก่อนออสติน ซึ่งเป็นการแข่งครั้งแรกในสองรายการในสหรัฐอเมริกาในฤดูกาลนี้ ในขณะที่ฤดูกาลหน้าจะได้เห็นสามรายการด้วย Las Vegas Grand Prix ที่เพิ่มลงในปฏิทิน
กีฬาดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในอเมริกาเหนือ และมีจำนวนผู้ชมทีวีเพิ่มขึ้น 58% ในสหรัฐอเมริกาเมื่อฤดูกาลที่แล้วเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
จำนวนผู้ชมที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากความนิยมของ “Drive to Survive” ซึ่งเป็นซีรีส์สารคดีของ Netflix ที่ฉายบนกำแพงซึ่งตอนนี้ครอบคลุม F1 สี่ฤดูกาลแล้ว
“Netflix ได้ทำงานที่ยอดเยี่ยมในการเปิดให้ผู้ชมกลุ่มใหม่ทั้งหมด” ฮอร์เนอร์กล่าว
“มันอธิบายวิธีการทำงานของกีฬา มันแสดงให้เห็นว่าใครคือผู้ขับขี่ ไดนามิกบางอย่างเป็นอย่างไร
“แต่กีฬาก็ยังต้องส่งมอบและปีที่แล้วเป็นเพียงปีที่ยิ่งใหญ่ – การแข่งขันตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรกไปจนถึงการแข่งขันรอบสุดท้ายมันเหมือนกับการต่อสู้รุ่นเฮฟวี่เวทจาก 22 รอบที่แตกต่างกัน มันเป็นแชมป์ที่ยอดเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว …ความฝันของโปรดิวเซอร์”
และหากการแข่งขันชิงแชมป์ในฤดูกาลนี้สามารถทำได้ในระดับเดียวกัน – แม้ว่าจะมีตัวเอกใหม่ – จำนวนผู้ชมก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ตราบใดที่เรายังคงมีการแข่งขันกรังปรีซ์ในวันอาทิตย์ และมันยังคงเป็นการแข่งขันของมนุษย์และเครื่องจักรที่จำกัด นั่นคือสิ่งที่มันเกี่ยวกับ” ฮอร์เนอร์กล่าว
“แน่นอน มันจะวิวัฒนาการ … ทุกสิ่งทุกอย่างมีวิวัฒนาการในชีวิต ฉันคิดว่า Formula One กำลังผ่านวิวัฒนาการนั้นในขณะที่เราพูด”