สุดจัด! ทดสอบ AUDI RS Q3 SPORTBACK QUATTRO

ตัวเลขสมรรถนะของ Audi RS Q3 เร่งจากหยุดนิ่งจนถึง 100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ในต่างประเทศ คุณสามารถซื้อแพ็กเกจแบบจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อปลดล็อกความเร็วให้ไหลไปถึง 280 กม./ชม. ขุมกำลัง 5 สูบ 20 วาว์ล นับเป็นเครื่องยนต์ในตำนานของ Audi Sport Quattro และคว้ารางวัล Engine of The Year ถึง 9 ครั้ง การันตีถึงความเจ๋งของระบบขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์วางตามขวางขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมเทอร์โบแปรผันที่ถูกพัฒนาและปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ที่ผ่านมาเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้ผ่านการปรับแต่งในหลายขั้นตอน และมีประสิทธิภาพจนสามารถครองตำแหน่งเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม ถึง 9 ปีติดต่อกัน สำหรับลำดับการจุดระเบิดแบบเฉพาะ 1-2-4-5-3 และเลขคี่ของกระบอกสูบทำให้ได้จังหวะพิเศษ พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ ระบบไอเสีย RS ให้เสียงเฉพาะของเครื่องยนต์ห้าสูบ และระบบไอเสีย RS sport ที่เป็นอุปกรณ์เสริมให้เสียงที่คมชัดยิ่งขึ้น ระบบไอเสียที่ถูกปรับแต่งใหม่หมด พร้อมตัวกรองอนุภาคใหม่ล่าสุดเพื่อลด Co2 มีการแยกท่อระบายออกเป็นสองชุด พร้อมบายพาสวาว์ลที่ให้เสียงท่อสไตล์สปอร์ตที่ดุดัน การแยกท่อระบายออกจากกัน เพื่อทำให้การระบายไอเสียคล่องขึ้น Audi พยายามอธิบายว่า RS Q3 มีเสียงท่อที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของรถยนต์ในเวอร์ชัน RS ในขณะที่ระบบไอเสียแบบ RS Sport ที่เข้ามาขายในไทย จะได้ปลายท่อสีดำ ซึ่งส่งเสียงคำรามผสมผสานกับการตั้งค่าในโหมดการขับแบบใหม่ เช่น โหมด RS1 และโหมด RS2 วาล์วบายพาสในท่อจะเปิดออกจนสุด มอบเสียงที่เต็มไปด้วยพลังคล้ายเสียงเครื่องยนต์ V8 ที่ดังกระหึ่ม พร้อมเสียงระเบิดปะทุเวลาเปลี่ยนเกียร์ หรือยกคันเร่ง เกียร์ทวินคลัตช์มีการปรับตั้งอัตราทดให้สอดคล้องกับการทำความเร็วและความประหยัดไปพร้อมๆ กัน 

Audi RS Q3 Sportback มาพร้อมคุณสมบัติการออกแบบที่เชื่อมโยงกับยานยนต์สปอร์ตของแบรนด์สี่ห่วง ในขณะเดียวกัน มันแสดงให้เห็นลักษณะทางกายภาพของรถ ผ่านรายละเอียดรอบๆ ตัวถัง กระจังหน้าสีดำเงาแบบเฟรมเดี่ยว ใช้โครงสร้างรังผึ้งสามมิติ กระจังหน้าและขนาดความกว้างของ RS Q3 ทำให้มันเป็นรถที่มีขนาดกะทัดรัด กระจังเสียบเข้ากับกันชนเฉพาะแบบของ RS โดยตรง พร้อมช่องอากาศขนาดใหญ่ด้านข้างรูปบูมเมอแรงในกันชนหน้า ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ RS Q3 ช่องเหนือกระจังหน้าหม้อน้ำ Singleframe แนวหลังคาที่ลดระดับความสูงลงไปยังส่วนท้ายเหมือนรถคูเป้ที่ผืนหลังคาจะค่อยๆ ลาดลงไปทางด้านหลัง ส่งผลให้ RS Q3 Sportback ต่ำกว่า RS Q3 รุ่นตัวถังมาตรฐาน 45 มิลลิเมตร (1.8 นิ้ว) เส้นด้านข้างที่เพิ่มขึ้นของรุ่น Sportback ทำให้การโฟกัสของแสงเงาที่ตกกระทบคล้ายกับการเตรียมพร้อมที่จะพุ่งทะยาน ล้อ Audi  Sport ดูใหญ่ขึ้นและทำให้ SUV Coupé รุ่นนี้ ดูมีมัดกล้ามเพิ่มขึ้นเล็กน้อย วงล้อลายโค้งซึ่งบานออกไปสิบมิลลิเมตร (0.4 นิ้ว) ทำให้รถดูกว้างขึ้น โดยเฉพาะล้อขอบ 21 นิ้วลายใหม่ใน RS Q3 

การออกแบบด้านหลังเน้นมุมมองที่ทรงพลัง กระจกหลัง ส่วนล่าง และขอบหลังคา สปอยเลอร์สีดำเงาพร้อมขอบสปอยเลอร์เวอร์ชัน RS โดยเฉพาะ RS Q3 Sportback ทำให้ส่วนท้ายดูกว้างและเต็มไปด้วยไดนามิก เส้นหลังคาลาดต่ำ เสาท้ายที่ลาดเอียง สปอยเลอร์ขอบหลังคายาวขนานไปกับขอบกระจกบานฝาท้ายอย่างสวยงามและช่วยให้แรงกดส่วนท้ายดีขึ้น ท่อไอเสีย RS แบบสองท่อขนาดใหญ่ราวกับท่อของรถบรรทุก ท่อไอเสียวงรีขนาดใหญ่ทั้งสองข้างมาพร้อมระบบไอเสีย RS-specific ชุดกันชนหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์และครีบรีดอากาศในแนวนอน ไฟหน้า matrix LED headlights ทำงานอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หลอก LED ขนาดเล็กเก้าดวงในระบบไฟต่ำ ผสมกับหลอด LED อีกสิบดวงที่ตำแหน่งไฟสูง สามารถส่องสว่างได้อย่างแม่นยำและทำงานแบบไดนามิก เมื่อกล้องตรวจจับรถยนต์แวดล้อม ไฟหน้า matrix LED headlightsเ จะทำงานอัตโนมัติ (อย่างรวดเร็ว) ในการปิดบังหรือเบี่ยงเบนลำแสงไม่ให้ไปรบกวนสายตาของผู้ขับในรถยนต์ที่แล่นสวนมาหรือรถที่อยู่ข้างหน้า สิ่งที่พิเศษก็คือ สัญญาณไฟเลี้ยวแบบไดนามิกด้านหน้าและด้านหลังจากหลอด LED ที่สว่างและคมชัดแม้ในสภาพอากาศที่เลวร้าย 

ช่วงล่างของ RS Q3 เซตออกมาโดยให้อารมณ์ที่แตกต่างจากรถบ้าน ช่วงล่างของมันจึงถูกปรับให้แข็งขึ้นจากการเลือกใช้สปริงและกระบอกโช้คที่โตกว่า Q3 รุ่นมาตรฐาน ช่วงล่างของ RS Q3 Sportback ถูกปรับให้ต่ำลงอีก 10 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ Q3 รุ่นตัวถังมาตรฐาน 40TFSI และ Q3 Sportback 40TFSI ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 5 Link ในขณะที่ระบบช่วงล่างแบบออปชั่นเสริมของ RS Sport plus ที่เจ้าของจะต้องควักเพิ่มอีกเพียบหากอยากได้ มีการเพิ่มการควบคุมแชสซีแบบไดนามิกแต่ก็แข็งกว่าของเดิมอีกเพียบ RS Q3 Sportback ยัดชุดล้ออัลลอย Audi Sport RS ขอบ 21 นิ้ว ยางสปอร์ตประสิทธิภาพสูงยี่ห้อ continental รุ่น contisportcontact 6 ไซส์ 255/35 R20 ออปชั่นเสริมเป็นล้อ RS ขอบ 21 นิ้วให้เลือก ระบบเบรกติดตั้งคาลิปเปอร์เบรกหน้าแบบ 6 พอต พร้อมจานดิสก์ขนาด 375 มิลลิเมตร ที่ด้านหน้า และ 310 มิลลิเมตรที่ด้านหลัง สำหรับระบบเบรกประสิทธิภาพสูงแบบคาร์บอนเซรามิกก็จะต้องเพิ่มเงินอีกเช่นกัน

Audi RS Q3 Sportback ติดตั้งชุดแต่ง Black Edition ตกแต่งกันชนหน้า-หลังด้วยสีดำเงา กระจกมองข้าง ขอบประตู และโลโก้หน้า-หลังสีดำ ทริมสีเทา-ดำ บริเวณกันชนหลังล้อมกรอบตกแต่งชุดท่อระบายไอเสียทรงกลมซ้าย-ขวา มิติตัวถังของ Audi RS Q3 Sportback มีความยาว 4,507 มิลลิเมตร กว้าง 1,851 มิลลิเมตร สูง 1,557 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,590 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,583 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 913 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หลัง 914 มิลลิเมตร

ระบบรองรับของ RS Q3 Sportback ติดตั้งกันสะเทือนแบบสปอร์ต RS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ลดขนาดตัวเครื่องลง 10 มม. (0.4 นิ้ว) เมื่อเทียบกับ Q3 Sportback 40TFSI ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต RS มาพร้อมระบบควบคุม Dynamic Chassis Control (DCC) ติดตั้งเซนเซอร์วัดแรงสั่นสะเทือนของมวลใต้สปริงและต้านการเคลื่อนตัวเมื่อขับผ่านทางโค้งด้วยความเร็วสูง หรือระหว่างการปรับเปลี่ยนโหลด โช้คอัพปรับการทำงานตามสภาพพื้นผิวถนนและสภาพการขับขี่ ระบบจัดการไดนามิก หรือโหมดการขับเคลื่อน ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบกันสะเทือน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro พวงมาลัยโปรเกรสซีฟ เกียร์ s tronic การตอบสนองของเครื่องยนต์และเสียง สำหรับโหมดการขับขี่มีให้เลือก 5 โหมด เช่น comfort, auto, dynamic, efficiency, individual กับสองโหมดใหม่ new RS-specific modes RS1/RS2 สั่งงานผ่านสวิตช์ปรับโหมดหน้าตาบ้านๆ หรือสั่งงานผ่านจอสัมผัส MMI คุณสามารถปรับและบันทึกโหมด RS สองโหมดแบบแยกจากกัน เพียงแค่กดปุ่ม “RS MODE” แบบใหม่ บนพวงมาลัย ซึ่งช่วยให้เข้าถึงโหมด RS สองโหมด และโหมดสุดท้ายที่เลือกได้อย่างรวดเร็ว สามารถสลับไปมาระหว่างโหมดต่างๆ ทำให้ปรับแต่งการตอบสนองในรูปแบบที่เฉพาะตัวมากขึ้นและสลับไปมาระหว่างโหมดการขับแบบสปอร์ตโดยเฉพาะได้อย่างรวดเร็ว

พวงมาลัย progressive steering ในโหมด RS สื่อให้เห็นถึงการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับถนนในทุกย่านความเร็ว ล้อ Audi Sport ขนาด 21 นิ้ว คาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 ลูกสูบ ระบบเบรกเหล็กกล้าใน RS Q3 ทำงานร่วมกับจานดิสก์แบบมีรูระบายอากาศขนาด 375 มม. (14.8 นิ้ว) ที่ด้านหน้า และ 310 มม. (12.2 นิ้ว) ที่ด้านหลัง แต่จานหลังไม่เจาะรู คาลิปเปอร์เบรกพ่นสีดำเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและมีสีแดงให้เลือก ออปชั่นเสริมราคาแพงกับ all-new RS ceramic brake ที่มีจานเบรกเซรามิกขนาด 380 มม. (15.0 นิ้ว) ที่ด้านหน้า และ 310 มม. (12.2 นิ้ว) ที่ด้านหลัง แต่จานหลังก็ยังใช้เหล็กหล่อขึ้นรูปอยู่ดี สำหรับคาลิปเปอร์ของชุดเบรกคาร์บอนเซรามิกซึ่งเป็นออปชั่นเสริมราคาแพง จะพ่นสีเทา สีแดง หรือสีน้ำเงิน

Audi Sport เพิ่มข้อได้เปรียบด้านความสะดวกสบายของรถ SUV ขนาดกะทัดรัดอย่าง RS Q3 Sportback  ซึ่งเกิดขึ้นได้จากแนวคิดโดยรวมของการใช้งาน เช่น ขุมพลังขนาดกะทัดรัด การออกแบบให้เป็นรถยนต์ห้าที่นั่ง ที่ให้อารมณ์การขับสปอร์ตสุดขีดและใช้งานได้ทุกวัน เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพับได้ตามยาวมาตรฐานทั่วไป มีพื้นที่เพิ่มขึ้น 150 มม. (5.9 นิ้ว) ใน RS Q3 และ 130 มม. (5.1 นิ้ว) ใน RS Q3 Sportback ความเอียงของพนักพิงแบบแบ่งส่วนที่เบาะผู้โดยสารตอนหลัง สามารถปรับได้เจ็ดระดับเพื่อเพิ่มความสบายขณะเดินทางไกล ห้องเก็บสัมภาระใต้ฝาท้าย ความจุ 530 ลิตร (18.7 ลูกบาศก์ฟุต) เมื่อทำการดึงเชือกเส้นเล็กๆ สีดำบริเวณข้างเบาะพนักพิงหลังจะพับลง เพิ่มปริมาตรการเก็บสัมภาระขึ้นเป็น 1,400 ลิตร (49.4 cu ft) ใน RS Q3 Sportback 

การออกแบบภายนอกที่เน้นอารมณ์สปอร์ตของ RS Q3 Sportback Cockpit ทั้งหมดเชื่อมโยงกับการออกแบบภายใน โดยคำนึงถึงการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ของผู้ขับเป็นหลัก หน่วยควบคุมพวกสวิตช์เครื่องปรับอากาศ บริเวณคอนโซลกลาง และจอสัมผัส MMI จะเอียงไปทางคนขับสิบองศาฯ พวงมาลัยหนังกลับ Alcantara ก้านวงตรงกึ่งกลางที่มีฐานตัด ติดตราสัญลักษณ์ RS แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift แบบใหม่ พร้อมสวิตช์ “RS MODE” ปุ่มที่ช่วยให้ควบคุมโหมด RS 1/2 ใน Audi drive select ระบบการจัดการแบบไดนามิก จอแสดงผลเฉพาะ RS จะเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติใน Audi virtual Cockpit Plus เบาะนั่งแบบสปอร์ต หุ้มหนังสีดำ สลับกับหนังกลับ Alcantara พร้อมลายนูนประทับตราสัญลักษณ์ RS เบาะนั่งสปอร์ต RS ใช้หนัง nappa อย่างดีที่มีรูปแบบรังผึ้งเฉพาะเวอร์ชัน RS และพนักพิงศีรษะที่ให้ความผ่อนคลาย แพ็กเกจตกแต่ง RS ในสีแดงหรือสีน้ำเงินช่วยเน้นสีภายในห้องโดยสาร ชุดไฟส่องสว่าง Contour/ambient light ไฟส่องสว่างรูปทรงโค้งมนปรับได้หลากสี แผงหน้าปัดพร้อมจอสัมผัส MMI และ Audi virtual cockpit กับแนวคิดการทำงานของระบบมัลติมีเดีย MMI ระบบนำทางแบบใหม่ที่เหนือชั้น โปรแกรมสื่อสาระบันเทิงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลายฟังก์ชั่น ระบบ Infotainment และ Audi connect ร่วมกับระบบนำทาง MMI 

ภายในของ RS Q3 และ RS Q3 Sportback คุณจะพบเบาะที่นั่ง RS แบบสปอร์ต หุ้มด้วยหนังสีดำ พวงมาลัย RS แบบสามก้าน หุ้มหนังกลับ Alcantara เบาะโดยสารคู่หน้าแบบพร้อมลายนูน RS บริเวณพนักพิงหลัง แพ็กเกจงานตกแต่งภายใน 2 รูปแบบ (สีแดงหรือสีน้ำเงิน) พร้อมไฮไลต์ที่ขอบพวงมาลัย, สายเข็มขัดนิรภัย, พรมปูพื้นและคันเกียร์ พวงมาลัย RS Sport แบบฐานตัดมาพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ที่ออกแบบใหม่เพื่อทำให้การใช้นิ้วเปลี่ยนเกียร์ง่ายและรวดเร็วขึ้น หนังกลับ Alcantara เมื่อใส่ถุงมือขับคุณจะพบกับความกระชับจับได้อย่างถนัดมือ พวงมาลัยเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง พร้อมไฮไลต์ RS ที่ขอบพวงมาลัย, สายเข็มขัดนิรภัยสีดำขอบแดงแบบ RS, พรมปูพื้น คันเกียร์ และกาบบันได ประทับตรา RS เครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen แบบ 3 มิติ ลำโพง 15 ตำแหน่ง กำลังขับมากถึง 680 วัตต์ หลังคาพาโนรามิกเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เบาะด้านหลังสามารถปรับพับเพื่อขยายพื้นที่การใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ พื้นที่เก็บสัมภาระจุได้ถึง 1,400 ลิตร

Audi Virtual Cockpit plus ติดตั้งจอภาพมาตรวัด LCD ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว สามารถเลือกดูข้อมูลที่เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม “view” บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เมื่อเลือกมุมมองแบบ “classic” แสดงผลมาตรวัดความเร็วและรอบเครื่อง หรือแบบ “infotainment” แบบ 3 มิติ ที่มีรายละเอียดรูปแบบ RS ที่แสดงผลในแบบสปอร์ต คล้ายมาตรวัดของรถแข่ง มาพร้อมกับหน้าจอมอนิเตอร์กลาง MMI Navigation plus with MMI touch ขนาด 10.1 นิ้ว บรรจุระบบอินโฟเทนเมนต์ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม กล้องมองหลัง การแสดงข้อมูลและการปรับตั้งค่าต่างๆ มาตรวัดจอภาพ TFT ปรับเปลี่ยนกราฟิกการแสดงผลใหม่เมื่อเลือกใช้โหมด RS ทำให้สังเกตหรืออ่านค่าได้ง่ายขึ้น มาตรวัดปรับตั้งให้แสดงข้อมูลได้อย่างหลากหลาย มีทั้งมาตรวัดความเร็วและวัดรอบแบบดิจิทัล แสดงผลเส้นทางผ่านระบบนำทางด้วยดาวเทียม การแสดงข้อมูลของแรงจี แรงม้า และแรงบิด ตำแหน่งเกียร์ ระดับเชื้อเพลิง ระดับอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ และอื่นๆ อีกเพียบ!

ระบบควบคุม ระบบสาระบันเทิง และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบดิจิทัลทั้งหมด ประกอบไปด้วยความไฮเทคของจอสัมผัส MMI 10.1 นิ้ว และจอภาพมาตรวัด TFT ขนาด 12.3. นิ้ว ด้วยการออกแบบเฉพาะตัวที่กลมกลืนกับแนวคิดการทำงานแบบใหม่ได้อย่างลงตัว สำหรับจอภาพมาตรวัดแสดงผลตำแหน่งเกียร์ แรงดันลมยาง แรงบิด เอาต์พุต เวลาต่อรอบ แรง G และการวัดความเร่ง ระบบนำทาง MMI และบริการ Audi connect ฮอตสปอต Wi-Fi สำหรับอุปกรณ์พกพาของผู้โดยสาร

เครื่องเสียง Bang & Olufsen 3D Premium Sound System ระบบเสียง 3 มิติ

การทำงานของเครื่องยนต์ห้าสูบได้รับการปรับแต่งเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะใช้งานในเมืองด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำ ในย่าน 1,500-2,000 รอบต่อนาที หรือเอาลงไปอัดในพีระเซอร์กิตด้วยโหมด RS1 ความยืดหยุ่นของเครื่อง 5 สูบ นั้นน่าประทับใจ ขั้นตอนการทำงานเริ่มจากเทอร์โบชาร์จเจอร์ อัดอากาศเข้าไปในห้องเผาไหม้ด้วยแรงดันสูงสุดถึง 1.35 บาร์ ส่วนชุดลดอุณหภูมิไอดีหรืออินเตอร์คูลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดอุณหภูมิเพื่อให้บรรลุความเข้มข้นของออกซิเจนสูงสุด สำหรับการจุดระเบิดที่สมบูรณ์เพื่อสร้างพลังงาน เพลาลูกเบี้ยวไอดีและไอเสียแบบแปรผัน ที่ฝั่งไอเสีย ระบบวาล์วยกของ Audi หรือ Audi valvelift system (AVS) จะเปลี่ยนระยะเวลาเปิดของวาล์ว การเปิดขึ้นอยู่กับองศาของคันเร่งและความเร็วรอบเครื่องยนต์ในสองระดับ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงใช้หัวฉีดไฟฟ้าแบบใหม่ สามารถฉีดเชื้อเพลิงเข้าทางช่องไอดีโดยตรง ตามความต้องการของเครื่องยนต์ ผสานกับระยะเวลาและลักษณะของการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดไฟฟ้าสามารถปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนต์ตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูงสุด

ใน RS Q3 แรงบิดจากเครื่องยนต์ส่งผ่านไปยังเกียร์คลัตช์คู่ S tronic 7 สปีด แล้วถ่ายลงไปยังระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบถาวร Quattro เกียร์ต่ำในตำแหน่งเกียร์ 1-2-3 ของเกียร์คลัตช์คู่ให้ความรู้สึกสั้นและกระชับในแบบไดนามิก ในขณะที่เกียร์ 7 ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ในย่านความเร็วเดินทาง (ที่ถูกกฏหมาย) เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อใช้โหมดสูงสุดและขับเร็วขึ้น เงื่อนไขการแลกเปลี่ยนความร้อนที่ดีของระบบเกียร์ขณะใช้งานในรอบเครื่องยนต์สูงอย่างต่อเนื่อง น้ำมันเกียร์ เฟืองดอกจอก กับเพลาประกอบ มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม น้อยกว่าเกียร์รุ่นที่ผ่านมา พร้อมระบบหล่อลื่นที่สมบูรณ์แบบของเกียร์ทวินคลัตช์ คุณสามารถสั่งงานให้เกียร์ S tronic 7 สปีด ทำงานโดยอัตโนมัติ หรือเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองในรูปแบบเกียร์ธรรมดาหรือแมนนวล การเปลี่ยนอัตราทดจะตอบสนองอย่างรวดเร็วผ่านคันเกียร์ที่ถูกดันไปด้านซ้าย หรือใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift โปรแกรมการขับขี่โหมดอัตโนมัติ ในโหมด D เครื่องยนต์ 5 สูบสายโหด ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานปกติประจำวัน โดยเฉพาะการขับในเมืองที่มีสภาพการจราจรหนาแน่น มันจะเงียบเมื่อใช้รอบต่ำ และคำรามอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อกระแทกคันเร่ง โหมด S เกียร์จะตอบสนองเร็วขึ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ด้วยการเตรียมความพร้อมในการเร่งความเร็ว การเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลงทำได้เร็วและไหลลื่นสุดๆ 

ปัจจุบัน รถอเนกประสงค์กลายเป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมและมียอดขายแซงหน้ารถสปอร์ตไปไกลลิบ การทำให้ครอสโอเวอร์-เอสยูวีคันเล็ก มีกำลังมากถึง 400 แรงม้า หรือมากกว่านั้น! ถือเป็นเรื่องปกติของแผนกปรับแต่งรถแรงอย่าง BMW M / Mercedes-AMG และ Audi Sport เป็นที่รู้กันดีว่า RS Q3 นั้นเร็วมาก และเพื่อปลดล็อกความซ้ำซากจำเจ ขุมกำลังกับการประมวลผลของซอฟต์แวร์ที่คอยควบคุมการทำงานของกระปุกเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด ช่วงล่างและชุดขับสี่ Quattro ทำให้ RS Q3 เป็นรถสองบุคลิก มันเป็นได้ทั้งรถแม่บ้านและรถแข่งในคันเดียวกัน นั่นคือสไตล์การเซตรถของ Audi Sport ทางเดียวที่จะพิสูจน์ว่ามันเจ๋งจริงหรือไม่ก็คือ จัดการกับเรื่องนี้ด้วยการขับออกทางไกลไปทดสอบ โปรดทราบว่าราคาของ RS Q3 Sportback อยู่ที่ 4,750,000 บาท และรถที่มีราคาใกล้เคียงกับมันก็คือ 

BMW X5 xDRIVE 45e M Sport 5,149,000 บาท (ประกอบในประเทศ)

BMW X5 xDrive30d M Sport 4,849,000 บาท (ประกอบในประเทศ)

BMW 430i M Sport Convertible 4,499,000 บาท (นำเข้า)

BMW M440i xDrive Coupe 5,300,000-5,500,000 บาท (นำเข้า)

BMW Z4 M40i 5,099,000 บาท นำเข้า

Lexus NX 450h+ F Sport 4,320,000 บาท นำเข้า

Mercedes-Benz E 200 Coupe’ (Facelift) 4,550,000 บาท นำเข้า

Mercedes-benz E200 Cabriolet AMG Dynamic ราคา 5,140,000 บาท นำเข้า

Mercedes-AMG GLC43 4MATIC Coupe’ (facelift) 4,990,000 บาท ประกอบในประเทศ (ข้อมูลราคา GLC43 เมื่อเดือนธันวาคม 2562)

Porsche Macan 3.6 PDK 4,900,000 บาท นำเข้า

Porsche Macan Turbo 9,600,000 บาท นำเข้า

ผลลัพธ์ของการลงไม้ลงมือปรับจูนทุกองคาพยพ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lamborghini Urus ทำให้ซุปเปอร์ครอสอย่าง RS Q3 Sportback มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะลอกเลียนแบบ RS Q3 เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ Audi Sport ที่เกิดขึ้นจากแผนกมอเตอร์สปอร์ตของแบรนด์สี่ห่วง ตามคำสั่งของผู้บริหารที่เล็งเห็นช่องทางการทำตลาด สำหรับรถรุ่น RS เช่น TT RS/ RS4 Avant/ RS5 /RS6 Avant /RS7 Sportback /RS Q8 และ R8 นอกเหนือจากโปรแกรมการแข่งรถหลายรายการ (ระดับโลก) เช่น Formula E, DTM และ GT3 แผนก Audi Sport ทำการวางแผนที่จะเพิ่มยอดขายรถยนต์สมรรถนะสูงบนท้องถนนขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2566 RS Q3 เป็นหนึ่งใน Crossover-SUV ขนาดเล็กที่เร็วที่สุดเท่าที่คุณสามารถหาซื้อในประเทศไทย เครื่องยนต์ 400 แรงม้าทำความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ปลดล็อก) คู่แข่งของมันได้แก่ Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC ราคา 3,190,000 บาท กับ BMW X2 M35i ที่ไม่มีขาย และ Porsche Macan Turbo ที่มีราคา 9.6 ล้านบาท ส่วนคู่ชกตรงรุ่นอย่าง Mercedes-AMG GLA45 S 4MATIC+ นั้นไม่มีขายในไทย มีแต่ Mercedes-AMG CLA 45 S 4MATIC+ ราคา 4,999,000 บาท นั่นก็เป็นรถซิ่งไซส์เล็กคนละรูปแบบตัวถัง เพราะ CLA45 เป็นสปอร์ตซีดาน 4 ประตู ตัวเตี้ยติดพื้น ไม่ใช่ซุปเปอร์ครอสตัวสูงโย่ง แต่ความต้องการรถเล็กบ้าพลัง หมายความว่าการแข่งขันสำหรับ RS Q3 ในตลาดรถ Luxury จะเข้มข้นขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก่อนที่รถไฟฟ้าจะเข้ามาครองตลาดต่อไปในอนาคต

บนทางหลวงชนบทที่ทอดยาวข้ามหุบเขาแถบศรีสวัสดิ์ เครื่องยนต์เทอร์โบมีพละกำลังที่น่าพึงพอใจ อย่างที่คาดหวังไว้ว่า การจ่ายเงิน 4.7 ล้านบาทของคุณ จะได้สิ่งที่ต้องการกลับคืนมา คุณจะได้เครื่องยนต์ห้าสูบรอบจัดจี๊ด ตอบสนองที่รอบต่ำอย่างนิ่มนวลในโหมด Comfort และกระชากอย่างเร่าร้อนเมื่อรอบเครื่องเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 รอบต่อนาที ได้อย่างง่ายดาย เมื่อเครื่องยนต์หมุนอยู่ในย่าน 3,500 รอบต่อนาที การตอบสนองของเทอร์โบแบบฉับพลันทันทีจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนอาการเทอร์โบแลคหรืออาการรอรอบ เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงออกตัว อาการดังกล่าวไม่ได้ทำให้อารมณ์ฟีลลิ่งของการขับลดลงแต่อย่างใดทั้งสิ้น เทอร์โบแลค เป็นอาการปกติของเครื่องยนต์ที่ติดตั้งระบบอัดอากาศ ใน RS Q3 ถือว่าไม่มากเท่ากับ RS6 แรงบิดที่ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นยันปลาย ทำให้ RS Q3 เป็นจักรกลแห่งศักยภาพในการเร่งความเร็ว ในขณะที่อัตราเร่ง 0-100 นั้นดุเดือดเอาเรื่อง การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมของช่วงล่าง ผสานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ท่อไอเสียให้เสียงก้าวร้าวดุดันราวกับเครื่อง V8 เป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิงที่จะทำให้คุณรู้สึกดี จากเสียงประทุ ปุๆ ขณะยกคันเร่ง หรือเสียงพรึบเมื่อเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงหลังจากลากมาจนเข้า Redline เสียงคำรามครางทุ้มต่ำเมื่อลงคันเร่งในโหมด RS1 ให้อารมณ์โหดมากกว่าเครื่องยนต์สี่สูบหรือ 6 สูบของคู่ต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด เกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีด ในโหมดอัตโนมัติหรือ D เปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง อย่างรวดเร็ว ตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาในย่านความเร็วต่ำ มันทำงานได้อย่างราบรื่นที่ความเร็ว 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อขับในเมือง การเปลี่ยนเกียร์เมื่อเร่งความเร็วไร้สิ้นซึ่งอาการกระตุกกระชาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่โหมด Dynamic หรือโหมด RS ทุกสิ่งทุกอย่างใน RS Q3 จะเร็วขึ้นในด้านของการตอบสนอง เพื่อทำให้เครื่องยนต์ 400 แรงม้า เกิดประโยชน์สูงสุดด้านการถ่ายเทพลังงาน การเปลี่ยนเกียร์ผ่านแป้นควบคุม Paddle Shift ให้การตอบสนองที่เฉียบคม เมื่อลดเกียร์ลงต่ำแล้วรอบตวัดขึ้นสูงก่อนถึงหัวโค้ง นั่นคือช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกประทับใจ และจะยิ่งพอใจมากขึ้นเมื่อ RS Q3 ตัวสูง พุ่งเข้าโค้งได้เนียนตาและปราศจากอาการพยศอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ GLA45 ที่สนามช้าง!! 

Sportback ให้การควบคุมเชื่อมโยงกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ RS ที่ผมเคยทดสอบ ทั้ง RS4 Avant และ TT RS ช่วยให้คุณควบคุมรถแบบโค้งต่อโค้งได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ RS Q3 ถูกปรับแต่งให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ตลอดเวลาเพราะมันไม่ได้เร็วเท่ากับซุปเปอร์คาร์ คุณยังมีเวลามากพอที่จะตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือลดความเร็ว ซึ่งในซุปเปอร์คาร์ คาบเวลาในการตัดสินใจดังกล่าวมีเพียงน้อยนิดเพราะไปเร็วกว่า แม้ว่า RS Q3 จะมีอันเดอร์สเตียร์เล็กน้อย เมื่อเข้าโค้งอย่างรุนแรง อย่าประมาทกับซุปเปอร์ครอสคันนี้เป็นอันขาด มันสามารถขับบนถนนที่คดเคี้ยวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แร็คพวงมาลัยแบบโปรเกรสซีฟ พร้อมความบันเทิงที่มาพร้อมกับความเสียวสยอง RS Q3 สามารถแสดงให้เห็นว่ายางหน้ากำลังทำอะไรอยู่ในมุมโค้ง การอัปเกรดระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตให้เหนือชั้นมากกว่า Q3 รุ่นมาตรฐาน สปริงและโช้คอัพที่แข็งขึ้น ความสูงที่ต่ำกว่ารถ Q3 รุ่นมาตรฐานเกือบ 4 นิ้ว เพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำกว่าเดิมและเพิ่มเติมการยึดเกาะในโค้งที่ดีขึ้น ด้วยธีมแบบสปอร์ต RS Q3 ให้การขับขี่ที่กระฉับกระเฉงที่ความเร็วต่ำ ด้วยโหมดที่เหมาะสมกับคาแรกเตอร์ของรถ คุณจะดึงความสามารถและประสิทธิภาพของรถออกมาได้ทุกเมื่อตามต้องการ! 

‘Audi drive select’ ปุ่มปรับโหมดที่อยู่ใต้ชุดควบคุมอุณหภูมิ ใช้ปรับโหมดมาตรฐาน โดยมีปุ่ม RS ที่ก้านวงพวงมาลัยด้านขวา ที่ให้การตั้งค่าใหม่สองแบบ ซึ่งกำหนดค่าการปรับตั้งแยกย่อยได้ นั่นก็คือ โหมด ‘RS1’ และ ‘RS2’ คุณสามารถตั้งค่าการตอบสนองของระบบขับเคลื่อนได้ตามใจชอบ โดยการปรับระบบการขับ เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่เร็วขึ้น การบังคับเลี้ยวเพื่อการเข้าโค้งที่ตอบสนองได้มากยิ่งขึ้น เสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้น และการตั้งค่า ‘Quattro’ 4WD ระหว่าง comfort และ dynamic ท่ามกลางความร้อนแรงของการขับขี่แบบสปอร์ต นักออกแบบของ Audi Sport ได้ติดตั้งปุ่ม ‘โหมด RS’ พิเศษบนก้านวงพวงมาลัย ที่แค่กดเพียงครั้งเดียว RS Q3 ก็จะเข้าสู่โหมดสูงสุดที่คุณต้องการ เบรก 6 พอตคาลิปเปอร์สีแดงเถือกก็เพียงพอต่อการหยุดยั้งหรือลดความเร็ว เพียงแค่เผื่อระยะเบรกเพื่อความปลอดภัย คุณจะขับมันได้อย่างมั่นใจและเพลิดเพลินกับความเร็วที่มันพยายามมอบให้ไปตลอดทาง Audi RS Q3 Sportbackใส่ยาง Continental SportContact 6 ล้อใหญ่ขนาด 21 นิ้ว ไซส์ยางสี่ล้อที่ขนาด 255/35R21 ซึ่งทำหน้าที่ได้ดี แต่ให้ความรู้สึกที่อ่อนด้อยกว่า Pilot Sport 4S เล็กน้อยในแง่มุมของกริบและการยึดเกาะกับผิวถนน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากจุดศูนย์ถ่วงที่สูงกว่าของ RSQ3 เมื่อเทียบกับ TT RS และ RS4 Avant 

แม้ว่ารถจะต้องเผชิญกับร่อง หลุม และผิวถนนที่ไม่สม่ำเสมอ แต่ RS Q3 ก็จะไม่พังทลาย ไม่หลุดหรือสูญเสียความสงบเงียบ! อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ช่วงล่างและยาง Continental SportContact 6 ส่งถ่ายออกมาก็คือความรู้สึกที่เหลือเชื่อของความสมดุลและการยึดเกาะที่ RS Q3 สามารถรักษาเอาไว้ได้ตลอดเวลาและทุกย่านความเร็ว

เมื่อคุณต้องการสิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองโลก เริ่มจาก ประสิทธิภาพและการใช้งานจริง รวมถึงการระเบิดพลังงานอย่างบ้าคลั่ง RS Q3 นำเสนอการขับในรูปแบบที่น่าประทับใจ แน่นอนว่าคุณภรรยาอาจไม่ชอบการพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว เมื่อโดนแรงจีที่มาพร้อมแรงดึงขณะออกตัวเต็มกำลัง  บนถนนคดเคี้ยว Quattro จัดวางตำแหน่งตัวเอง (อย่างที่เคยเป็นมาระยะหนึ่งแล้ว) ให้เป็นรถ AWD ที่มีความสามารถสูงสุด มากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ผลิตที่เป็นคู่แข่งทั้ง M xDRIVE และ 4MATIC+ ระบบขับสี่ Quattro ให้ปลอดภัยในสภาพถนนและสภาพอากาศที่หลากหลาย ช่วยสร้างความมั่นใจในด้านการยึดเกาะไม่ว่าพื้นผิวถนนจะเปียกหรือแห้ง การบังคับเลี้ยวเฉียบคม แม่นยำ และตรงไปตรงมา จากน้ำหนักของพวงมาลัยโปรเกรสซีฟที่แปรผันการหน่วงไปตามความเร็ว ทำให้มั่นใจว่า RS Q3 จะไปในทิศทางที่คุณต้องการ และเกาะติดกับถนนโดยโดยไม่เบี่ยงเบนร่อนซ้ายป่ายขวา แม้จะใช้ล้อที่ใหญ่โตเกินขนาดรถไปไกลอยู่เหมือนกัน เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีด นั้นเข้ากันได้ดีกับเครื่องยนต์ห้าสูบ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการทดกำลังที่แทบจะไม่แตกต่างไปจากเกียร์ 8 สปีด หรือ 9 สปีด เกียร์ทำงานราบรื่นไม่ว่าคุณจะเค้นกำลังสูงสุดออกมา หรืออยู่ในอารมณ์ที่จะขับเรื่อยๆ ในย่านความเร็วต่ำ ห้องโดยสารเงียบกว่าที่คิดไว้ เกิน 100 มีเสียงยางดังเข้ามาบ้างแต่ขับเรื่อยๆ ก็เงียบใช้ได้เลยทีเดียว อย่าลืมว่าล้อ 21 กับยางสปอร์ตนั้น มีเสียงการทำงานที่ดังกว่าล้อและยางที่เล็กกว่า พวงมาลัยฐานตัดหน้าตาเรียบๆ และเบาะนั่งแบบสปอร์ตไม่มีข้อสงสัยใดๆ ห้องโดยสารตกแต่งอย่างสวยงามเน้นความเรียบง่ายและลดจุดที่ฉูดฉาดด้วยโทนสีเทาดำ แม้แต่หนังกลับ Alcantara ที่ตกแต่งบนเบาะ คอนโซลกลางและแผงประตูก็ยังใช้สีเทาที่ดูเคร่งขรึมกว่าสีแดงซึ่งเป็นออปชั่นเสริม จุดที่แตกต่างอยู่ที่เครื่องยนต์ห้าสูบที่จัดจ้าน นับเป็นการปรับแต่งรถยนต์อเนกประสงค์ไซส์เล็กที่มีความลงตัว หากเงินจำนวน 4.7 ล้านบาท ไม่ใช่ปัญหาของคุณ จงเดินไปที่ RS Q3 Sportback และดื่มด่ำกับการขับขี่ที่ดีกว่ารถคู่แข่งเห็นๆ ละครับ.

RS Q3 Sportback quattro

แบบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ แถวเรียง พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง

แบบฉีดตรง (direct injection) และเทอร์โบชาร์จ

จำนวนวาล์ว 20 วาว์ล (4 วาว์ลต่อสูบพร้อมระบบวาว์ลแปรผัน)

ปริมาตรกระบอกสูบ 2,480 ซีซี.

แรงม้าสูงสุด 294 กิโลวัตต์ 400 แรงม้า ที่ 5,850-7,000 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,950-5,850 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ

ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนสี่ล้อ (quattro)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที

ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม./ชม.

ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Start/stop system) 

พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า Progressive Steering

เบรกหน้า ระบบเบรกแบบ RS พร้อมตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกด้วยสีแดง

เบรกหลัง ระบบเบรกแบบ RS พร้อมตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกด้วยสีแดง

พื้นที่เก็บสัมภาระ 530-1,400 ลิตร

ความจุถังน้ำมัน 63 ลิตร

ล้อ 21 นิ้ว ขนาด 8.5J x 21 พร้อมยาง ขนาด 255/35 R21 

ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน 

ระบบความปลอดภัย RS Q3 Sportback quattro

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 

ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง 

ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย 

ระบบเบรกมือไฟฟ้า 

ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist) 

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) 

ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution) 

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system) 

ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function) 

ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน (Hill descent control) 

ระบบ Audi pre sense basic 

เซนเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด 

กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด 

จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก 

ชุดปฐมพยาบาล

อุปกรณ์มาตรฐาน RS Q3 Sportback quattro

ช่วงล่างแบบ RS Sports 

ระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports 

คาลิปเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง 

ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select) 

ชุดตกแต่งภายนอกแบบ RS 

ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่น

ด้วยสี Glossy Black

ชุดตกแต่งภายในแบบ RS 

ตกแต่งห้องโดยสารภายในลาย Carbon Twill 

หลังคาพาโนรามิกเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า 

ไฟหน้าแบบ Matrix LED 

ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED 

กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ 

ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ 

กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า, ไล่ฝ้า 

คันเกียร์หุ้ม Alcantara สีดำ

สายเข็มขัดนิรภัยสีดำตกแต่งขอบด้วยสีแดง 

พรมในห้องโดยสารด้านหน้าสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ RS 

ความสะดวกสบาย

เบาะนั่งหุ้มหนัง Fine Nappa 

เบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ honeycomb 

เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง 

ฟังก์ชั่นเบาะอุ่นสำหรับเบาะนั่งคู่หน้า 

เบาะผู้โดยสารด้านหลังพับได้ 

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน 

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้ม Alcantara แบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ RS

และ Paddle shift

ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control) 

กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ 

ระบบข้อมูลและความบันเทิง

ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ 

จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว 

ระบบ MMI Navigation plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส (MMI touch) ขนาด 10.1 นิ้ว 

ระบบ Audi smartphone interface 

รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับ MP3 

ช่องเชื่อมต่อ USB ในห้องโดยสารด้านหน้าและด้านหลัง 

ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับสีได้ (Contour/ambient lighting)