24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 27 กันยายน 2565

28 ก.ย. 2565 | 05:47:43

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 27 กันยายน 2565 

>> ตร. เตรียมความพร้อมผู้ปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัย การประชุมเอเปค 

09.00 น.​ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมเอเปค โดยมีการจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัย สถานที่พำนักของผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและสถานที่จัดการประชุมที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่โรงแรม royal river เขตบางพลัด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธร​ ภาค 1 ถึง 8 รวมเกือบ 170 นาย โดยจะเน้นให้ความรู้และแนวปฏิบัติเรื่องการวางกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย การคัดกรองบุคคลที่จะเข้าร่วมงาน ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อบังคับต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดงานดังกล่าว 

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมในการวางกำลังรักษาความปลอดภัยการจัดประชุมดังกล่าวไปมากกว่า 50% แล้ว โดยมีเตรียมกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้มากกว่า 15,000 คน โดยจะให้แต่ละกองบัญชาการที่รับผิดชอบดูแลสถานที่พำนักตามโรงแรมต่างๆทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ไปลงพื้นที่ในสถานที่จริง เพื่อเก็บข้อมูลจุดอ่อน จุดแข็ง จุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อนำมาวางแผนแนวทางการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยอีกครั้ง ทั้งนี้เชื่อว่าในระยะเวลาที่เหลืออีกเกือบ 2 เดือนนี้ จะสามารถวางรูปแบบการรักษาความปลอดภัยและดูแลงานให้รัดกุมได้ 

>> ปภ.เผยยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 20 จังหวัด ประสานพื้นที่เร่งระบายน้ำและช่วยเหลือประชาชน 

09.45 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก 

ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 22 – 26 ก.ย. 65 เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 20 จังหวัด ได้แก่ (เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิษณุโลกเลย ขอนแก่น ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ นครราชสีมา มุกดาหาร ยโสธร หนองบัวลำภู ระยอง ปราจีนบุรี สมุทรปราการ รวม 69 อำเภอ 139 ตำบล 356 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 2,839ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 16 จังหวัด รวม 60 อำเภอ 120 ตำบล 325 หมู่บ้าน 

>> ​รอง ผบ.ตร. สั่งตำรวจพร้อมช่วยเหลือประชาชน รับพายุ”โนรู” 

11.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ผบ.ตร. มีความห่วงใยในสถานการณ์ ดังกล่าว จึงสั่งกำชับให้ทุกหน่วย บช.น., ภ.1-9 และหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม แผนเผชิญเหตุปฏิบัติการช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่ ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ป้องกันภัยจังหวัด และกรมทางหลวงในเรื่องถนนหนทาง ย้ำตำรวจ ตชด.คอยติดตามข่าวสารเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามพื้นที่เสี่ยงจากน้ำป่าไหลหลากตามแนวภูเขา 

อีกทั้งให้ทุกหน่วยจัดกำลังจิตอาสา ชุดปฏิบัติการต่างๆ พร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือและยานพาหนะ เช่น ชุดขนย้ายประชาชนและสิ่งของ มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ในการบรรเทาสาธารณภัย และเข้าช่วยเหลือด้านต่างๆ มีชุดปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือรถเสียจากน้ำท่วม กีดขวางการจราจร จัดการจราจรหลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วม ถนนหนทางที่ขาดพร้อมอำนวยความสะดวกเส้นทางสัญจร และชุดสายตรวจคอยป้องกันเหตุอาชญากรรมไม่ให้คนร้ายมาฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อน รวมทั้งติดตามข่าวสาร เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ 

>> ก.กลาโหม สั่งกองทัพช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วม 

12.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกองทัพสนับสนุนรัฐบาลและกทม.ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระจากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล โดยให้จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ เครื่องมือช่าง ยานพาหนะ รถ เรือ รวมถึงเครื่องสูบน้ำเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานร่วมกับส่วนราชการและจิตอาสาในพื้นที่ต่าง ๆ 

ขนะที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยทหารทั่วประเทศ พร้อมขอบคุณกำลังพลในทุกพื้นที่ที่เข้าช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ปัจจุบันยังคงต้องเฝ้าระวังอิทธิพลของพายุโนรู ที่จะส่งผลกระทบกับพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้มีฝนตกหนักในสัปดาห์นี้ โดยได้เตรียมมาตรการดูแลช่วยเหลือในด้านที่อยู่อาศัย อาหาร การแพทย์ รวมทั้งเครื่องมือในการประกอบอาชีพ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติ ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร ให้หน่วยทหารเข้าช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนเกิดอุทกภัย รวมถึงช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเปิดพื้นที่ค่ายทหารให้ชาวนานำข้าวมาตากเพื่อลดความชื้นและรักษาคุณภาพข้าวให้กับเกษตรกร 

>> ยอดผู้ติดเชื้อโควิด ประจำวัน 

12.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ว่า เบื้องต้นมีผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) 351 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 351 ราย และมีเสียชีวิตเพิ่ม 10 ราย 

>> กรมชลประทาน ยัน อ่างเก็บน้ำทุกแห่ง ยังมั่นคงแข็งแรงดี 

13.00 น. นายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน ยืนยันว่า อ่างเก็บน้ำทุกแห่งยังมีความมั่นคงแข็งแรง สำหรับการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ ได้พิจารณาควบคุมให้มีความสอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯ และไม่ให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ท้าย 

ส่วนอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำมากกว่า 100% ของความจุนั้น น้ำจะระบายไหลผ่านอาคารระบายน้ำล้น ซึ่งเป็นอาคารที่ทำหน้าที่เพื่อให้น้ำล้นผ่าน ในปริมาณที่สัมพันธ์กับปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯ พื้นที่ด้านท้ายบางแห่งอาจมีน้ำท่วมขังในบริเวณที่เป็นที่ลุ่มต่ำบ้าง เนื่องจากมีปริมาณน้ำจากฝนที่ตกในพื้นที่มาเสริมด้วย และสำนักงานชลประทานที่ 8 ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหากมีกรณีฝนตกหนัก หรือลมกระโซกแรงจนส่งผลกระทบต่ออาคารชลประทาน และทรัพย์สินของทางราชการให้เข้าไปดำเนินการแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว รวมทั้งกำชับให้คอยติดตาม ตรวจสอบอาคารชลประทานให้มีสภาพพร้อมใช้งาน และบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม พร้อมทั้งปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ 

>> ครม.เห็นชอบให้ไทย รับเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ปี 68 

15.00 น. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม. เห็นชอบให้ประเทศไทย เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ในปี 2568 กรอบวงเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายรวม 2,055 ล้านบาท การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ในครั้งนี้ เนื่องจากถึงรอบของไทยที่จะต้องเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ซึ่งครั้งล่าสุดที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ในปี 2550 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย สู่สายตาประชาคมอาเซียน , สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ ให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศในทุกๆด้าน , สร้างรายได้ให้กับประเทศเกิดการหมุนเวียนในระบบ โดยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายเงินของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้แทนองค์กรกีฬาต่างๆ และผู้สังเกตการณ์ ประมาณ 12,000 คน และประเทศไทยจะได้แสดงความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา 

ส่วนจังหวัดเป้าหมายที่จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่, ชลบุรี , นครราชสีมา , ภูเก็ตและสงขลา และ กทม. พร้อมกันนี้ ระหว่างการประชุม ได้มีการเสนอเพิ่มกลุ่มจังหวัดเป้าหมายอีก 1 พื้นที่ คือกลุ่มจังหวัดอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนองและสตูล ขณะที่สนามสำหรับพิธีเปิดและพิธีปิด จะต้องมีความจุตั้งแต่ 20,000 ที่นั่งขึ้นไป ส่วนการถ่ายทอดสดการแข่งขันจะขอรับการสนับสนุนจาก กสทช. 

>> กกต. แนะ สิ่งที่ห้ามทำในช่วงระยะเวลาการหาเสียง ก่อนการเลือกตั้ง ส.ส. 

15.30 น. สำนักกฎหมายและคดี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศแนวทางการปฏิบัติและข้อควรระวังในช่วงระยะเวลาการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของผู้สมัคร, พรรคการเมือง, ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง, หน่วยงานของรัฐ เนื่องจากการครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งให้กระทำได้ตั้งแต่ 180 วันก่อนวันครบอายุ จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง 

ทั้งนี้ กกต. มีการระบุรายละเอียดต่างๆ ที่สามารถทำได้ ที่ต้องระวัง และสิ่งที่ห้ามกระทำ เพราะอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งได้ อาทิ การไปร่วมงานแต่ง งานบวช งานศพ ต้องไม่มีการให้เงิน หรือทรัพย์สินต่างๆ, หลีกเลี่ยงการจัดงานในลักษณะที่เป็นงานขนาดใหญ่ มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก, ห้ามนำคนไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งโดยได้รับค่าตอบแทน หรือประโยชน์ตอบแทน, ไม่สามารถมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่างๆ ได้ เช่น การมอบสิ่งของช่วยเหลืออุทกภัย วาตภัย เหตุอัคคีภัย และโรคระบาด, ห้ามมิให้มีการกระทำใดๆ ที่เป็นการอาศัยตำแหน่งหน้าที่นั้นกระทำการหาเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้อื่น หรือพรรคการเมือง ขณะที่ป้ายหาเสียงเลือกตั้งก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ กกต. 

>> รถจยย. ชนประสานงา รถพ่วง เสียชีวิต 

16.00 น.รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบอุบัติเหตุถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันออก เลยจากวัดแสนเกษม 1 กิโลเมตร เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร 

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว-แดง ทะเบียน  กทม. ชนประสานงากับรถ 18 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียนหัวพ่วง  ฉะเชิงเทรา 

ความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อต่อมา นาย พุฒิพงษ์ อายุ 54 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาสำราญ 

>> สธ.กำชับสถานพยาบาล เตรียมรับมือพายุ “โนรู” ไม่ให้กระทบบริการประชาชน 

16.37 น. นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ภูมิอากาศของประเทศไทย พบว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม เป็นต้นมา มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2565 – ปัจจุบัน มีรายงานผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย บาดเจ็บ 21 ราย และยังมีสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งใน 5 จังหวัด และน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในอีก 16 จังหวัด ซึ่งขณะนี้สถานพยาบาลในสังกัดทุกแห่งยังเปิดให้บริการได้เป็นปกติ มีเพียง รพ.สต. 2 แห่งใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เปิดให้บริการได้บางส่วน 

สำหรับในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม นี้ พายุโซนร้อน “โนรู” จะส่งอิทธิพลโดยตรงต่อประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ร่วมกับลมแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงอันตรายอื่นๆ ได้ ขอให้สถานพยาบาลทุกแห่งเร่งสำรวจความแข็งแรงของสิ่งก่อสร้าง อาคาร รวมถึงระบบไฟส่องสว่าง และซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดให้มีความปลอดภัย ดูแลอาคารสถานที่และครุภัณฑ์ที่อาจได้รับผลกระทบ โดยใช้หลักป้องกัน ยกสูง เคลื่อนย้าย รวมถึงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ และผลกระทบด้านโรคและภัยสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งสำรองยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้เพียงพอต่อการให้บริการ หากมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ให้จัดหาสถานที่สำรองหรือจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้มารับบริการ 

>> รถขนเงิน ชนแบริเออร์ก่อนคว่ำลงร่องกลาง เสียชีวิต 3 ศพ 

17.30 น. รับแจ้งอุบัติเหตุ รถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เหตุเกิดที่ บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ตอนที่ 5 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 116+800 ฝั่งขาเข้าพัทยา ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 

ที่เกิดเหตุบริเวณในร่องริมถนน พบรถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถขนเงินของบริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งสภาพตัวรถส่วนหัวเก๋ง ขาด กระจกแตกทั้งบาน ส่วนตู้ทึบนิรภัยสำหรับขนเงิน ขาดหลุดออกจากตัวรถ พังเสียหายยับเยิน ภายในห้องโดยสาร ยังพบร่าง นายศราวุธ  อายุ 33 ปี เป็นคนขับ นายนิธิ  อายุ 32 ปี และ นายศุภชัย อายุ 47 ปี อยู่ในสภาพกะโหลกศีรษะเปิดเป็นแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตคาที่ทั้ง 3 คน 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดร่างผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 ราย ออกจากตัวรถ แล้วใช้ผ้าขาวคลุมไว้ ส่วนด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กั้นผู้ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากที่เกิดเหตุ เนื่องจากในตู้ทึบนิรภัยของรถขนเงินนั้นมีเงินสดจำนวนมากประมาณกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสลดในครั้งนี้ 

>> รถเก๋ง ฟาดเสาไฟ คนขับดับคาซากรถ 

23.55 น รับแจ้งจากศูนย์สั่งการกู้ชีพลพบุรี ตรวจสอบอุบัติเหตุ ถนนเส้นทางพหลโยธิน ขาเข้า บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี 

โดยที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล เชฟโลเล็ต สีขาว ทะเบียน กทม. ลักษณะเสียหลักชนกับเสาไฟข้างทาง ความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตติดภายในรถยนต์เก๋ง เป็นชาย 1 ราย อาสากู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่องัดรถและนำร่างออกจากยานพาหนะ ตรวจสอบเอกสารทราบชื่อต่อมา นาย ชวลิต อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.ลพบุรี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ก่อนจะให้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต ชันสูตรเพิ่มเติมที่ โรงพยาบาลพระนารายณ์ 

>> ชนโครมเดียว เสียชีวิต 3 ศพ 

01.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดอุบัติเหตุ ถนนกาญจนาภิเษก มาจากฝั่งถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี บริเวณก่อนถึงสะพานข้ามคลองบางพรม ประมาณ 100 เมตร ในช่องทางหลัก 

โดยที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ฟอร์ด แรนเจอร์ สีเทา ทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน กทม. ความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชายรวม 3 คนอายุประมาณ 30-40 ปี โดยร่างที่ 1 อยู่บนพื้นถนนในฝั่งขาเข้า, ร่างที่ 2 ตกอยู่ร่องกลางถนน และร่างที่ 3 กระด็นข้ามไปอยู่ในฝั่งขาออก ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเสาธง

>> แผ่นดินไหว ที่เมียนมา 

04.08 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.4 แมกนิจูด ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางอยู่ห่างออกไป ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 88 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย  

>> หนุ่มขับเก๋งชนท้ายรถ 6 ล้อเสียชีวิต 

04.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดอุบัติเหตุ ถนนบรมราชชนนี ขาเข้า เลยห้างเซ็นทรัล ศาลายา ประมาณ 500 เมตร บริเวณใกล้เคียงปั๊มน้ำมันบางจาก จ.นครปฐม

ที่เกิดเหตุเป็น รถนั่งส่วนบุคคล มิตซูบิชิ มิราจ สีฟ้า ทะเบียน กทม. ชนท้ายรถ 6 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ราชบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตชาย 1 คน นาย กิตติพงษ์ อายุ 34 ปี พื้นที่ สภ.สามพราน  

>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 28 กันยายน 2565 เวลา 05.00 น. 

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 620,991,308 ราย รักษาอาการดีขึ้น 601,234,450 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,542,197 ราย 

1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 97,965,844 ราย เสียชีวิต 1,082,060 คน (เพิ่มขึ้น 30 คน) 

2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,575,473 ราย เสียชีวิต 528,562 คน (เพิ่มขึ้น 32 คน) 

3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 35,238,174 ราย เสียชีวิต 155,000 คน (เพิ่มขึ้น 40 คน) 

4. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 34,681,231 ราย เสียชีวิต 685,881 คน (เพิ่มขึ้น 21 คน) 

5. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 33,041,332 ราย เสียชีวิต 149,576 คน (เพิ่มขึ้น 118 คน) 

ประเทศไทยอยู่อันดับ 29 ของโลก ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,679,022 ราย (เพิ่มขึ้น 351 ราย) เสียชีวิต 32,739 คน (เพิ่มขึ้น 10 คน)  


Share this: