ชนสนั่น 4 คันรวด เสียชีวิต 1 คน

ข่าวภูมิภาค 5 มกราคม 2566 – ห้องข่าวภาคเที่ยง – เมื่อคืนเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน 4 คันรวด บนสะพานต่างระดับฉิมพลี เขตทวีวัฒนา มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นหญิงสาวอายุ 21 ปี ที่นั่งมากับรถ ส่วนคนขับเป็นชาย 21 ปี เช่นกัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ชนสนั่น 4 คันรวด เสียชีวิต 1 คน

จุดเกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน อยู่บนสะพานต่างระดับฉิมพลี ถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าบางแค แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพพังยับทั้งคันจอดอยู่เลนขวาสุด ภายในรถมีคนติดอยู่ 2 คน เป็นชายและหญิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือ โดยคนขับรถเป็นชายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทราบชื่อ คือ นายสุรชัย อายุ 21 ปี ส่วนฝ่ายหญิงที่นั่งข้าง คือ นางสาวสุวิภา อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพชนติดอยู่ด้านข้างรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนนครปฐม จอดนิ่งสนิทในลักษณะย้อนศรอยู่เลนกลางถนน นอกจากนี้ ยังพบรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกข้าว ทะเบียนอุบลราชธานี ได้รับความเสียหายที่ด้านขวาของตัวรถอีก 1 คัน เจ้าหน้าที่ต้องปิดสะพานต่างระดับ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

คนขับรถบรรทุกสิบล้อบอกว่า ขณะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถบรรทุก 6 ล้อ ขับอยู่เลนกลางเยื้องไปทางด้านหลัง ส่วนรถฮอนด้าบริโอ ขับอยู่เลนขวาสุด มีรถฮอนด้าซีวิค ขับประกบข้างมาด้วยความเร็วคล้ายแข่งกัน จู่ ๆ รถฮอนด้าซีวิคเสียหลัก เฉี่ยวชนกับท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ก่อนพุ่งมาชนท้ายรถบรรทุกของตนเอง จนยางล้อหลังระเบิด ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อเสียหลัก หมุนไปชนด้านข้างรถตนเอง และไปชนกับรถฮอนด้าบริโอ้ที่กำลังขับเลนขวาสุด

ชายสติไม่ดีนั่งกลางถนน รถชนเสียชีวิต

อีกอุบัติเหตุหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืด บนถนนพระรามที่ 2 ขาเข้า ในช่องคู่ขนาน พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 40-45 ปี ไม่พบเอกสารใด ๆ และยังพบผู้ขาดเจ็บอีก 1 คน เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล

ใกล้กันพบรถกระบะ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มี นายสนอง อายุ 50 ปี เป็นคนขับ เล่าเหตุการณ์ว่า กำลังขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน เห็นชายคนดังกล่าวนั่งอยู่กลางถนน จึงหักหลบแต่ได้เฉี่ยวชนจนล้ม ก่อนที่จักรยานยนต์ที่ขี่ตามมาพุ่งชน จนทำให้ทั้งผู้ตายและคนขี่รถจักรยานยนต์กระเด็นไปคนละทิศละทาง