เมื่อ 21 ปีก่อน Porsche เคยสร้างรถแข่งสายพันธุ์ 911 Cup ครั้งแรกเมื่อปี 1990 เป็นการนำเอาพื้นฐานโครงสร้างของ Porsche รหัสตัวถัง 964 มาพัฒนาต่อ และนำลงสนามอย่างเป็นทางการฤดูกาลแรกในรายการ Porsche Carrera Cup ประเทศเยอรมนี ด้วยกำลัง 260 แรงม้าในขณะนั้น จนกระทั่งปี 1993 รถแข่งดังกล่าวได้รับการบรรจุให้ลงสนาม ในรายการใหม่อย่าง Porsche Supercup ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการแข่งขัน Formula 1 นับจากนั้น เป็นต้นมา ทายาทผู้สืบทอดเกียรติประวัติแห่งความสำเร็จสูงสุดในฐานะรถแข่ง ได้เปิดตัวต่อมาอีก 5 เจเนอเรชัน บันทึกสถิติรถแข่ง ที่มียอดการผลิตสูงสุดตลอดกาลจำนวนทั้งสิ้น 4,251 คัน
สปอยเลอร์หลัง ร่วมกับปีกหลังและชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น สปอยเลอร์หน้า รวมทั้งอุปกรณ์บังคับทิศทางของกระแสลมส่วนอื่น ที่สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามสถานการณ์ ปีกหลังทรงสูง ปรับตั้งการทำงานได้ 11 ระดับจากจุดยึดแบบ ‘swan neck’ ทำให้ไม่มีการรบกวนการไหลของกระแสอากาศใต้ปีก เพิ่มเสถียรภาพในการควบคุม โดยเฉพาะการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงโครงสร้างตัวถังของรถแข่งเจเนอเรชัน 991.2 รุ่นเก่า ประกอบด้วยเหล็กกล้า 70 เปอร์เซ็นต์ อะลูมิเนียม 30 เปอร์เซ็นต์ อัตราส่วนดังกล่าวถูกสลับในรถแข่งคันใหม่ รถ GT3 Cup มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 35 กิโลกรัม โดยมีน้ำหนักไม่รวมของเหลว1,260 กิโลกรัม ส่วนที่เพิ่มขึ้น คือจุดยึดสตรัท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งภายในพื้นที่นิรภัย หลังคาแบบถอดได้ในกรณีเกิดอุบัติเหตุตามมาตรฐานล่าสุดของ FIA หน้าต่างผลิตจากวัสดุ polycarbonate น้ำหนักเบา ทนทานต่อรอยขีดข่วน และแรงกระแทก ด้วยการเคลือบแข็ง ประตูรถ ฝากระโปรงท้ายและปีกหลัง ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ฝากระโปรงหน้า รวมทั้งช่องระบายอากาศ และช่องรับอากาศเข้าห้องโดยสาร ยังคงใช้วัสดุพื้นฐาน ชิ้นส่วนดังกล่าวผลิตจากอะลูมิเนียม ทำให้มีค่าใช้จ่ายต่ำ หากต้องซ่อมแซมในกรณีที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขัน
นักออกแบบและวิศวกรทำงานร่วมกันเพื่อพิจารณาถึงหลักสรีรศาสตร์ในการวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ โดยละเอียด เพื่อรองรับผู้ขับเป็นพิเศษ นอกจากการปรับเลื่อนเข้าออกในแนวราบ เบาะ racing seat ใหม่ยังสามารถปรับความสูงได้ถึง 2 ระดับ เมื่อผสานกับคอพวงมาลัยที่ปรับระดับได้ ทำให้เกิดตำแหน่งที่นั่งที่มีความเหมาะสม แผ่นรองรับร่างกายที่มีหลายขนาดความหนา ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสรีระของผู้ขับได้หลากหลาย การออกแบบหลังคารถใหม่ พวงมาลัย carbon-fibre multifunction สำหรับการแข่งขัน ยกมาจากตัวแข่งรุ่นใหญ่ 911 GT3 R ด้วยข้อมูลที่ได้จากนักแข่ง ช่างและวิศวกรทำการจัดเรียงตำแหน่งชุดสวิตช์ควบคุมเรืองแสงใหม่ ปุ่ม Rubber Switch Panel (RSP) ขนาดใหญ่จำนวน 10 ปุ่มในแนวด้านขวา คล้ายแผงควบคุมในรถแข่ง 919 Hybrid ง่ยต่อการใช้งาน แม้ในระหว่างการแข่งขัน ออกเเบบเพื่อควบคุมฟังก์ชันหลัก เช่น ระบบแสงสว่าง ระบบระบายอากาศ หรือการปรับตั้งค่าตัวรถเมื่อเปลี่ยนจากยางแห้งเป็นยางเปียก หนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดอันชาญฉลาดคือ การปรับตั้ง brake balance ในรถแข่งรุ่นใหม่ ผู้ขับสามารถตั้งค่าได้ง่ายขึ้น ผ่านสวิตช์โรตารี่ด้านขวาสุดของปุ่ม RSP ทั้งนี้ ทิศทางการเลื่อนสวิตช์จะขึ้นอยู่กับความต้องการปรับเพิ่มหรือลดแรง ดันเบรกของล้อคู่หน้า
นักออกแบบเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์บนคอนโซลกลางใหม่แบบยกชุด หน้าจอสีขนาด 10.3 นิ้ว แสดงข้อมูลหลักที่ผู้ขับ จำเป็นต้องได้รับ ขณะอยู่ในสนาม รอบเครื่องยนต์ อุณหภูมิน้ำ และน้ำมันหล่อลื่น สัญญาณเตือนฉุกเฉิน หรือค่าความผิดปกติต่างๆ ถูกตั้งค่าให้ปรากฎขึ้นทันทีเมื่อจำเป็น เช่น ข้อความเตือน “wet” เมื่อฝนตก การแสดงข้อมูลทุกครั้งได้รับการออกแบบให้ถูกต้องตรงกันทั้งจากหน้าจอบนรถ และหน้าจอคอมพิวเตอร์ควบคุมการ แข่งขัน เพื่อให้มั่นใจว่านักแข่งและวิศวกรจะเห็นข้อมูลที่เหมือนกัน ช่วยให้วิเคราะห์ผลการแข่งแต่ละสนามได้อย่างตรงประเด็น
ชมและฟังเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ Boxer 6 สูบนอน 4.0 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาให้ง่ายต่อการใช้งาน สามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดต่างๆ รวมทั้งแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง ทันท่วงทีมากกว่า 700 แนวทางการวิเคราะห์ โดยเลือกใช้งาน software พิเศษเฉพาะทาง ช่วยในการสรุปข้อมูลต่างๆ ครอบคลุมทุกระบบ ฟังก์ชันการทำงานเสริม เช่น ระบบ ABS หรือระบบ traction control บรรจุพร้อมใช้งาน สามารถสั่งการได้ผ่าน digital code ในการแข่งขัน Porsche Mobil 1 Supercup และรายการ Carrera Cups ระดับสากลทั้งหมด ระบบช่วยเหลือดังกล่าวจะถูกปิดการทำงาน สำหรับการลงสนามเพื่อค้นหาผู้ชนะในซีรีส์นี้ ที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักแข่งเพื่อชิงชัยเท่านั้น
รายละเอียดอื่นๆ ที่เน้นย้ำให้เห็นถึงความประณีตในการสร้างสรรค์รถแข่ง Porsche 911 GT3 Cup จากการจัดเรียงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายรอบตัวรถ กล่องควบคุม Motorsport control units และระบบบันทึกข้อมูลการขับขี่ data loggers ย้ายตำแหน่งจากที่วางเท้าฝั่งผู้โดยสาร ไปยังมุมขวาของห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ การติดตั้งเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสาร เมื่อมีความจำเป็นต้องขับขี่ชั่วคราวในลักษณะ ‘racingtaxidrives’
ช่วงล่างของรถแข่ง 911 Cup คือ ศูนย์รวมเทคโนโลยีจากสนามความเร็วสูง ช่วงล่างด้านหลังแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรถสปอร์ตในสายการผลิตปกติ ช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ double wishbones ลูกปืนแบบ Uniball bearings เหมือนกับ 911 RSR รถแข่งตัวแรงสุดของ Porsche ในปัจจุบัน โช้คอัพไม่มีความจำเป็นต้องรับแรงในแนวราบ มีเพียงแรงในแนวแกนหรือแนวตั้งเท่านั้นที่กระทำ ผลลัพธ์คือความเฉียบคมขณะบังคับเลี้ยว ให้ความรู้สึกมั่นคงถึงการทำงานของช่วงล่างด้านหน้า ตัวโช้คอัพติดตั้งวาล์วระดับสุดยอด ถ่ายทอดมาจาก 919 Hybrid และ 911 RSR ชุดบังคับเลี้ยวพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า electro-mechanical ครั้งแรกในรถแข่ง 911 GT3 Cup ไม่จำเป็นต้องใช้ปั๊มเพาเวอร์ และท่อทางน้ำมันไฮดรอลิกทั้งหลายอีกต่อไป
รถแข่ง 911 GT3 Cup วางเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน ไร้ระบบอัดอากาศในเวอร์ชันรถเเข่งพันธุ์แท้ ขนาดความจุ 4.0 ลิตร ระบายความร้อนด้วยน้ำ กำลังสูงสุด 510 แรงม้า (375 กิโลวัตต์) มีการปรับให้รอบการทำงานสูงขึ้น พร้อมระบบหล่อลื่นด้วยอ่างน้ำมันเครื่องแบบ dry-sump รีดรอบเครื่องยนต์ถึงกว่า 8,400 รอบต่อนาที เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ 7,500 รอบต่อนาที ตัดการทำงาน redlines ที่ 8,750 รอบต่อนาที แรงบิด 470 นิวตันเมตร ที่ 6,150 รอบต่อนาที ระบบเชื้อเพลิงใช้ลิ้นปีกผีเสื้อเดี่ยว พร้อมท่อร่วมไอดี ติดตั้ง resonance flaps คู่ ทำงานร่วมกับระบบระบายไอเสีย พร้อมแคททาไลติด คอนเวอร์เตอร์สำหรับการแข่งขัน เลือกติดตั้งระบบระบายไอเสียได้ 3 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับรายการแข่งขันข้อ กำหนดของ FAA และสนามแต่ละแห่ง ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องยนต์ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ Bosch MS 6.6
เครื่องยนต์ 6 สูบ บล็อกนี้ ต้องการการบำรุงรักษา หลังจากการลงสนาม 100 ชั่วโมง ชุดส่งกำลัง ใช้ระบบเกียร์ sequential dog-type 6 จังหวะ น้ำหนัก 72 กิโลกรัม single-mass flywheel และคลัทช์ sintered metal สามแผ่น สำหรับการแข่งขัน เปลี่ยนเกียร์ด้วยแป้น paddle shift บนพวงมาลัย ระบบเกียร์ดังกล่าว มีการตรวจสอบเบื้องต้น หรือ minor inspection หลังจากการลงแข่ง 60 ชั่วโมง หรือประมาณ 2 ปี ในการแข่งขันรายการ Porsche Mobil 1 Supercup และต้องยกออกเพื่อโอเวอร์ฮอร์นหลังจากใช้งาน 120 ชั่วโมง ในการลงสนาม กลไกการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ shift barrel actuator ควบคุมการทำงานโดย electric servo-motor เปลี่ยนจากการใช้ชุดนิวแมติกในรุ่นเดิม ซึ่งมีข้อได้เปรียบคือการเปลี่ยนอัตราทดที่รวดเร็วขึ้น เพิ่มเติมฟังก์ชันการวิเคราะห์ปัญหาในขณะใช้งาน และเสี่ยงต่อความเสียหายน้อยลง ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนเกียร์ผิดตำแหน่งโดยไม่ได้ตั้งใจ
911 Cup ทุกคันจาก Porsche Motorsport จะได้รับการส่งมอบพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ ตกแต่งสมบูรณ์แบบจากโรงงาน อาทิ เครื่องมือพิเศษทั้งหมด และสเปเซอร์ในกรณีปรับตั้งช่วงล่าง ให้เข้ากับการขับขี่แต่ละสนาม ดังนั้น 911 GT3 Cup พร้อมลงสนามแข่งขันได้ทันที โดยที่ทีมแข่งอิสระไม่จำเป็นต้องสั่งซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม
รถแข่งเจเนอเรชันล่าสุด หม้อน้ำระบายความร้อนยังคงได้รับการติดตั้งบริเวณหลังชิ้นส่วนตัวถังหน้ารถ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงในการเสียหายของหม้อน้ำจากการขับขี่บนความเร็วสูงและเปิดโอกาสให้สามารถ ติดตั้งชุดสตรัทได้โดยไม่ก่อให้เกิดการกระทบกระแทกกับชิ้นส่วนอื่นใด
ชุดคาลิเปอร์เบรกแบบพิเศษ สามาถเปลี่ยนผ้าเบรกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เพลาขับหลังออกเเบบเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ ให้ความทนทานสูง
ห่วงผ้า Textile loops ได้รับการติดตั้งสำหรับการลากจูงตัวรถ แทนจุดยึดแบบตะขอเหล็กในรุ่นก่อนหน้า
ระบบดับเพลิงฉุกเฉิน central nozzle ใหม่ ปรับปรุงการกระจายตัวของสารดับเพลิงให้ครอบคลุมพื้นที่ภายในห้องโดยสาร
เปลี่ยนตำแหน่งของ release unit ช่วยให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถตรวจสอบความถูกต้องในการทำงานของระบบดับเพลิงฉุกเฉินจากภายนอกรถได้ง่ายยิ่งขึ้น
ปรับปรุงมือเปิดประตูฉุกเฉิน safety quick releases จากด้านใน ให้เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์ เมื่อต้องการออกจาก ตัวรถในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านระบบ onboard โดยปราศจากฟิวส์แบบเดิม ลดปริมาณวัสดุที่ใช้ในการเดินสายไฟ และลดน้ำหนักรวมให้ต่ำลง การออกแบบใหม่ ช่วยให้การซ่อมบำรุงทำได้ง่ายยิ่งขึ้นจากตำแหน่งศูนย์รวม
ในกรณีที่เครื่องยนต์ขัดข้องขณะออกสตาร์ต ไฟฉุกเฉินจะติดขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อเตือนให้นักแข่งคนอื่นระมัดระวัง การเฉี่ยวชนที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลทางเทคนิค Porsche 911 GT3 Cup 992 รุ่นปี 2021
น้ำหนัก/มิติตัวถัง
น้ำหนักรวม: 1,260 กิโลกรัม
ความยาว: 4,585 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,920 มิลลิเมตร (เพลาล้อหน้า) / 1,902 มิลลิเมตร (เพลาล้อหลัง)
ฐานล้อ: 2,459 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์
แบบ 6 สูบนอน ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 3,996 ซีซี ระยะชัก 81.5 มิลลิเมตร ความโตกระบอกสูบ 102 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 510 แรงม้า (375 กิโลวัตต์) ที่ 8,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 6,150 รอบต่อนาที เทคโนโลยีสี่วาล์วต่อสูบ ระบบลิ้นปีกผีเสื้อแบบเดี่ยว ท่อร่วมไอดีติดตั้ง resonance flaps คู่ ระบบควบคุมเครื่องยนต์ Bosch MS 6.6 ระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์แบบ dry-sump ล้อช่วยแรงแบบ single-mass flywheel ระบบระบายไอเสียพร้อมแคททาไลติค คอนเวอเตอร์ ผ่านมาตรฐาน DMSB certified รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง ไร้สารตะกั่ว Superplus unleaded จนถึง E20 (ค่าออกเทนต่ำสุด 98)
ระบบเกียร์
ระบบส่งกำลัง 6 จังหวะแบบ sequential dog-type แป้นเปลี่ยนเกียร์ paddles shift บนพวงมาลัย พร้อม electronic shift barrel actuator เฟืองท้ายแบบ limited slip differential ชุดคลัทช์ sintered metal สามแผ่นสำหรับการแข่งขัน
โครงสร้างตัวถัง
แชสซีน้ำหนักเบาด้วยการออกแบบผสมผสานระหว่างอะลูมิเนียมและเหล็กกล้า จุดรองรับสำหรับอุปกรณ์ยกรถ หลังคาแบบถอดออกได้เพื่อเข้าถึงตัวนักแข่งในกรณีฉุกเฉิน โครงสร้างนิรภัยเชื่อมติดกับตัวถังผ่านการรับรองเพื่อ ใช้ร่วมกับ co-driver สำหรับการแข่งขันในสนาม เบาะนั่งสำหรับการแข่งขันตามมาตรฐาน FIA 8862/2009 ยึดติดกับแชสซี ปรับเลื่อนตามแนวระนาบปรับความสูงและมุมเอียงได้ 2 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบ 6 ตำแหน่งพร้อมใช้งานร่วมกับระบบ HANS® คอพวงมาลัยปรับระดับได้ พร้อมเซนเซอร์ตำแหน่งพวงมาลัย ครอบกันชนหน้าพร้อมระบบ quick-release fasteners ช่องระบายอากาศ และช่องรับอากาศเข้าห้องโดยสาร กันชนหน้าขนาดใหญ่พร้อมลิ้นสปอยเลอร์ โป่งซุ้มล้อขนาดใหญ่ ตัวถังด้านหลังติดตั้งระบบไฟเตือน rain light ตามข้อกำหนดของ FIA ประตูรถ ครอบกันชนท้าย และปีกหลังผลิตจากวัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ปีกหลังพร้อมจุดยึด ‘swan neck’ ปรับระดับได้ 11 ตำแหน่ง กระจกแบบ polycarbonate เคลือบแข็ง ระบบแม่แรงลม air-jack 3 จุด วาล์วควบคุมแรงดันติดตั้งบนตัวถังทั้ง 2 ฝั่ง ถังน้ำมันนิรภัยแบบ FT3 ความจุ 110 ลิตร ติดตั้งบริเวณด้านหน้ารถ
แผงอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารผลิตจากวัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) พวงมาลัยสปอร์ต multifunctional ผลิตจากวัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) พร้อมข้อต่อแบบ quick-release coupling แป้นเปลี่ยนเกียร์ shift paddles และปุ่มควบคุมเรืองแสง หน้าจอดิจิทัลระบบสัมผัส ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ พร้อม multi-colour backlight; ตาข่ายนิรภัย (บริเวณกลางรถ และฝั่งผู้ขับขี่) ตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยล่าสุดของ FIA ระบบระบายอากาศเบาะนั่งแบบพร้อมใช้งาน ระบบดับเพลิง พร้อม electronic release unit
ช่วงล่าง
ปีกนกและจุดยึดอะลูมิเนียมฟอร์จ เพิ่มความแข็งแกร่ง ลูกปืนล้อ spherical bearings สำหรับงานหนัก พร้อมยางกันฝุ่น ดุมล้อพร้อมระบบ centre-lock wheel nut โช้คอัพแบบสปอร์ตสำหรับการแข่งขันเหล็กกันโคลง ปรับระดับได้แบบ double-blade-type ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง tyre pressure monitoring
ช่างล่างด้านหน้า
ปีกนกคู่ Double wishbone ปรับระดับความสูง มุมโท และมุมแคมเบอร์ได้
พวงมาลัยเพาเวอร์แบบ Electro-mechanical พร้อมฟังก์ชันปรับน้ำหนัก
ช่วงล่างด้านหลัง
ปีกนกคู่ Double wishbone ปรับระดับความสูง มุมโท และมุมแคมเบอร์ได้
เพลาขับเพื่อการแข่งขัน ให้ความทนทานสูง
ระบบเบรก
ระบบเบรกอิสระ 2 วงจรหน้าและหลัง เซนเซอร์แรงดันเบรกผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งการกระจายแรงเบรก ได้ด้วยระบบ brake balance ผ้าเบรกสำหรับการแข่งขันระบบระบายความร้อนเบรก แป้นเบรกวางตำแหน่ง ตามหลักสรีรศาสตร์
เบรกคู่หน้า คาลิเปอร์เบรกอะลูมิเนียม โมโนบล็อก หกลูกสูบสำหรับการแข่งขัน พร้อมสปริงลูกสูบแบบ anti knock-back จานเบรกเหล็กกล้าพร้อมครีบระบายความร้อนขนาด 380 x 32 มิลลิเมตร ยึดติดกับโครง อะลูมิเนียม แม่ปั๊มเบรกอะลูมิเนียม
เบรกคู่หลัง คาลิเปอร์เบรกอะลูมิเนียม โมโนบลอก 4 ลูกสูบสำหรับการแข่งขัน พร้อมสปริงลูกสูบแบบ anti knock-back จานเบรกเหล็กกล้าพร้อมครีบระบายความร้อนขนาด 380 x 32 มิลลิเมตร ยึดติดกับโครงอะลูมิเนียม แม่ปั๊มเบรกอะลูมิเนียม
ล้อ / ยาง
คู่หน้า: ล้ออัลลอยชิ้นเดียว พร้อมระบบ centre-lock ผลิตและออกแบบตามมาตรฐานของปอร์เช่ ขนาด 12J x 18 ยางรถยนต์ขนาด 30/65-18
คู่หลัง: ล้ออัลลอยชิ้นเดียว พร้อมระบบ centre-lock ผลิตและออกแบบตามมาตรฐานของปอร์เช่ ขนาด 13J x 18 ยางรถยนต์ขนาด 31/71-18
ระบบไฟฟ้า
บันทึกข้อมูลด้วย Porsche Logger Unit; Porsche Power Box หน้าจอสีแสดงผลขนาด 10.3 นิ้ว Porsche colour display แบตเตอรี่นิรภัยน้ำหนักเบา LiFePO4 ขนาด 12V, 60 Ah ติดตั้งบริเวณพื้นตัวถังภายในฝั่งผู้โดยสาร อัลเทอร์เนเตอร์ขนาด 175A หน้าจอสัมผัสพร้อม multi-colour backlight ก้านปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบแขนเดี่ยว พร้อมระบบควบคุมแบบ direct drive (การทำงานปัดเป็นจังหวะและปัดต่อเนื่อง) สวิตช์เสริม 3 ตำแหน่งบนคอนโซลกลาง สำหรับรองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมระบบเชื่อมต่อสำรองข้อมูลการขับขี่ data connection (data logger, video system)
ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน daytime running lights ไฟท้าย และระบบไฟเตือน rain light ที่มาพร้อมเทคโนโลยี LED.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/