เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนกลุ่มคนขับรถขนส่งสาธารณะ หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร – หอการค้าไทย ณ บริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร โดยมี ผู้บริหารสำนักอนามัย คณะผู้บริหารเขต ผู้บริหารบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อมูล
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มอาชีพ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน กทม.ได้ตรวจเชิงรุกและเร่งฉีดวัคซีนเพื่อลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของผู้ป่วยหากติดเชื้อ โดยได้จัดสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือ“หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย” รวม 25 แห่งทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทางมาฉีดวัคซีนสำหรับบริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เปิดให้บริการตั้งแต่ 12 พ.ค. 64 โดยมีเป้าหมายวันละ 1,200 คนต่อวัน สำหรับกลุ่มผู้เข้ารับการบริการฉีดวัคซีนในวันนี้จะเป็นกลุ่มคนขับรถขนส่งสาธารณะ ขสมก. กรมขนส่งทางบก ที่ให้บริการประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำนักอนามัยได้นำเข้าข้อมูลไว้ในระบบของ กทม. และต่อไปจะให้บริการวัคซีนบุคลากรส่วนหน้า ผู้ที่ขับรถยนต์สาธารณะ พนักงานเก็บค่าโดยสารสาธารณะ จากบริษัทขนส่งต่างๆ ซึ่งมีประมาณ 7,000 คน รวมถึงจะฉีดวัคซีนให้กับพนักงานเก็บขน เก็บกวาดจากสำนักงานเขต คนขับแท็กซี่ วินจักรยานยนต์ พนักงานขนส่งอาหารต่างๆ ผู้มีอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเล็ก เป็นต้น
นอกจากนี้เนื่องจากใกล้เปิดภาคเรียนเป้าหมายต่อไปคือบุคลากรครู ไม่ใช่เฉพาะครูในสังกัดกทม. เท่านั้นแต่เป็นบุคลากรครูในกรุงเทพฯทั้งหมดจากทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีประมาณ 170,000 คน ที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีน ส่วนกลุ่มอาชีพเสี่ยงอื่นๆ จะได้รับการพิจารณาให้ได้รับวัคซีนในลำดับถัดมา ขึ้นอยู่กับปริมาณวัคซีนที่ได้รับจัดสรร โดย กทม.จะประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบเป็นระยะตามปริมาณวัคซีนที่ได้รับ เพื่อให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมดตามที่ได้รับนโยบายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
สำหรับการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลช่วงระยะทดสอบระบบของหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.64 จากสถานที่ 3 แห่งประกอบด้วย เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะมอลล์บางกะปิ และสามย่านมิตรทาวน์ ข้อมูล ณ วันที่ 16 พ.ค.64 เวลา 10.00 น. มียอดรวมผู้ฉีดวัคซีนแล้ว 4,533 คน ส่วนยอดผู้รับวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครรวมทั้งหมดมีจำนวน 438,529 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 188,358 รายและครบ 2 เข็ม จำนวน 125,072 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 16 พ.ค. 64 เวลา 08.00 น.)
ทั้งนี้ กทม.ยังได้เร่งขยายสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือ “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย” โดยในวันที่ 22-23 พ.ค.64 จะเปิดให้บริการ14 แห่ง และปลายเดือนพ.ค.64 จะเพิ่มเป็น 25 แห่งทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทางมาฉีด ประกอบด้วย
1. มหาวิทยาลัหอการค้าไทย
2. โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์
3. SCG บางซื่อ
4. เซ็นทรัลลาดพร้าว
5. SCB สำนักงานใหญ่
6. มหาวิทยาลัยศรีปทุม
7. เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์
8. เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
9. ไอคอนสยาม
10. โลตัสปิ่นเกล้า
11. PTT Station พระราม 2
12. เดอะมอลล์บางแค
13. บิ๊กซีบางบอน
14. สามย่านมิตรทาวน์
15. ธัญญาพาร์ค
16. True Digital Park
17. เอเชียทีค
18. เซ็นทรัลเวิลด์
19. สยามพารากอน
20. โลตัสพระราม 4
21. เอ็มโพเรียม
22. เดอะมอลล์บางกะปิ
23. โรบินสัน ลาดกระบัง
24. และ
25. บิ๊กซี ร่มเกล้า โดยมีเป้าหมายในการฉีดที่หน่วยบริการนอก รพ. ให้ได้แห่งละ 1,000-3,000 คนต่อวัน รวมแล้วคาดว่าจะให้บริการได้ 38,000-50,000 คน/วัน
นอกจากนี้ยังมีการฉีดในโรงพยาบาลอีก 126 แห่งให้กับผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค วันละ 30,000 คน รวมแล้วจะฉีดให้ได้วันละ 80,000 คน ซึ่งจะจัดบริการฉีดวัคซีนทันทีที่ได้รับจัดสรรวัคซีนและฉีดต่อเนื่อง 7 เดือนให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและรวดเร็วเพื่อเร่งควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งในขณะนี้นั้นยังไม่ได้เป็นการเปิดรับประชาชนทั่วไปที่ walk in เข้ามาที่จุดบริการฉีดวัคซีนฯ โดยคาดว่าเมื่อกทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาลแล้ว ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไปจะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้กว่า 1 ล้านคนต่อเดือน
กรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่เข้ามารับบริการฉีดวัคซีนเตรียมตัวเองให้พร้อมเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรับบริการ ดังนี้
1. รับประทานอาหารมาให้พร้อมโดยที่ไม่ต้องอดอาหารมาก่อนรับบริการฉีดวัคซีน
2. ดื่มน้ำมาให้เพียงพอเนื่องจากสถานที่ที่ให้บริการฉีดวัคซีนไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มและอาหารเข้าไปได้ รวมถึงไม่อนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัย
3. ดาว์นโหลด แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” และลงทะเบียนมาก่อนล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการรับบริการ หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้จะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ณ จุดบริการ
4. นำบัตรประชาชนติดตัวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง โดยในส่วนของประชาชนประชาชนที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคที่ประสงค์รับบริการวัคซีนให้ลงทะเบียนผ่าน Line Offical Account (Line OA) และ Mobile Application “หมอพร้อม” ตั้งแต่ 7 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป หากไม่สามารถลงทะเบียนได้ สามารถลงทะเบียนได้ที่ศูนย์ BFC ณโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ทั้ง 11 แห่ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนสำนักการแพทย์ 1646