เดือด 'ชูวิทย์' ลั่น กระทงไม่ต้อง กระทืบดีกว่า แฉ 'ตำรวจนอกรีต' มาหาเรื่องถึงหน้าบ้าน พร้อมชนเป็นชน

‘ชูวิทย์’ เดือด กระทงไม่ต้อง กระทืบดีกว่า แฉกลับ ‘ตำรวจนอกรีต’ มาหาเรื่องถึงหน้าบ้านป้ายสีแบบน่าขยะแขยง มาไล่กัดตนที่ปกป้องสังคมไทยจากจีนสีเทา ท้าให้ฟ้อง จะฟ้องกลับ ลั่นชนเป็นชน ไม่กลัว

9 พ.ย.2565 – นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

กระทงไม่ต้อง กระทืบดีกว่า

.

ตำรวจที่โดนไล่ออกจากราชการ เคยถูกคนดักยิงกระบาลจนคนขับรถตายคาที่ ตัวเองหนีหัวซุกหัวซุน เมื่อ 20 กว่าปีก่อน

.

ไปถาม ท่านเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เรียกตำรวจพรรค์นี้ว่า “โจรในเครื่องแบบ”

.

แต่มาวันนี้ เริ่มกลับมาออกลายสันดานเดิม

.

ผมยืนยัน ความจำแม่น เมื่อผมเริ่มทำธุรกิจ อาบอบนวด ปี 2535 ตำรวจนอกรีตที่คอยไปรีดไถ แสดงท่าเป็นนายตำรวจหากินกับเครื่องแบบตามสถานที่อโคจร บ่อน บาร์ อาบอบนวด มีอยู่ไม่กี่คน

.

และผมไม่จำเป็นต้องไปตีสนิทให้เสนียดจัญไรติด เพราะมีมากอยู่แล้ว

.

ผมสายแข็ง จ่ายราคาตั๋วเด็ก ในวงการเขารู้กัน

.

ระดับตำรวจ “นักบิน” ร่อนไปมาอย่างไอ้นี่ เดินจนส้นเท้าสึกก็ไม่ได้ค่าส่วยแม้แต่บาทเดียว

.

ยืนยันว่าไม่ได้รู้จัก หน้าไม่เคยเห็น ชื่อไม่กระดิกหู

.

เพิ่งมารู้จักตอนทำตัวบ้าจัด ถอดเสื้อโชว์หัวนม ร้องห่มร้องไห้ หลัง “บิ๊กโจ๊ก” นำตำรวจไปบุกจับ สมัยหากินเก็บค่าจอดรถแถวตลาดดอนเมือง

.

แม้แต่ตำรวจด้วยกันยังส่ายหน้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย

.

ความกระสันอยากสร้าง “เครดิต” ในวงการสีเทาไม่หยุดหย่อน แสร้งทำตัวรู้จักคนนั้น เคยคุยกับคนนี้ เรียกราคา มาเฟียบ่อนโน้น ผับนี้ เดินสายอาละวาดขอเศษตังค์ไปทั่ว จนทุกที่รำคาญ

.

ทำทีว่าเป็น “ผู้กว้างขวางระดับตลาดนัด” พูดเสียงดังโวยวาย รู้ไปทุกเรื่อง เสือกไปทุกอย่าง

.

แต่เดินทรงนี้ บ่อนไหนใช้บริการงานเข้าแน่นอน จึงต้องไปหากินกับทุนจีนที่ไม่รู้เรื่อง

.

แล้วยังเสร่อเสนอหน้าไปช่วยไปเคลียร์อะไรให้ใคร ล้วนติดคุกกันหมด ไล่ตั้งแต่

.

“หลงจู๊สมชาย” บ่อนระยอง ติดคุก

.

“เสี่ยโป้” ติดคุก ประกันตัวไม่ได้

.

“เดวิด เบบี้เฟส“ ประกันตัวไม่ได้ และกำลังมีแนวโน้มถูกเนรเทศกลับจีน

.

ส่วนจีนที่เหลือบินหนีต่างประเทศโกยแนบ

.

แม้แต่เรื่อง “แตงโม” มันยังไปเสือกกับเค้า รู้อย่างนั้นรู้อย่างนี้ แต่ท้ายสุดหายเงียบ

.

“เจ้าพ่อเมืองหลวง” สีเทาการเมืองที่การข่าวดี รู้ทัน ตีตัวห่างเสียก่อน เพราะตอนนี้กระสุนเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาอยู่ ขืนให้ “ตำรวจนอกรีต” มาออกหน้า มีหวังซวยชิบหายกันพอดี ต้องนิ่งรอคลื่นลมสงบ

.

คนอย่างผมหากจะเล่นงานใครต้องมีสาระ มีข้อมูล ไม่ใช้วิธีนุ่งกระโปรง ฟ้อนเล็บ ไปหยิก ไปข่วน ใส่สีตีไข่ เอะอะเสียงดัง แต่สั่นเครือ หายใจไม่ทัน เพราะเอาแต่ตะเบงเสียงอย่างเดียว ที่แท้ “บ่มิไก๊” ไม่มีอะไร

.

มิน่าเป็นตำรวจไม่ได้ เป็นได้แค่นักเลงคุมบ่อน

.

ผมมันแก่แล้ว ผ่านอะไรมามากพอ รู้อะไรเป็นอะไร หากออกมาแฉ เอาที่เป็นประโยชน์กับสังคมดีกว่า

.

แต่ดันมาหาเรื่องผมถึงหน้าบ้าน หากไม่จัดก็ไม่ใช่ชูวิทย์แล้ว โดยเฉพาะมาป้ายสีผมแบบน่าขยะแขยง

.

คนมันบ้า เพราะโดนเจาะกล่องรายได้ เลยแปรสภาพเป็น “หมาบ้า” ที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีต้นสังกัด ไม่มีปลอกคอ ไล่กัดเขาไปทั่ว

.

ขืนปล่อยต่อไป จะไล่กัดชาวบ้าน หรือกัดตำรวจด้วยกันเอง

.

แล้วไปๆ มาๆ ยังมากัดผมที่ปกป้องสังคมไทยจากจีนสีเทา ที่กอบโกยผลประโยชน์ประเทศไทย

.

คิดว่ามาเห่าแบบนี้แล้วคนอย่างผมจะกลัว

.

หลงว่าตัวเองยังเป็นตำรวจ ทั้งๆ ที่โดนไล่ออกจากราชการ เดินทรงนี้น่าจะไปคุมคิวรถ วินมอเตอร์ไซค์ตามตลาดข้างทางเสียมากกว่า

.

แล้วหากจะฟ้องก็ฟ้องได้ เมื่อฟ้องมาผมก็ฟ้องกลับ ข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพราะมากล่าวหาว่าผมเป็นเจ้าของสถานที่ รู้เห็นเป็นใจ สนับสนุนให้มีการเสพยา

.

ชนเป็นชน เพราะเครื่องผมติดแล้ว

.

ผมเคยติดคุกมา 3 รอบ ต้องถามกลับ ไอ้นี่เคยติดคุกหรือยัง?

.

เพราะอดีตตำรวจนอกรีต หากหลุดเข้าคุก ไม่ใช่จะไปเห่าได้เก่งเหมือนข้างนอกนะครับ

.

ข้างในไม่มีใครกลัวใคร อาจจะโดนต้อนรับด้วย “ท่าคลานบิณฑบาต” ตบรอบแดน

.

บรรดาตำรวจเชียร์ให้ผมจัดการคนสันดาน ”หมาบ้า ล่ากระดูก เก็บเศษอาหาร คุ้ยกองขยะ” อยู่ครับ

.

วันนี้ กระทงไม่ต้อง กระทืบดีกว่า