** ก่อนที่จะเกิดโรคไวรัสโควิด ซึ่งเป็นมหันตภัยตัวร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมากทั่วโลก บ้างก็ได้รับความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยอย่างแสนสาหัส บางรายวิตกกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับถึงกับร้องไห้ปล่อยโฮดังๆ ก็มี ผู้คนที่เคยทำมาหากินอย่างคล่องตัว จนบางรายที่ขยันที่มีความคิดที่หลักแหลม (แต่ไม่ชอบโกงใคร) ถึงกับร่ำรวยเป็นเศรษฐีก็มี พวกมิตรพากันไปมาหาสู่กันด้วยความปลอดภัย ไม่ว่าจะข้ามจังหวัดหรือข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังต่างประเทศก็มี
** ชีวิตประจำวันของผู้คนไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน ไม่กลัวว่ามีผู้อื่นที่อยู่ปะปนกัน หายใจได้คล่องตัว ถือว่าชีวิตก่อนที่จะเกิดไวรัสโควิด-19 ผู้คนต่างมีความสุข ยกเว้นคนที่คิดทำชั่ว โดยการค้ายาเสพติด หรือจี้ปล้น ลักทรัพย์ ผู้อื่นเขา ต้องเข้าไปอยู่ในคุกตะรางที่ทำให้หมดอิสรภาพ ซึ่งบางรายที่ติดคุกติดตะรางมาแล้วแทนที่จะเข็ดหลาบหรือเกรงกลัวจะไม่ทำผิดกฎหมายอีก ซ้ำร้ายไปกกว่านั้นก็ยังกลับมาทำผิดกฎหมายอีกเช่นเคยจนต้องกลับไปเข้าคุกที่แสนจะทรมานเหลือเกิน ถือว่าคนพวกนี้ไม่รักดี ไม่สมควรที่จะให้การให้อภัย รัฐจะต้องใช้งบประมาณก้อนมหาศาลเลี้ยงดูคนชั่วพวกนี้
ที่บ้าน ท่านปลูก มะนาวหรือยัง
ศ.นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ อดีตคณบดีเเพทย์ศิริราช.ได้แนะวิธีทำน้ำด่างทานง่ายๆ (น้ำมะนาวแช่ใส่น้ำเย็น/โซดา )
ตัดชิ้นบางๆของมะนาวใส่ในแก้ว หรือโถ แล้วดื่มมันจะกลายเป็นน้ำที่มีความเป็นด่างสูงมาก เชื้อโรคในร่างกายไม่สามารถเติบโตในสภาพที่มีความเป็นด่าง
ดังนั้น การทานน้ำด่างทุกวัน จึงช่วยทำลายเชื้อโรค ดื่มน้ำด่างจะทำให้มีสุขภาพดีขึ้นมาก
สถาบันทางวิทยาศาตร์อนามัย ระบุว่า นี่คือยาที่มีผลต่อมะเร็งดีเยี่ยมล่าสุดของโลก
มะนาว เป็นผลไม้ที่มหัศจรรย์มากที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้เป็น 1หมื่นเท่ามากกว่า-เคโมเทอราฟี ..ทำไมเราไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะว่า ปฏิบัติการห้องแล็บส่วนใหญ่นั้นไม่ยอมพูดเรื่องนี้เพราะมันจะทำให้สูญเสียผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ไป
เราท่านทั้งหลายสามารถช่วยเพื่อนท่านได้
ในการบอกให้เขาหรือเธอเหล่านั้น ว่า
น้ำมะนาวนั้น มีประโยชน์ยิ่งในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ มีรสชาติที่ดี และไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการฉีดคีโมฯ คนมากมายอาจตาย ในขณะที่ความลับที่ป้องกันมะเร็งนี้ได้ถูกเก็บงำเอาไว้ เพื่อไม่ให้ต้องการทำลายผลประโยชน์
นับล้านๆ ของบริษัทยาใหญ่ๆทราบไหมว่า (มะนาวแป้น มะนาวทุกชนิด) ท่านจะกินมะนาวเหล่านี้ในวิธีต่างๆก็ได้ เช่น กินเปลือก กินน้ำ หรือคั้น หรือเตรียมเป็นเครื่องดื่มใดๆ ก็ตาม แต่ที่เราชอบ และมันทำได้หลายอย่าง แต่ถ้าดื่มน้ำมะนาวผสมกับโซดาจะทำให้น้ำมะนาว ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ที่น่าสนใจ คือ มันขจัด ซีสต์ได้ (ก้อนเนื้อร้าย) ..
ผลไม้ชนิดนี้ พิสูจน์แล้วว่า สามารถต่อต้านมะเร็งได้ อย่างดีเยี่ยม มีคนกล่าวไว้ว่า
(มะนาว)มันมีผลประโยชน์ในการกำจัดมะเร็งหลายชนิด
(มะนาว)ป้องกันการอักเสบของเชื้อแบตทีเรีย เชื้อราได้
(มะนาว)สามารถที่จะต่อต้านพาราไซส์ที่อยู่ข้างใน
(มะนาว)ทำให้เกร็ดลือดที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เข้าสู่ภาวะปกติ
(มะนาว)ทำให้คลายเครียด
(มะนาว)ต่อต้านโรคประสาท
(มะนาว)ป้องกันโรคฟุ้งซ่านข่าวสารเรื่องนี้มาจากบริษัทผลิตยาขนาดใหญ่มากกว่า 20 บริษัทในโลกได้ทำการทดลองเรื่องนี้ผลการทดลองเปิดเผยออกมาได้ว่า
มะนาวสามารถทำลาย
มะเร็งเนื้อร้ายที่รุนแรงได้ถึง 12 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
– มะเร็งลำไส้เล็ก
– มะเร็งเต้านม
– มะเร็งต่อมลูกหมาก
– มะเร็งปอด
– มะเร็งตับอ่อน(มะนาว)ส่วนผสมของไซทัสหรือมะนาว มีความสามารถในการทำลายมะเร็งได้มากกว่ายาที่ใช้การทำคีโมทำให้การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหยุดอยู่กับที่(คงที่)
นอกจากนี้มันยังเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจมากในการรักษาด้วยมะนาวนี้ สามารถทำลายต่อต้านมะเร็งได้อย่างรุนแรง โดยไม่มีผลข้างเคียง
มาดื่มน้ำมะนาวกันเถอะส่งให้คนที่รักนะ แต่ถึงเกลียดก็ส่งเถอะได้บุญใหญ่หลวงนะ
** มีผู้คนที่สงสัยว่าโรคโควิด–19 เกิดขึ้นได้อย่างไรและมาจากไหนก็ขอตอบว่า เป็นที่รู้กันว่ามีมนุษย์ที่มีความคิดอุบาทว์จิตใจโหดเหี้ยมและไม่กลัวบาปกรรม คือว่ากันง่ายๆ ตายไปแล้วตกนรกหลายขุมก็ไม่กลัว เป็นผู้ที่คิดตัดแต่งพันธุ์กรรมโรคไวรัสโควิด-19 และได้ยิงเชื้อโรคตัวร้ายนี้เข้าสู่ประเทศที่กำลังจะเป็นมหาอำนาจทางด้านของเศรษฐกิจ คือว่ากันง่ายๆ ว่าอิจฉาริษยากลัวว่าประเทศของตนเองซึ่งเคยเป็นมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจจะไม่มีงานทำ และไม่มีคนทั่วโลกสนับสนุนของประเทศตัวเอง ต่างกับอีกประเทศหนึ่งที่โดนยิงไวรัสโควิด-19 ซี่งเป็นประเทศที่สร้างสินค้าได้มาตรฐานและราคาถูกจนได้รับความนิยมไปทั่วโลก ทำให้คนโดยนิสัยของคนในประเทศนี้ นอกจากสมองที่มีความคิดเป็นเลิศบวกกับความขยันขันแข็งทำงานแข่งกับเวลา จนทำให้คนในประเทศนี้ส่วนใหญ่จะร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐี และมหาเศรษฐีไปหลายคน
** รวมความว่า คนเกือบทั้งโลก โดยเฉพาะผู้ที่รักความยุติธรรมต่างพากันประณาม และสาปแช่งผู้ที่มีความคิดอันอุบาทว์สิ้นดี ซึ่งได้คิดตัดแต่งพันธุ์กรรมไวรัสโควิด–19 ซึ่งเป็นเชื้อร้ายที่ทำลายชีวิตผู้คนเดิมที่ได้ชื่อว่า ไวรัสโคโรนา แล้วต่อมาทางการแพทย์ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นไวรัสโควิด–19 ที่คนทั่วโลกได้ยินชื่อนี้แล้วพากันขยาดภาวนาให้ครอบครัวรวมถึงเพื่อนร่วมโลกได้พ้นจากมหันตภัยไวรัสโควิด-19 เสียที จะได้หมดทุกข์หมดโศกไม่ต้องมาคอยกังวลและกลัวไวรัสโควิด-19
** แต่ “ไมโครโฟน” และคนอีกเป็นจำนวนมากเชื่อว่า ไวรัสโควิด–19 ต้องหายจากประเทศของตนเองและโลกใบนี้ เหตุผลเป็นเพราะว่าเชื่อมั่นในทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ซึ่งมีสมองอันเลิศเลอนอกจากการค้นพบวัคซีนแก้เชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ยังมียาใช้รับประทานและยาที่ป้ายจมูกอีกด้วย ส่วนเมืองไทยโชคดีกว่าใครในโลกที่มีสมุนไพรที่สามารถต้านภัยไวรัสโควิด-19 ได้ อย่างเช่น ขิ่ง ข่า ใบกระเพรา กระเทียม มะนาว และฟ้าทลายโจร เป็นต้น ส่วนอาหารที่เป็นที่ยอมรับขอวงวงการแพทย์ที่สามารถรับเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็คือ ส้มตำ ราคาก็ไม่แพงเกินเหตุมีขายทั่วไป “ไมโครโฟน” อยากขอร้องขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรไทยทุกคนอย่าได้ขึ้นราคาสมุนไพรไทยพวกนี้เลย ให้คิดราคาถูกที่ชาวบ้านทุกระดับชั้นสามารถมาซื้อได้ก็จะได้กุศลโดยทั่วหน้ากัน
.jpg)
** ข่าวที่ว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาได้บริจาควัคซีนไฟเชอร์ 1.5 ล้านโดสให้กับประเทศไทย โดยทางรัฐบาลไทยก็จะนำวัคซีนไฟเชอร์ที่ได้รับบริจาคมาฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และผู้ที่สัมผัสกับศพที่ติดกับโควิด-19 ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้าจะให้ดีไปกว่านี้ควรจะนำวัคซีนของไฟเชอร์ที่เหลือมาฉีดให้ผู้สูงวัยที่มีโรคประจำตัวหลายโรคด้วยกัน ก็จะได้ช่วยให้บุคคลเหล่านี้ซึ่งโดยปกติส่วนใหญ่จะไม่กล้าฉีดวัคซีน จะได้ฉีดวัคซีนเป็นครั้งแรกเพื่อป้องกันการติดเชื้อของไวรัสโควิด-19
** ทุกวันนี้ยังมีคนกล่าวถึงม็อบเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าเป็นม็อบที่ยิ่งใหญ่มีหลายคณะมารวมกันทั้งนัดกัน และไม่นัดกันก็มี เรียกว่าตั้งแต่เหนือ อีสาน ตะวันออก และลงไปทางใต้ด้วย คือพูดง่ายๆว่า ตั้งแต่เหนือจรดใต้ จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศไทยรวมถึงต่างประเทศด้วย มาล่าสุดรัฐบาลออกมาวอนถึงบรรดาม็อบทั้งหลายให้คำนึงถึงประเทศชาติ พร้อมทั้งห่วงการติดต่อจากโรคโควิด-19 แถมซ้ำยังบอกว่า ม็อบมีสิทธิ์แสดงออกทางการเมือง และไม่ได้ปิดกั้น สำหรับคอการเมืองก็บอกว่าม็อบที่ออกมาเคลื่อนไหวในระบอบประชาธิปไตยย่อมทำได้ และไม่มีการพกพาอาวุธ ทั้งยังต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายด้วย
** จากการรายงานของผู้สื่อข่าวซึ่งยังพบว่า มีผู้ที่กระทำการด้วยความประมาทโดยไม่ได้รับผิดชอบต่อสังคม นอกจากไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้านแล้วก็ยังจับกลุ่มก้อนเพื่อกินเหล้าเมายาในเวลาที่ประกาศเคอร์ฟิว โดยไม่สนใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังมีกระแสข่าวว่าพบคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานโดยไม่ถูกต้องเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่คนพวกนี้จะเป็นตัวแพร่ไวรัสโควิด-19 รัฐบาลน่าจะให้รางวัลผู้ที่ชี้เบาะแสให้จับแรงงานต่างด้าวเถื่อนพวกนี้ ซึ่งขณะที่กำลังเขียนข่าวอยู่สถิติจำนวนของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดจำนวน 2 หมื่นกว่าคนเข้าไปแล้ว ถือว่าการกระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เข้าขั้นวิกฤต
**เมื่อไม่กี่วันก่อน สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือ สมเด็จธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ได้ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ใน “ทวิตเตอร์” หลังจากปรากฏข้อความ “ตาไม่บอด หูไม่หนวกก็บุญแล้ว จะเอาอะไรมากกับชีวิต” (พระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรฯ )ในใบเสร็จชำระเงินของบริษัทแห่งหนึ่ง เจตนาจะเผยแพร่คำสอนของสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีหรือสมเด็จธงชัย ซึ่งเป็นเรื่องดีภาษาน่าจะเท่ห์เก๋ไก๋โดนใจคนอ่านชื่นชมสาธุ แต่การกลับตรงกันข้าม ถูกกระหน่ำทางโซเชียลอย่างแรง คงไม่น่าแจ้งเกิดได้งานนี้ ความเดิมยังไม่ทันจางหาย เมื่อไม่กี่วันหลัง “น้องเทนนิส” น.ส.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทองครั้งประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้สร้างความยินดีและปลื้มใจแก่คนไทยทั้งชาติ แต่แล้วก็เกิดมีเรื่องดราม่าขึ้นมาจนได้ หลังจากมีหนังสือพิมพ์บิ๊กฉบับหนึ่งเสนอข่าวทำนองว่า เบื้องหลังความสำเร็จเพราะ “โค้ชเช” หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมไทย ได้พกของขลัง ช่วยให้ “น้องเทนนิส” คว้าได้เหรียญทองเทควันโดโอลิมปิก โดยมีเนื่อข่าวกล่าวว่า…“การคว้าเหรียญทองแรกของเทควันโดไทยในโอลิมปิกเกมส์ อีกเรื่องคือ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ท่านได้ให้ผ้ายันต์ติดตัวมาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ซึ่งในวันแข่งขัน โค้ชเช เอาผ้ายันต์ใส่ไว้ในเสื้อตลอดเลย ก่อนขึ้นเวทีแข่งขันก็เอาผ้ายันต์ไปลูบหน้า ลูบที่เกราะของ น้องเทนนิส และอธิษฐานขอให้คู่แข่งเตะไม่โดน จนนำความสำเร็จกลับมาในที่สุด”…ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลอย่างกว้างขวาง นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และพุทธศาสนาตั้งคำถามว่า “อยากถามสำนักพุทธฯว่า ยันต์ของพระธงชัยนี่ ถูกต้องตามพระวินัยไหม? ถ้าไม่ถูกต้องแล้วจะทำอย่างไงฯ” หรือมีโพสต์ถามว่า “แล้วที่พกแล้ว ไม่ได้ละครับ มีไหม?” รวมทั้งชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นไปต่าง ๆ นา ๆ เช่น แทนที่จะเน้นวิทยาศาสตร์การกีฬา กลับไปโหนไสยศาสตร์ ความสามารถเค้าคงไม่ได้พกไปใช่ไหมครับ นำเสนอข่าวกันแบบนี้ สังคมได้อะไร? เป็นพระทำเรื่อง…………. ไม่ใช่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา เป็นต้น ปิดทางที่จะอ้างเป็นชอบดีความชอบผ้ายันต์เสียแล้ว เรียกว่าทัวร์ลง “สมเด็จธงชัย” หลังเกิดดราม่า “ยันต์เลสเตอร์” หรือก็ไม่แน่อาจเรียกแขกให้ผ้ายันต์ได้ขึ้นชั้นค่าเช่าซื้อถึงหลักหกโน้นก็เป็นได้ หวังแต่ว่าการครั้งล่าสุดนี้คงไม่ทำให้เกิดความงมงายขยายกว้างไกลออกไป หรืออย่างน้อยก็หวังว่า “น้องเทนนิส”จะเข้าใจและเชื่อมั่นในความมีใจรักมุ่งมั่นพากเพียรรับผิดชอบทบทวนฝึกฝนตนเองตามที่โค้ชสั่งโค้ชสอน และยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ คือ อิทธิบาท 4 ประกอบค้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา เป็นคุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ” หรือ “ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” สาธุ **
**มาชวนแฟนคลับ คอข่าว “คอลัมน์หมายเลข 7” ย้อนไปตามเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ปลอมแปลงเอกสาร เบิกเบี้ยประชุม รายละเอียดเป็นอย่างไร ติดตามจากเอกสารที่เป็นหนังสือสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การคลังสินค้า หรือ สร.อคส. ส่งถึงศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมการแก้ไขคำสั่งคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ เลขที่ 156/2563 ที่มีองค์ประกอบของกรรมการ 6 ต่อ 5 ตัดในส่วนของผู้ทำหน้าที่กรรมการออกไปหนึ่งตำแหน่ง ส่วนอีกตำแหน่งหนึ่งตัดคำว่า เลขานุการ ออก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ถูกร้อง ได้รับเบี้ยประชุมคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์โดยมิชอบ มีการเบิกผิดระเบียบมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ซึ่งในอดีตเบี้ยประชุมได้ครั้งละ 3,000 บาทต่อคน ต่อมากลางปี 2563 มีการปรับเบี้ยประชุมเป็นครั้งละ 8,000 บาท ทำให้เจ้าหน้าที่รายนี้ได้เบี้ยประชุมที่ไม่ควรได้ เฉลี่ยปีละ 96,000 บาท จากเดิมต้องไม่ได้เบี้ยประชุม เนื่องจากตำแหน่งบางตำแหน่งต้องงดเว้นเบี้ยประชุมตามมติ ครม. เพราะถือเป็นภาระงานปกติ คอลัมน์หมายเลข 7 ทีมงานคุณสมโภชน์ โตรักษา ได้ตรวจสอบไปยังนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส. ได้รับคำชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่มีผู้ไปร้องเรียนที่กระทรวงพาณิชย์ จึงจะออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบชุดใหม่ สิ่งที่ทางฝ่ายผู้ร้องเป็นห่วงคือ ผู้ถูกร้องมีความใกล้ชิดกับผู้บริหาร ซึ่งอาจทำให้ผลสอบไม่มีความคืบหน้า สำหรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของ ศอตช.ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว พันตำรวจโท วันนพ สมจินตนากุล เลขา ป.ป.ท. ยืนยันจะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คอลัมน์หมายเลข 7 ตรวจสอบถึงการปรับหลักเกณฑ์การเบิกเบี้ยประชุมใหม่ของกรรมการรัฐวิสาหกิจ พบว่าเป็นไปตามมติ ครม. รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 แบ่งรัฐวิสาหกิจออกเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย รัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รัฐวิสาหกิจประเภทสถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดย อคส.ถือเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดกลาง จะได้ผลตอบแทน 8,000 บาท แต่ต้องไม่เกิน 16,000 บาทต่อเดือน เมื่อตรวจสอบค่าใช้จ่ายของ อคส. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 – 30 กันยายน 2563 ซึ่งป็นช่วงรอยต่อระหว่างการปรับเบี้ยประชุมคณะกรรมการจาก 3,000 บาท เป็น 8,000 บาทแล้ว พบว่า รายจ่ายในส่วนของเบี้ยประชุมกรรมการอยู่ที่ 3.965 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายงวดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564 มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากถึง 3.466 ล้านบาท เท่ากับว่าภายใน 5 เดือน ค่าใช้จ่ายที่เป็นเบี้ยประชุมกรรมการทะยานขึ้นมาเกือบเท่ากับในปีงบประมาณ 2563 ทั้งปี นี่เป็นหนึ่งตัวอย่างของค่าเบี้ยประชุมที่พุ่งสูงขึ้น จากมติ ครม. ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ซึ่งเกิดขึ้นกับรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง จากการปรับเบี้ยประชุมเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ “ไมโครโฟน”ได้คุยกับคุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดึตผู้ว่าการ สตง. ให้ข้อน่าสังเกตว่า อคส. มีคดีต้องสะสางค้างเก่า ทั้งคดีรับจำนำข้าวเปลือกปี 54-57 ฟ้องแล้ว 1,143 คดี อยู่ในชั้นศาลปกครองกลาง 1,136 คดี ศาลปกครองสูงสุด 4 คดี และ อคส. ถูกฟ้อง 155 คดี ส่วนคดีรับจำนำมันสำปะหลัง ปี 2551/52, ปี 2554/55 และปี 2556/57 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรณีมันเสื่อมสภาพหรือสูญเสียปริมาตร รวมกว่า 200 คดี ได้ฟ้องร้องอยู่ในชั้นศาลปกครองกลาง 161 คดี โดยคดีถึงที่สุดแล้ว 14 คดี นี่ยังรวมคดีที่แจ้งความและฟ้องทางอาญากับเจ้าของโกดังที่รับฝากมันสำปะหลังโดยกล่าวหาฉ้อโกงมันที่เสื่อมสภาพปริมาตรลดลงเพื่อเอาผิดทั้งตามข้อสัญญาโดยรีบหลักประกัน กับไม่จ่ายค่าเช่าโกดังที่ค้างจ่ายค่าเช่าด้วย เพื่อต่อรองให้ยอมรับกับไม่ถูกดำเนินคดี ถ้าเจ้าของโกดังเชื่อในความสุจริตของตน ก็ถูกส่งฟ้องดำเนินคดีอาญา ล่าสุดมีหลายรายที่ไม่ทนพฤติการณ์ ไปร้อง DSI รายละเอียดคืบหน้าอย่างไร จะได้บอกเล่าเก้ายี่สิบแชร์ให้ทราบกัน
** ชาวจังหวัดปทุมธานี พอได้ข่าวว่า นายไชยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จะย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวง ทำให้รู้สึกเสียดายผู้ว่าราชการขวัญใจประชาชนท่านนี้ โดยที่ท่านใช้ชีวิตสมถะ ขี่จักรยานไปทำงานโดยไม่ถือเนื้อถือตัวเป็นกันเองกับชาวบ้านและคอยช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสพปัญหายากลำบาก เคยแอบไปไถ่ของที่เป็นเครื่องมือช่างจากโรงจำนำแล้วนำไปส่งเจ้าของ จนเจ้าของดีใจจนน้ำตาซึม และให้สัญญาว่าจะตั้งใจทำงานและเป็นพลเมืองดี ผลงานล่าสุดไม่รับเงินเดือนตำแหน่งผู้ว่าราชการ 3 เดือน เพื่อช่วยประเทศชาติใจจริงของชาวจังหวัดปทุมธานี อยากให้ท่านไชยวัฒน์ ชื่นโกสุม อยู่ที่ปทุมธานีจนเกษียณอายุราชการ
** มาถึงทุกวันนี้ก็ยังมีผู้คนที่กระทำการชั่วร้ายเยี่ยงสัตว์นรกมาเกิดลักลอบนำพาแรงงานเถื่อน โดยเฉพาะชาวเมียนมาร์เข้ามาในประเทศไทย ถือว่าเป็นการขายชาติ ขอให้รัฐบาลสั่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบให้จับกุมและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังจากนั้นให้ส่งตัวเนรเทศกลับประเทศของแรงงานเถื่อนพวกนี้ด้วย
** ส่วนคนที่อยู่ในกรุงต่างวิตกกังวลว่า หน้าฝนปีนี้น้ำจะท่วมถนนหนทางแล้วทะลักเข้าบ้านของชาวบ้านทำให้ข้าวของเสียหายกันแบบมโหฬาร คงต้องฝากให้ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. และทีมงาน เร่งหาทางให้ทุก 50 เขต มีวิธีป้องกันน้ำท่วมแล้วไม่ใช่บอกว่า ลืมกุลแจเปิดประตูระบายน้ำ
#ข้าวโพดที่สวยที่สุดในโลก …..นึกว่า ของปลอม
เดี๋ยวนี้ มีเมล็ดพันธ์ให้ไปปลูกได้แล้วนะ….ข้าวโพดอัญมณีแก้ว (Glass Gem Corn) พัฒนาสายพันธุ์โดยชนพื้นเมืองอเมริกัน ที่ไม่ว่าใคร ได้เห็นก็เป็นต้องทึ่งกับความงดงามราวกับอัญมณีของมัน จนนึกว่าเป็นข้าวโพดปลอมที่ทำขึ้นจากแก้วหลากสีที่แข่งกันส่องประกายแวววาว ได้รับชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า ข้าวโพดสายรุ้ง
….เพจตามรอยเท้าพ่อบอกว่า ให้ผลผลิตดกดี เม็ดแน่น มีคุณค่าอาหารสูง สีสวยงาม ต้านทานโรคสูง ต้มกินได้ ทำป๊อปคอร์นได้ แต่ละผลจะมีเมล็ดประมาณ 400-500 เมล็ด สามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 75 วัน ชอบแดด และทนแดดจัดได้อีกด้วย ที่สำคัญเลยคือ รสชาติก็หวานอร่อย
** มีชาวบ้านในซอยจันทน์ 16 (ศูนย์การค้าวรรัตน์) ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า ในซอยนี้มีหลายบ้านที่ติดโควิด-19 อยากจะฝากให้ฝ่ายสิ่งแวดล้อมของเขตสาทรมาตรวจสอบเป็นการด่วน
** ชาวบ้านในพื้นที่ของ สภ. บางกรวย ร้องเรียนกันมาเป็นประจำว่า นอกเหนือจากยาเสพติดจะระพบาดอย่างหนักแล้ว ทำให้พวกขี้ยากลายเป็นโจรที่คอยงัดแงะฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ชาวบ้าน คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. ศิวัช ศรีวิชัย ผกก.สภ.บางกรวย สั่งการยังผู้ใต้บังคับบัญชาลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดทุกแก๊ง และบรรดาโจรผู้ร้ายให้จริงจังด้วย
** ชาวบ้านในย่านของเชื้อเพลิงยังมีการร้องเรียนมาเป็นประจำว่า ยาเสพติดระบาดอย่างหนักโดยเฉพาะยาบ้า แก๊งค้ายาเสพติด สั่งให้ลูกน้องเดินขายตามตรอกซอย โดยไม่สนใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้เกิดพวกขี้ยาจำนวนมากที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด ไม่ว่าจะฉกชิงวิ่งราว หรืองัดแงะบ้าน เรื่องนี้คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. ชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผกก. สน. ทุ่งมหาเมฆ สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งฝ่ายสายสืบ และสายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดให้ราบคาบไปเลย รวมถึงบรรดาโจรผู้ร้ายด้วย
** ชาวบ้านในซอยสาธุประดิษฐ์ 28 ร้องเรียนมาเป็นประจำว่า บริเวณปากซอยจะมีทั้งวินจักรยานยนต์ และรถของชาวบ้านจอดขวางหน้าปากซอยทำให้รถจะออกจากซอยด้วยความยากลำบากเหลือเกิน ฝาก พ.ต.ท. กัลป์ วงศ์มณี รอง ผกก. จราจร สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและจับกุมรถที่ไปจอดกีดขวางการจราจรตรงบริเวณหน้าปากซอยสาธุประดิษฐ์ 28 ด้วย
** ชาวบ้านในพื้นที่ สน. บุปผาราม โดยเฉพาะหลังโรงเรียนเนตรนารีซึงเป็นชุมชนซึ่งมียาเสพติดระบาดอย่างหนัก โดยเฉพาะยาบ้า หัวหน้าแก๊งยาบ้าสั่งให้ลูกน้องเดินขายอย่างไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. วิวัฒนชัย บุญญานุพงศ์ ผกก. สน. บุปผาราม สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งฝ่ายสายสืบ และสายตรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดทั้งหลายให้ราบคาบไปเลยก็จะดีมาก
** “เวรกรรมยุติธรรมเสมอ”
** โลหิตยังขาดแคลนอย่างหนักโปรดร่วมใจกันไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทยได้กุศลแรง