การเงิน
15 ต.ค. 2564 เวลา 21:24 น.352
คำสั่ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ 1936/2564 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน)
คำสั่ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ 1936/2564 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน)
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 59 (1) (2) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป กลายเป็นเรื่องช็อคในวงการประกัน
เพราะนี่คือการปิดบริษัทประกันของกลุ่มตระกูล “ศรีกาญจนา” มหาเศรษฐีเมืองไทย ผลัดใบมาสู่รุ่นที่3 ในมือของ “อภินรา ศรีกาญจนา” ทายาทรุ่นที่ 3 ของ “จุลพยัพ ศรีกาญจนา” ประธานคณะกรรมการบริษัทฯ ที่ส่งไม้ต่อให้ลูกสาวได้เข้ามาบริหารอย่างเต็มตัว ปัจจุบันอภินราดำรงตำแหน่ง “ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสำนักสื่อสารองค์กร”ผู้ช่วงชิงธุรกิจ ยู ดริ้งค์ ไอ ไดร์ฟ มาจากหุ้นส่วนจนเป็นคดีความในปัจจุบัน
“ตระกูล ศรีกาญจนา” ถือเป็นตระกูลมหาเศรษฐีใหญ่ของเมืองไทย มีบริษัทมากมาย และมีการขยายกิจการไปในมือของยูกิ-นราวดี ศรีกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนดูลัม ผู้นำเข้านาฬิกาชื่อดัง
“ครอบครัวศรีกาญจนา” เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอาคเนย์ประกันภัยฯ ซึ่งจุลพยัพได้เข้าไปช่วยงานตั้งแต่เรียนจบ แต่หลังเกิดความขัดแย้งรุนแรงในกลุ่มผู้ถือหุ้น ทำให้จุลพยัพต้องแยกตัวออกมาทำธุรกิจใหม่ โดยเข้าเทกโอเวอร์ “บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยขนาดเล็กของกลุ่มธนาคารเอเชียทรัสต์ เมื่อปี 2546 ตั้งแต่นั้นจุลพยัพนำทีมสร้างบริษัทขึ้นเป็นสมาร์ท อินชัวรันส์ แข่งกับตลาด
งบการเงินงวด 6 เดือนแรกปี 2464 ของบริษัทเอเชียประกันภัย 1950 พบว่า มีผลขาดทุนสะสม 285.8 ล้านบาท ปัจจัยนี้แสดงว่าบริษัทมีความไม่แน่นอนในการดำเนินงานของบริษัท
ปัญหาของบริษัทเอเชียประกันภัย มีมาตั้งแต่ต้นปี 2563 การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานในอนาคต
ขณะที่ข้อมูลงบการเงิน ณ สิ้นเดือน มิ.ย.64 ที่มีการเปิดเผยพบว่า เอเชียประกันภัย 1950 มีสินทรัพย์รวม 4,867 ล้านบาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 684.50 ล้านบาท มีรายได้รวม 491.06 ล้านบาท
ในขณะที่ค่าสินไหมทดแทนจากการรับประกันภัยโดยตรง ขาดทุน 720.79 ล้านบาท เงินลงทุนในหลักทรัพย์ ขาดทุน 78.10 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยอื่น ขาดทุน 222.68 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ขาดทุน 200.30 ล้านบาท
บริษัทเอเชียประกันภัยนี้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2493 เป็นบริษัทประกันภัยของกลุ่มธนาคารเอเชียทรัสต์ด้วยทุนที่ชำระแล้ว 30 ล้านบาท
วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2546 กลุ่มผู้ชำนาญการด้านธุรกิจประกันภัยนำโดย นายจุลพยัพ ศรีกาญจนา ได้เข้าถือหุ้นและบริหารงาน เพื่อสร้าง “เอเชียประกันภัย” ให้เป็น บริษัทประกันภัย ที่มีนวัตกรรมใหม่แห่งวงการประกันภัย
ช่วงปี พ.ศ. 2548-2549 บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) คิดค้นกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์แบบใหม่ แบบแรกในประเทศไทยจนได้เป็น GENERIC NAME ของวงการ ประกันภัย คือ ASIA 3+ ที่สร้างความแปลกใหม่เพิ่มสีสันให้กับวงการประกันภัย และได้รับการยกย่องเป็นบริษัทประกันภัยแนวนวัตกรรมใหม่
ปี 2550 บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล GOLD AWARD สุดยอดแคมเปญการตลาด MAT AWARD 2007 อันดับหนึ่งจากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ประเภทแนวความคิดสร้างสรรค์ทางการตลาดใหม่
เปิดศูนย์จำหน่าย ASIA 3+ บนสถานีรถไฟฟ้า BTS เป็นการให้บริการแบบครบวงจรเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง เพื่อตอบสนองไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว สะดวกสบาย ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการจากผู้บริโภคอย่างแท้จริง
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2551 ธนาคาร DEG (KFW) ธนาคารเพื่อการพัฒนาธุรกิจ อันดับหนึ่งจากประเทศสาธารณรัฐเยอรมัน ซึ่งเป็นธนาคารอันดับต้นของสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงร่วมทุนกับ บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน คือพัฒนาธุรกิจประกันภัยของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพและศักยภาพในการขยายกิจการ และเสริมฐานะความมั่นคงทางการเงิน ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเป็นเงิน 300 ล้านบาท
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 เอเชียประกันภัย 1950 ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน “บริษัทเอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน)” สู่ก้าวต่อไปที่ยิ่งใหญ่ และมั่นคง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาด
ตั้งแต่ปี 2559 บริษัทฯ จับมือเป็นพันธมิตรกับคู่ค้าระดับประเทศทั้งในและนอกธุรกิจประกันภัย เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆและการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสังคมปัจจุบันที่มีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทฯก้าวสู่การเป็นผู้นำและเจ้าตลาดด้านการประกันภัยสมาร์ทโฟน นอกจากนั้นบริษัทฯ เปิดตัวเทคโนโลยีการทำเคลมแบบเบ็ดเสร็จด้วยตัวเองครั้งแรกในประเทศไทย ผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ A-Serve (Click2Claim) สะดวก รวดเร็ว เลือกรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันที
ในปี 2561 บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกมากมาย อาทิเช่น การแจ้งพิกัดการเกิดอุบัติเหตุผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ A-Serve (Click2Call) ติดตามสถานะการเดินทางพนักงานเซอร์เวย์ได้แบบเรียลไทม์, การสำรวจภัยโดยอากาศยานไร้คนขับ (Drone)
ในปี 2562 บริษัทฯยกระดับการให้บริการ เพิ่มการบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Asia Roadside Assistance) และการนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและคู่ค้า เช่น การส่งกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ E-Policy การส่งใบเตือนต่ออายุผ่านสมาร์ทโฟน ฯลฯ เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยกระดับความมั่นคงทางการเงินโดยการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพิ่มอีก 300 ล้านบาท
ปี 2563 บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียน รวมทั้งสิ้นในปัจจุบันเป็น 650 ล้านบาท เพื่อความมั่นคงที่มากขึ้น
บริษัท เอเชียประกันภัยมีคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย
จุลพยัพ ศรีกาญจนา ประธานคณะกรรมการ
ระบุ สูงสถิตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ
ภูเบศวร เทพทรงพัฒนา รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาดและการขาย
อภินรา ศรีกาญจนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสำนักสื่อสารองค์กร
โกวิทย์ เจียมสว่างพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการประสานงานโครงการ
สุราณี สุวณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริหารการเงิน