‘ป้าเก๋งฟ้าในตำนาน’หอบหลักฐาน แจ้งจับคู่กรณีใส่ร้าย

กรณี น.ส.ศศิณัฐ ฮวดใจรักษ์ อายุ 24 ปี ร้องเรียนถูก “ป้าหัวร้อน” หรือ “ป้าบริโอ้ หัวร้อน” ขับรถฮอนด้า บริโอ้ สีฟ้า ทะเบียน 1 กน 7018 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายรถ จยย.ขณะขี่มาบนถนนกับลูกวัย 3 ขวบ บริเวณซอยวัดโบสถ์ดอนพรหม ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แล้วหลบหนีไป โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บโดยได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมีหลักฐานวงจรปิดชัดเจนเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสอนข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนี้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.หน่อย (ขอสงวนชื่อสกุลจริง ) อายุ 55 ปี อ้างว่าเป็นบุคคลที่ขับรถยนต์ฮอนด้าบริโอ้ สีฟ้าทะเบียนดังกล่าว นำหลักฐานกล้องหน้ารถเข้าแจ้งความ พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก.หัวหน้าพนักงาน (สอบสวน) สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ดำเนินคดี น.ส.ศศิณัฐ ฐานแจ้งความเท็จ กล่าวหาว่าขับรถชนท้ายรถ จยย.แล้วหนี และแจ้งความดำเนินคดีวิน จยย.หน้าตลาดเจ้าพระยา ขี่รถ จยย.ไล่ติดตามมายืนด่าทอหยาบคายในวันเกิดเหตุด้วย

น.ส.หน่อย กล่าวว่า ขับรถมานานหลายสิบปี อดีตสมัยนักศึกษาเคยเป็นนักแข่งรถแข่ง สนามพีระเซอร์กิต คว้าถ้วยแชมป์ถึง 4 ถ้วย รู้และเชี่ยวชาญเรื่องการขับรถ วันเกิดเหตุกำลังขับรถไป สภ.บางศรีเมือง มาถึงที่ทเกิดเหตุหน้าตลาดเจ้าพระยา รถติดขับไปไม่ได้ขวามีแท็กซี่ ซ้ายรถ จยย.สาวคู่กรณีซ้อนเด็ก จากนั้นแท็กซี่ได้เบียนตนจนขับต่อไม่ได้แต่อยู่ๆ หญิงสาวที่ขี่รถ จยย.ตะโกนด่าว่าตนด้วยคำหยาบ หาว่าขับรถชนท้ายก่อนเดินมาทุบประตูข้างคนขับ แล้วโทรศัพท์หาใครบางคน

จากนั้นไม่นานก็มีคนขี่วิน จยย.มาเคาะกระจกรถตนฝั่งคนนั่ง ซึ่งมาทราบตอนหลังว่าเป็นสามีของสาวคู่กรณี โดยวิน จยย.ได้วิ่งไปเรียกตำรวจที่กำลังตรวจสอบเหตุรถชนด้านหน้ามาจับตน แต่ตำรวจก็ไม่รู้จะจับข้อหาอะไร พอรถเคลื่อนตัวได้ก็ขับรถออกไปไม่คิดว่าจะมีอะไร กระทั่งมาติดไฟแดงแยกบางพลู วิน จยย.ขี่ตามมาจอดแล้วลงมาเปิดประตูรถตนบอกให้ลงจากรถ ด้วยความตกใจเลยรีบขับรถหนี ก็ไม่ได้สนใจอะไรกระทั่งมีคนรู้จักเอาข่าวมาให้ดู จึงรวบรวมหลักฐานภาพกล้องหน้ารถที่เห็นชัดเจนว่าไม่ได้เฉี่ยวชนใคร ยืนยันว่าตนถูกกลั่นแกล้งจึงเข้ามาแจ้งความกลับทั้ง 2 คนดังกล่าว

พ.ต.ท.วรทัศน์ เปิดเผยว่า น.ส.หน่อย นำหลักฐานกล้องหน้ารถเข้ามาให้ตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบว่ามีการเฉี่ยวชนกัน แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ พร้อมนำคลิปวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเป็นหลักฐานแต่ไม่ค่อยชัดเจน เบื้องต้นจึงส่งรถ น.ส.หน่อย ไปให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี ตรวจสอบหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีร่อยรอยเฉี่ยวชนหรืออุบัติเหตุหรือไม่ หากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วไม่พบร่องรอยเฉี่ยวชนหรืออุบัติเหตุที่ น.ส.หน่อย ถูกแจ้งความนั้น คู่กรณีอาจถูกดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง…..