รปภ. โหด ชูนิ้วกลางใส่วินรับจ้าง พอถูกตามมาทวงถาม กลับฉุนใส่คว้ากรรไกรแทงดับ 1 เจ็บ 1 – ช่อง 7

8 พ.ค. 64 เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ฯ สภ.โคกขาม แพทย์เวรโรงพยาบาลสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสมุทร มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร และ ร.ต.อ.กิจจา คุ้มแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เข้าตรวจสอบเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้ถูกอาวุธกรรไกรแทงเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 1 คน บนถนนบ้านไร่-พันท้ายนรสิงห์ หมู่ที่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ที่เกิดเหตุ มีผู้เสียชีวิตนอนหงายจมกองเลือด ข้างรถยนต์กระบะ ทราบชื่อต่อมาคือ นายปรีชา ธรรมทาทอง อายุ 44 ปี เป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง วินนรสิงห์ หน้าหมู่บ้านกานดาริมคลอง อ.เมืองสมุทรสาคร มีบาดแผลจากการถูกกรรไกรแทงเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย และมีบาดแผลบนศรีษะเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธกรรไกรแทงที่แขนซ้ายอีก 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ เนื่องไชยศ อายุ 44 ปี เป็นคนขับรถจักรยานยนต์วินเดียวกันกับผู้เสียชีวิต ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร

ส่วนคนก่อเหตุคือ นายชนะชัย อนุราช  อายุ 33 ปี อาชีพ รปภ. หลังก่อเหตุได้หลบซ่อนตัวในร้านขายก๋วยเตี๋ยวของภรรยา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ประมาณ 50 เมตร แต่ก็ถูกตำรวจสายตรวจเข้าควบคุมตัวไว้ได้อย่างทันควัน โดยพบที่นิ้วมือมีบาดแผลเลือดไหล นอกจากนี้บริเวณที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์แบบช็อปเปอร์ สีดำจอดอยู่หน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยว 1 คัน และ ยังพบท่อนไม้ 1 ท่อน กับกรรไกรที่ใช้ในการก่อเหตุอีก 1 ด้าม

จากการสอบถามภรรยาของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว บอกว่า ตนไม่รู้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันด้วยสาเหตุอะไร แต่ตอนที่กำลังขายของให้กับลูกค้าภายในร้าน ก็มีคนขับรถจักรยานยนต์ 2 คน มาถามหาคนขับรถช็อปเปอร์สีดำ ที่จอดอยู่หน้าร้าน ซึ่งก็คือแฟนของตนเอง โดยตอนนั้นตนได้ถามกลับไปว่ามีอะไรกัน ทางวินมอเตอร์ไซด์บอกว่า ไม่มีอะไร แค่ตามมาถามว่ายกนิ้วกลางให้ทำไม ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ไปเกิดอะไรขึ้นข้างนอก เพราะแฟนเพิ่งกลับมาจากไปหาพี่สาวแล้วไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง พอแฟนได้ยินคนมาถามหาก็เดินออกมา แล้วก็มีเรื่องกันที่หน้าร้านของตน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะรุนแรงจนถึงขั้นลงมือฆ่ากันตาย

ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ ที่นั่งใกล้ๆ กับร้านขายก๋วยเตี๋ยวเล่าว่า  ขณะที่ตนกำลังนั่งทำงานอยู่นั้น ก็เห็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเดินมาที่หน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน 2 คน แล้วถามว่าใครขับช็อปเปอร์คันดำ ส่วนคนก่อเหตุอยู่ในร้าน พอได้ยินเสียงก็เดินออกมาแล้วบอกว่า “กูนี่แหละ ทำไม มีอะไร” ทางวินฯ ก็ถามว่า ทำไมต้องยกนิ้วกลางให้ จากนั้นคนตายกับคนก่อเหตุก็เดินใส่กันเอาไหล่กระแทกกัน แล้วคนที่ก่อเหตุก็ไปคว้ากรรไกรที่วางอยู่ในร้าน ออกมาแทงใส่เพื่อนของผู้ตาย แต่เฉี่ยวโดนแขนซ้าย ส่วนผู้ตายเห็นเพื่อนถูกแทงก็ไปคว้าท่อนไม้มาฟาดใส่ผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุหลบทันจึงเอากรรไกรแทงใส่ผู้ตายถูกใต้ราวนม ทำให้ผู้ตายวิ่งหนีมาล้มลงตรงหน้าร้านปะยางเสียชีวิต ส่วนคนเจ็บวิ่งหนีออกไปตรงคิวรถจักรยานยนต์ ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้หลบเข้าไปในร้าน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวไว้ได้ก่อนหลบหนี

 

ด้านคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างคิวเดียวกันเล่าว่า คิวจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ตรงทางแยก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยก่อนหน้าที่จะมีปัญหากันนั้น ทางผู้ก่อเหตุขับรถผ่านคิวแล้วเบิ้ลรถพร้อมยกนิ้วกลางให้ แล้วก็ขับมาจอดที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวของภรรยา ซึ่งตอนนั้นมีคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ทั้งหมด 4 คน แต่พอดีมีลูกค้าจึงออกคิวไป 2 คัน ทำให้เหลือแค่ผู้เสียชีวิตกับผู้บาดเจ็บที่สงสัยว่าผู้ก่อเหตุมีอะไร ก็เลยชวนกันมาที่ร้านก่อนเพื่อมาถามว่า เบิ้ลรถมาทำไม ยกนิ้วกลางทำไม ส่วนเพื่อนร่วมคิวตั้งใจว่าหลังจากไปส่งลูกค้าแล้วจะตามมาสบทบ แต่เมื่อมาถึงก็ปรากฏว่า เพื่อนถูกแทงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไปแล้ว

ขณะที่ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนทำงานในบริษัทที่อยู่ใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทั้งสองฝ่ายเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน แต่เท่าที่รู้คือ ทั้งฝ่ายคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง กับ ผู้ก่อเหตุ ไม่เคยรู้จักกัน ส่วนสามีของตนนั้นก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางส่วนตัวกับผู้ก่อเหตุอย่างแน่นอน และสามีเป็นคนไม่ชอบยุ่งอะไรกับใคร พอตอนกลางวันก็จะกลับมากินข้าวที่ห้องพัก จากนั้นก็จะกลับออกไปทำงานขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งสามีมีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจ ต้องกินยาละลายลิ่มเลือด ดังนั้นเมื่อถูกแทงเข้าจุดสำคัญจึงทำให้มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก

 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายชนะชัย คนก่อเหตุไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.โคกขาม ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาฆ่าผู้อื่น อีกทั้งยังจะได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีด้วย ส่วนศพผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรที่นิติเวช เพื่อระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนต่อไป