วันจันทร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 06.30 น.
หลังจากปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ไม่มีการประกาศรางวัล บัลลงดอร์ จากช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่ในปีนี้ ฟรองซ์ ฟุตบอล นิตยสารฟุตบอลอันทรงคุณค่าของฝรั่งเศส ก็ได้หวนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ได้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้เข้าชิงทั้ง 30 คนออกมาเรียบร้อยแล้ว
จากลิสต์ที่ออกมานั้นมีการคาดการณ์ว่าจะเป็นการแย่งชิงกันระหว่าง 5 แข้งที่ผลงานดีที่สุดตลอดทั้งปีอย่าง ลีโอเนลเมสซี่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด), จอร์จินโญ่ (เชลซี), โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค) และ คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด)
แต่สุดท้ายจะมีเพียงหนึ่งเดียวที่จะคว้ามันไปครอง ซึ่งต้องบอกว่าทั้ง 5 ชื่อที่เข้ามาลุ้นนั้นต่างมีผลงานที่ยอดเยี่ยม กันคนละด้านแตกต่างกันไป ก่อนจะมีการประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 พ.ย. นี้ ลองไปดูว่าใครกันน่าจะมีโอกาสมากที่สุด
l ลีโอเนล เมสซี่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง/อาร์เจนติน่า)
ดาวยิงอาร์เจนไตน์คือเจ้าของรางวัลนี้มากที่สุดถึง 6 สมัยที่ปีนี้มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะก้าวขึ้นไปคว้า ดราก้อนบอล(บัลลงดอร์) ครบ 7 ลูก เพราะจากผลงานสำคัญที่ช่วยให้ทัพ“ฟ้า-ขาว” ทีมชาติ อาร์เจนตินา ผงาดแชมป์ โคปา อเมริกา ได้สำเร็จส่วนผลงานส่วนตัวแม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ร่วมกับ บาร์เซโลน่าอดีตทีมรักได้ แต่ดาวเตะวัย 34 ปี นั้นก็ซัดประตูไปถึง 38 ลูกพร้อมกับ 14 แอสซิสต์ ซึ่งนั่นยแสดงให้เห็นว่าผลงานส่วนตัวก็ไม่ได้ตกลงไปเลยแม้แต่น้อย
แม้เวลานี้ เมสซี่ จะกำลังพยายามปรับตัวกับสโมสรใหม่ของเขาอย่าง เปแอสเช แต่เชื่อว่าโดยรวมแล้ว หากเขาจะคว้ารางวัลในปีนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค / โปแลนด์)
อันที่จริงแล้ว เลวานดอฟสกี้ นั้นสมควรคว้ารางวัลบัลลงดอร์ มาครองได้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว แต่น่าเศร้าอย่างยิ่งที่โลกเราต้องเจอสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้ไม่มีการประกาศรางวัลในปีที่ผ่านมา จนดาวยิงโปแลนด์ ต้องพลาดโอกาสสำคัญของตัวเองไป
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาย่อท้อ เพราะมาถึงปีนี้ ตลอดปีที่ผ่านมา ดาวยิงวัย 33 ปี นั้นคงยังระเบิดฟอร์มอย่างต่อเนื่องด้วยการซัดไปถึง 48 ประตู จาก 40 นัดในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการยิงในลีกถึง 41 ประตู จาก 29 นัด ทำลายสถิติอันยาวนานที่ แกรด์ มุลเลอร์ ตำนานทีมชาติเยอรมนี ทำเอาไว้ด้วย และหากนับผลงานมาถึงฤดูกาลนี้เขาก็ซัดไปแล้วถึง50 ประตู เรียกว่าผลงานส่วนตัวไม่มีใครเกินหน้าแน่นอน
ส่วนผลงานกับสโมสรต้นสังกัด ก็คว้าทั้งแชมป์ บุนเดสลีกา,เดเอฟเบโพคาล และ ชิงแชมป์สโมสรโลก แต่ก็นั่นแหละหากส่องผลงานในระดับชาติต้องบอกว่าน่าเศร้าเพราะ ทีมชาติโปแลนด์ นั้นตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2020
l คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / โปรตุเกส)
ไม่ว่าจะยังไงแล้ว เราไม่สามารถตัดชื่อของ โรนัลโด้ ออกจากผู้ท้าชิงได้ แม้เขาจะต้องผิดหวังกับ ยูเวนตุส สโมสรเก่า ที่ชวดแชมป์กัลโช่ ในรอบ 10 ปี แต่การที่ดาวยิงโปรตุกีส ซัดให้ทีมไปถึง 30 ประตู พร้อมคว้าแชมปื โคปปาอิตาเลีย ก่อนที่จะมาระเบิดฟอร์มกับ แมนฯยูไนเต็ด ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยการยิงไป 5 ประตู จาก 6 เกมแรกที่ลงสนาม นั่นก็แสดงให้เห็นว่า อายุในวัย 36 ปีเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ
ที่สำคัญคือในปีนี้ โรนัลโด้ เพิ่งจะทำสถิติที่ใครยากจะทำได้นั่นคือการเป็นดาวซัลโวระดับชาติ หลังทำลายสถิติเดิมที่อาลี ดาอี ดาวยิงทีมชาติอิหร่านเคยทำเอาไว้ที่ 109 ประตู เมื่อปี 2006 ลงได้สำเร็จ เพราะถึงเวลานี้ ดาวยิง CR7 ซัดให้กับทีมชาติโปรตุเกสไปแล้วถึง 115 ประตู จากการลงสนาม 182 นัดและเชื่อว่าการถล่มประตูนั้นจะยังไม่หยุดลงในเร็ววันนี้แน่ๆ
l คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด /ฝรั่งเศส)
มีไม่บ่อยครั้งที่กองหน้าอย่าง เบนเซม่า จะเข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้ลุ้นบอลทองคำ แต่นับตั้งแต่ที่ดาวยิงฝรั่งเศสก้าวขึ้นมาเป็นเดอะแบกของทัพ “ราชันชุดขาว” แบบเต็มตัวนับตั้งแต่ โรนัลโด้ อำลาทีม เขาก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมเสมอมาโดยเฉพาะผลงานในปีนี้ที่ต้องบอกว่าท็อปฟอร์มที่สุด หลังทำไปแล้ว10 ประตู 7 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 10 นัดรวมทุกรายการ
นอกจากนี้ผลงานตลอดทั้งปี เบนเซม่า ก็ซัดไปถึง 34 ประตูและทำแอสซิสต์ ไป 13 ครั้ง และล่าสุดเขาก็เพิ่งเป็นฮีโร่ยิงประตูสุดสวยช่วยให้ ทัพ “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส เอาชนะ ทีมชาติ สเปน คว้าแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกมาครองได้สำเร็จ นั่นทำให้เขาอาจจะเป็นแข้งฝรั่งเศส คนแรกต่อจาก ซีเนอดีน ซีดาน ที่เคยคว้ารางวัลนี้ไปครองตั้งแต่ปี 1998
l จอร์จินโญ่ (เชลซี / อิตาลี)
นี่คือแข้งที่ถูกสื่อทั่วโลกคาดกันว่ามีลุ้นสอดแทรกขึ้นมาคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มากที่สุด หลังจากที่ จอร์จินโญ่ นั้นสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ให้กับทั้งสโมสร เชลซี ด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนในทีมชาติ อิตาลี ห้องเครื่องรายนี้ก็เป็นคีย์แมนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ ยูโร 2020 มาครองเรียกว่าถ้วยรางวัลแทบจะการันตีที่จะคว้าบอลทองคำมาครองเลยทีเดียว
สิ่งเดียวที่จะทำให้ จอร์จินโญ่ เป็นรองแข้งรายอื่นที่ลุ้นเข้ามาชิงชัย คือการที่เขาไม่ได้เล่นในตำแหน่งแนวรุก หรือกองหน้าที่มีผลโดยตรงกับการทำประตูให้ทีมก็เท่านั้น แต่หากผลงานโดยรวมแล้วต้องบอกว่านี่คือขวบปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้งของห้องเครื่องวัย 29 ปี และหากจะมีสักครั้งที่จะมีแข้งที่ไม่ใช่กองหน้าคว้ารางวัลไปครอง ปีนี้ก็เหมาะสมที่สุด
_____ กาลอป _____