วันจันทร์ ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติ ไทยชุดใหญ่ ที่เตรียมทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5 ธ.ค. 2564-1 ม.ค. 2565 โดยทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ“เจ้าภาพ” สิงคโปร์, เมียนมา, ฟิลิปปินส์และติมอร์เลสเต
ล่าสุดภายหลังจากที่ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือของทัพ “ช้างศึก” ได้ทำการประกาศรายชื่อนักเตะ 30 คนสุดท้ายออกมา ซึ่งก่อนหน้านี้มี 2 แข้งที่ต้องถอนตัวไปคือ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยากับ พรรษา เหมวิบูลย์ มีอาการเจ็บ ถอนตัวไปก่อนแล้ว ล่าสุดจะยังเจอปัญหาต่อเนื่องเมื่อ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ แนวรุกตัวเก่งจาก การท่าเรือ เอฟซี ได้รับบาดเจ็บ จากเกมบุกชนะ หนองบัว พิชญ 1-0 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. จนถูก เปลี่ยนตัวออก นาทีที่ 20 และต้องรอผลตรวจอาการโดยละเอียด นอกจากนี้อีกหนึ่งแข้งจาก การท่าเรือ อย่าง ฟิลิป โรลเลอร์ แบ๊กขวาจอมบุก ก็เดินทางกลับไปเยอรมนี เพื่อทำธุระส่วนตัว ทำให้ต้องรอลุ้นกันว่าจะสามารถร่วมทีมได้หรือไม่
ทางด้าน มาโน่ กุนซือช้างศึก ก็ได้เผยถึงการศึกษาคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ตัวเต็งแชมป์ในครั้งนี้ว่า ได้ดูฟอร์มของเวียดนามมาบ้างแล้ว ข้อได้เปรียบของเวียดนามคือได้ซ้อมกันมาต่อเนื่อง 3-4 เดือน เนื่องจากเตรียมตัวแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกด้วย และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นทีมที่มีผลงานดีมากๆ ส่วนมาเลเซียเองก็เป็นทีมที่อันตราย จากการเจอกันล่าสุดกับทีมชาติไทยพวกเขาทำผลงานได้ดีและมีความมั่นใจว่าตัวเองพัฒนาขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันก็มีความมั่นใจว่าทีมชาติไทยชุดนี้ดีพอจะเป็นแชมป์และนำถ้วยแชมป์กลับสู่ประเทศไทยได้ ด้วยการเตรียมงานที่ดี มีการซ้อมที่ดี
สำหรับ นักเตะที่มีชื่อติดทีมชาติจะถูกเรียกมารายงานตัว ในวันจันทร์ที่29 พ.ย.จากนั้นออกเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งทีมชาติไทยจะไม่ได้ซ้อมจนกว่าจะได้รับผลตรวจโควิด-19 เป็นลบทั้งทีม ก่อนที่จะเริ่มแข่งขันเกมแรกกับติมอร์เลสเตวันที่ 5 ธ.ค.
ทั้งนี้โปรแกรมทีมชาติไทย ในเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020 รอบแบ่งกลุ่มกลุ่มเอ ทั้ง 3 นัดมีดังนี้ วันที่ 5 ธ.ค.พบ ติมอร์เลสเต, วันที่ 11 ธ.ค. พบ เมียนมา , วันที่ 14 ธ.ค. พบ ฟิลิปปินส์ และวันที่ 18 ธ.ค. พบ “เจ้าภาพ” สิงคโปร์