เร่งล่า เก๋งชนแล้วหนี ทิ้งหนุ่ม 16 นอนเจ็บ 14 ชม.จนสุดท้ายต้องตัดขาทิ้ง – pptvhd36.com


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หนุ่มวัย 16 ถูกรถเก๋งปริศนาชนแล้วหนี ถูกปล่อยทิ้งให้นอนทนความเจ็บปวดอยู่บริเวณป่าข้างทางกว่า 14 ชม. จนสุดท้ายต้องตัดขาขวาทิ้งเพราะเนื้อตายกลายเป็นคนพิการ

เร่งล่า เก๋งชนแล้วหนี ทิ้งหนุ่ม 16 นอนเจ็บ 14 ชม.จนสุดท้ายต้องตัดขาทิ้ง
เร่งล่า เก๋งชนแล้วหนี ทิ้งหนุ่ม 16 นอนเจ็บ 14 ชม.จนสุดท้ายต้องตัดขาทิ้ง

แม่วอนตามหาเก๋งชนแล้วหนี ทำลูกพิการขาขาด

ถือเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด สำหรับหนุ่มวัย 16 หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างขับรถมอเตอร์ไซค์และรถเก๋งปริศนาชนแล้วหนี บริเวณจุดกลับรถ บนถ.มาลัยแมน-กำแพงแสน และถูกปล่อยทิ้งให้นอนทนความเจ็บปวดอยู่บริเวณป่าข้างทางกว่า 14 ชม. จนสุดท้ายต้องตัดขาขวาทิ้งเพราะเนื้อตายกลายเป็นคนพิการ ล่าสุดเด็กคนนี้อาจต้องตัดขาเพิ่มอีก เพราะอยู่ในภาวะเฝ้าระวังแผลติดเชื้อ โดยวันนี้ทีมข่าวพีพีทีวี ได้หลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด

นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านโรงกลึง ฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ ห่างกันประมาณ 200 เมตร โดยในช่วงระหว่าง 1 -2 ทุ่ม ที่ถูกระบุว่าเป็นจังหวะเกิดอุบัติเหตุกับเด็กชายวัย 16 รายนี้ ภาพที่กล้องบันทึกได้ แม้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายขับผ่านกล้องและไปเกิดอุบัติในช่วงเวลาใด เพราะรัศมีของกล้องจับภาพได้เพียงก่อนถึงจุดกลับรถเท่านั้น และเป็นช่วงค่ำทำให้ภาพค่อนข้างมืด แต่อย่างน้อยก็ทำให้ทราบเวลาเกิดเหตุ โดยภาพกล้องจรปิดตัวนี้ตำรวจจะนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานในการไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การติดตามผู้ก่อเหตุชนแล้วหนีในวันนั้น

นายเอ (นามสมมติ) เจ้าของโรงกลึงละแวกนี้ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ปกติปิดร้านตั้งแต่ 5 โมงเย็น จึงไม่เห็นเหตุการณ์ มาทราบตอนช่วงเช้าเพราะมีคนปั่นรถจักรยานมาบอกว่า มีคนเกิดอุบัติเหตุนอนอยู่ในพงหญ้าใกล้กับจุดกลับรถตนจึงไปดู และให้ผู้ใหญ่บ้านโทรเรียกมูลนิธิมาช่วยเหลือ จุดเกิดเหตุเห็นกันชนและกระจังหน้าของรถยนต์ตกหล่นอยู่ ซึ่งน้องชายของตัวเองบอกว่าคืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.00 น. ขับรถมายูเทิร์นบริเวณนี้พบว่ามีเศษกันชนรถและกระจังหน้าตกอยู่ตั้งแต่เวลานั้นแล้ว จึงคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่เกิน 20.00 น.ซึ่งผู้บาดเจ็บไม่ได้ล้มเองมีคู่กรณีแน่นอน นอกจากนี้ตนยังทราบมาว่ามีคนที่เห็นเหตุการณ์ในค่ำวันนั้นด้วย ซึ่งเป็นพนักงานปั๊มน้ำมันใกล้จุดเกิดเหตุ

ทีมข่าวจึงไปสอบถามพนักงานปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยพนักงานทุกคนยืนยันว่า ไม่มีพนักงานปั๊มคนไหนเห็นเหตุการณ์ในค่ำวันนั้น แต่มีสิ่งที่ผิดปกติคือในช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถสิบล้อหลายคันบีบแตรยาวมาตลอดทางตั้งแต่จุดยูเทิร์นถึงหน้าปั๊ม เหมือนกำลังส่งสัญญาณบอกว่ามีอุบัติเหตุแต่ก็ไม่มีใครเอะใจไปดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. มีลุงขับรถเก็บขยะเห็นว่ามีกันชนรถตกอยู่บริเวณนั้น จึงลงไปสำรวจพงหญ้าด้านล่างแต่ก็ไม่พบผู้บาดเจ็บ

ทีมข่าวพีพีทีวีได้นำภาพอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ 2 ชิ้นที่ตกในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของคดีนี้ ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ หนึ่งในผู้เคยเข้าร่วมการแข่งขันรายการเกมโชว์เกี่ยวกับความชำนาญด้านรถยนต์ ตรวจสอบว่าชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นของรถยนต์ชนิดใด โดยจากการตรวจสอบพบว่า รถคันก่อเหตุเป็นรถเก๋ง Toyota Corolla Altis TRD Sportivo สีขาว ซึ่งรถรุ่นนี้ผลิตปี 2011-2013 สำหรับสิ่งที่ทำให้ยืนยันได้ว่าเป็นรถยี่ห้อและรุ่นนี้ คือ ชิ้นส่วนกันชนด้านข้าง 1 ชิ้น ซึ่งเป็นลักษณะจำเพาะที่มีอยู่ในรถยนต์รุ่นนี้เท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.สุรชาติ มณีจักร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เปิดเผยกับทีมข่าว PPTV ว่า เมื่อวานนี้ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งจะต้องไล่เรียงภาพขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเพื่อให้สามารถลำดับเหตุการณ์ได้ และถึงแม้ว่ากล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุจะมีน้อย แต่เมื่อเรียงลำดับภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสแล้วว่ารถคันที่ชนขับหลบหนีไปเส้นทางไหน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ชัดเจน

ส่วนหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุทั้งกันชนและกระจังหน้าของรถที่ชนเด็กชายวัย16 ขณะนี้กำลังให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอยู่ พล.ต.ต.สุรชาติ ยังบอกอีกว่า สาเหตุที่คดีนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนล่าช้า เพราะในช่วงแรกหลังเกิดเหตุทางแม่ผู้เสียหายแจ้งว่าลูกชายขับรถล้มเอง ไม่มีคู่กรณี แต่ภายหลังพบหลักฐานจึงมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่กระบวนการสอบสวนจึงถือว่าเริ่มต้นใหม่

ด้านนางธัญญารัตน์ น้ำใจดี แม่ของนายกฤษฎา เปิดเผยว่า ตำรวจได้เรียกตัวไปสอบปากคำแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ยังไม่ได้แจ้งความคืบหน้าของคดี ส่วนกรณีที่ตนแจ้งกับเจ้าหน้าที่ในตอนแรกว่าลูกขับรถล้มเองไม่มีคู่กรณี เพราะทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยแจ้งว่าที่เกิดเหตุไม่พบคู่กรณีตนจึงเข้าใจว่าลูกขับรถล้มเอง เมื่อไปดูสภาพรถและลักษณะการบาดเจ็บของลูกจึงทราบว่าลูกถูกรถชน

ส่วนอาการของลูกชาย ขณะนี้ดีขึ้นแต่ต้องกลับมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพราะบริเวณแผลผ่าตัดขายังหายไม่สนิท และหมอกังวลว่า อาจมีการติดเชื้อจึงต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะต้องตัดชิ้นส่วนขาให้สูงขึ้นอีก  ซึ่งขณะนี้ตนได้ขออนุญาตที่ทำงานลางานช่วงนึงไปก่อนเพื่อมาดูแลลูกอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่ได้ลาออกและหวังว่าที่ทำงานจะเข้าใจ แต่หากจะต้องลาออกมาดูลูก ก็จำเป็นต้องทำเพราะลูกไม่มีคนดูแล ยอมรับว่า หลังลูกเกิดอุบัติเหตุต้องใช้เงินในการรักษาพอสมควร หากไม่มีงานทำอนาคตก็กังวลว่าอาจจะไม่มีเงินรักษาลูกเพราะตัวเองทำงานอยู่คนเดียว

ลูกชายวอนเก๋งชนพ่อเจ็บหนักแล้วหนี เข้ามอบตัวตำรวจ


เกาะติดสถานการณ์  โควิด-19

วัคซีนโควิด-19 ถึงประเทศไทย