ภายหลังการเข้ามาเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด ผู้นำเข้าและ จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ดูคาติ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จนถึงปัจจุบันครบรอบ 1 ปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นปีแรกที่มีการตอบรับที่ดี มียอดจำหน่ายในปีแรกอยู่ที่ 560 คัน
เปิด 5 กลยุทธ์ บริการหลังการขายของ ดูคาติ ประเทศไทย
ดูคาติ อัดโปรฯแรง ‘ดาวน์ 0 บาท-ดอกเบี้ย 0%’ ทุกคัน ฉลองครบรอบ 1 ปี
ถอดบทเรียน AUDI แบรนด์ 5 ปีในไทย ที่โดนโควิดกินเวลากว่าครึ่ง
สำหรับ 1 ปีที่ผ่านมา ดูคาติ ประเทศไทย เปิดตัวไปแล้ว 8 รุ่นหลัก 34 รุ่นย่อย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 349,000 – 1,660,000 บาท
รุ่นที่ได้รับความสนใจและมียอดจำหน่ายมากที่สุด 3 รุ่น ได้แก่ Monster คิดเป็น 29%, Scrambler คิดเป็น 22% Panigale V4 คิดเป็น 17% และรุ่นอื่นๆ รวมอีก 39% โดยในปีนี้จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น โดยในอนาคตอันใกล้นี้ และยังมีความพิเศษอีก 1 รุ่น คือ MotoE (the first electric motorcycle) รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันแรก โดยใช้ชื่อว่า MotoE มาจากการร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างแผนก R&D ของ Ducati และ Ducati Corse พัฒนาเทคนิคที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับชุดแบตเตอรี่ มอเตอร์ และอินเวอร์เตอร์ การพัฒนาโครงการอยู่ในขั้นตอนที่ใกล้สำเร็จ
ใน 1 ปีที่ผ่านมา ดูคาติ ประเทศไทย มีโชว์รูมและศูนย์บริการ ทั้งหมด 7 แห่ง และคาดว่าภายในปี 2022 – 2023 จะเปิดเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง รวมเป็น 9 แห่ง โดยมุ่งเน้นไปที่ภาคเหนือและภาคตะวันออก ซึ่งกำลังมีการเติบโตสูงยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการปรับลดราคาอะไหล่ลงมากกว่า 15-20% ซึ่งเป็นราคาที่สมเหตุสมผล รวมถึงการขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพตัวรถจาก 2 ปี เป็น 3 ปี, การรับประกันคุณภาพงานซ่อมนานถึง 6 เดือน ( สำหรับงานซ่อม กับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Ducati) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านบริการหลังการขาย
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด ผู้นำเข้าและ จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ดูคาติ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของ ดูคาติ หลังจากนี้ จะมีการพัฒนาและทำการตลาดร่วมกันระหว่างแบรนด์ ดูคาติ (Ducati) และ อาวดี้ (Audi) ซึ่งอยู่ภายใต้ร่มเงาของบริษัทแม่เดียวกันทั้งในระดับโลกและประเทศไทย ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์มีความแข็งแกร่งและภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่างมาก โดยโชว์รูม อาวดี้ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม เป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่มีแบรนด์ อาวดี้ และ ดูคาติ อยู่ในที่เดียวกัน
ทั้งนี้ อาวดี้ จะมุ่งการพัฒนาเทคโนโลยีไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน ซึ่ง ดูคาติ ก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยแน่นอนว่าหาก ดูคาติ มีการเปิดตัวและเริ่มจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จะนำมาวางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยอย่างแน่นอน ซึ่งถือ brand integration ระหว่าง ดูคาติ และ อาวดี้ ทำให้เกิดข้อได้เปรียบทางธุรกิจในแง่การแชร์เทคโนโลยีในกลุ่มเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ภายในประเทศคือการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มพรีเมียมและความร่วมมือในทุกระดับ เช่น การออกงาน Motor Show และ Motor Expo ภายในพื้นที่เดียวกันเป็นต้น
“ในประเทศไทยระหว่างแบรนด์ อาวดี้ และ ดูคาติ จะมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมกันไม่เพียงแค่จำหน่ายในโชว์รูมเดียวกันเพียงอย่างเดียว แต่จะมีการทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ การให้ลูกค้าได้สัมผัสรถยนต์และรถจักรยานยนต์ภายในกิจกรรมเดียวกัน หรือ การใช้ฐานข้อมูลเดียวกันในการทำการตลาด”
หม่อมหลวง กมลชาติ ประวิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด กล่าวว่า ดูคาติ ประเทศไทย มีโรดแมปการดำเนินธุรกิจ 5 ปี (2022-2026) คาดว่าจะมียอดขายรวมอยู่ที่ 6,000 คัน โดยในปี 2023 คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 1,200 คัน ซึ่งในช่วง 2 ปี (2022-2023) อยู่ในช่วงการรีแบรนด์ และในช่วง 3 ปีหลัง (2024-2026) จะเป็นช่วงเน้นการเติบโตของยอดขาย ขณะที่มีแผนการใช้งบประมาณทางการตลาดมูลค่าราว 150 ล้านบาทตลอด 5 ปี
- ในปีแรก ได้คำนึงถึงบริการหลังการขายเป็นอันดับแรก และได้เร่งพัฒนาบุคลากร อบรมทีมช่างให้สามารถให้บริการได้คุณภาพมาตรฐานของ ดูคาติ พร้อมได้ปรับลดราคาค่าแรง ค่าอะไหล่ลง เพื่อให้เป็นราคาสมเหตุสมผลมากที่สุด
- ในปีที่สอง ได้มีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ 9 รุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกมากขึ้น โดยในสองปีแรก จะเน้นการเปิดตัวสาย Sport Touring, Off-Road พร้อมกับยังคงเร่งขยายโชว์รูมเต็มรูปแบบ สร้างความเชื่อมั่นบริการหลังการขาย ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคและ จัดกิจกรรมการขับขี่ทั้งในประเทศ
- ในปีที่ 3-5 จะเป็นช่วงที่เราเน้นการเติบโตของยอดขาย โดยเป็นการขยายตลาดไปในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาดเล็ก เน้นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ พร้อมกับราคาที่น่าดึงดูด
นอกจากนั้น แผนปฏิบัติการเพื่อให้ไปถึงตามกลยุทธ์ที่วางไว้ มุ่งเน้นการบริการหลังการขายเป็นจุดสำคัญ เน้นการเข้าถึงและเก็บข้อมูลลูกค้า รับฟังความต้องการและนำไปปรับปรุงการให้บริการ เพื่อให้ได้งานบริการที่ดีและเข้าถึงลูกค้ามากที่สุด
พร้อมทั้งขยายศูนย์บริการครบวงจรเพื่อครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ ลุยตลาด รถจักรยานยนต์ใช้แล้ว (Used Bike) เพื่อเป็นการเปิดตลาดให้แก่ลูกค้า พยุงราคารถ ดูคาติ มือสองในตลาด และเน้นการทำ Digital marketing ทำกิจกรรมทางการตลาดเชิงรุก ด้านออนไลน์ หรือกิจกรรมการขับขี่ ทั้งในสนามและนอกสนาม
นอกจากนั้น ในปี 2023 จะเป็นปีที่ ดูคาติ รับหน้าที่เป็นซัพพลายเออร์แต่เพียงผู้เดียวของ FIM MotoE™ World Cup ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีเพียงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น และซึ่งบริษัทมีแผนที่จะนำมาจัดแสดงในเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) ระดับพรีเมี่ยมที่มีขนาด 400 ซีซี. ขึ้นไป 5เดือน (มกราคม-พฤษภาคม) มีอยู่ปริมาณราว 3,000 คัน จากตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) ขนาด 400 ซีซี. ขึ้นไป ที่อยู่ที่ราว 8,000 คัน สำหรับทั้งปีคาดว่าตลาดรวมรถบิ๊กไบค์ในปี 2022 จะอยู่ที่ 1.5 หมื่นคันเทียบเท่ากับปีก่อน