จากกรณีพบร่างผู้เสียชีวิต นายทนุ ใจดี อายุ 81 ปี ชาว ต.ปากจั่น บิดาของนายธวัช ใจดี ผู้ช่วย ส.ส.ระนอง และนางนฤมล บุญช่วย นายก อบต.ปากจั่น สภาพศพมีรอยบาดแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลัง 1 จุด ศีรษะด้านหน้า 2 จุด บริเวณกกหูขวา 1 จุด และที่แข้งขาด้านขวา 1 จุดอยู่ในบ่อน้ำ ข้างบ้านพักในสวนยางหมู่ที่ 8 บ้านหาดตุ๋น ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวแรงงานเมียนมาทั้งหมด 19 คน พร้อมกับคนไทย 3 คน ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ของผู้ตายมาสอบสวน
วันที่ 11 ก.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่มาบ้านลูกชายของคนตาย สร้างเป็นโรงงานยางของบ้าน ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพสุดท้ายก่อนเกิดเหตุในวันที่ 8 ก.ค. 65 เวลา 09.00 น. พบว่าผู้ตายได้นั่งวินจักรยานยนต์จากที่เกิดเหตุ มายังบ้านลูกชายที่ห่างกัน 4 กิโลเมตร
จากนั้นผู้ตายใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่โรงงานยางโดยเดินไปเดินมา ตรวจดูแผ่นยาง จนช่วงเวลา 15.57 น. ให้แรงงานชาวเมียนมาในโรงงาน ไปซื้อปลาทูมาให้ 1 กิโลกรัม
หลังจากนั้นวินรถจักรยานยนต์คันเดิมได้ขับมารับเวลา 16.00 น. ผู้ตายถือถุงปลาทูที่สั่งซื้อขึ้นรถจักรยานยนต์ แล้วนั่งกลับบ้านพักในสวนที่อาศัยอยู่คนเดียว ท่ามกลางบ้านพักของแรงงานเมียนมา 19 คน
หลังเกิดเหตุ ลูกสาวและลูกชายของผู้ตายได้เข้าไปพบปลาทูแช่อยู่ในช่องฟิซของตู้เย็น ขณะเดียวกันยังพบว่าปลาทูที่นำกลับไปบ้านไม่ได้มีการนำไปปรุงอาหาร และพบว่ากับข้าวในมื้อเย็นของวันที่ 8 ก.ค. ยังไม่ได้กินและบูดอยู่ภายในบ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พม่าเหี้ยมจับอดีตนายกฯ รีดค่าไถ่ 1 ล้านฆ่าหมกบ่ออำพราง แฉก๊วนให้การพิรุธ (คลิป)
บรรยากาศที่งานศพของนายทนุ ใจดี อายุ 81 ปี ชาว ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง, ครอบครัวและญาติ ๆ ยังโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายทั้ง 2 คนและลูกสาว ร่ำไห้เมื่อเห็นศพของพ่อ โดยนางนฤมล บุญช่วย นายก อบต.ปากจั่น ขณะรดน้ำศพของพ่อ ได้ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก บอกว่า “พ่อบอกว่าจะมาหาหนูวันจันทร์ ทำไมถึงมาในสภาพนี้”
นางนฤมล บุญช่วย นายก อบต.ปากจั่น บอกว่า ตนได้พบกับพ่อวันสุดท้ายคือวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 08.00-09.00 น. ที่พ่อนั่งรถจักรยานยนต์มาที่บ้านแล้วเดินเข้าไปที่โรงเก็บยาง ทราบจากลูกหลานว่าพ่ออยู่จนถึงช่วงบ่าย แล้วก็กลับเข้าไปที่บ้านพัก แล้วก็ไม่ได้เดินทางออกมาอีกเลย
ปกติช่วงวันเสาร์-อาทิตย์พ่อจะไม่ออกมาจากบ้านพักภายในสวนอยู่แล้ว โดยจะมีพี่ชายก็คือพี่ธวัช นำกับข้าวเข้าไปให้ที่บ้าน
ก็คือวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ได้ทราบจากหลานชายว่ามีชาวเมียนมา โทรติดต่อเข้ามา แล้วบอกว่าได้จับพ่อตนเป็นตัวประกันเรียกค่าถ่ายจำนวน 800,000 บาท พอตนโทรกลับก็ไม่รับ จึงมีการส่งข้อความคุยกัน และได้ให้แรงงานชาวเมียนมาโทรไปพูดคุยกันเป็นภาษาเมียนมา เจรจาและบอกว่าจะนำเงินไปให้โดยขอดูภาพพ่อ แต่ทางคนที่ก่อเหตุก็ไม่ได้ส่งภาพพ่อมาให้จึงออกตามหา และพบว่าพ่อเสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำ
ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้เชื่อว่ามีคนก่อเหตุมากกว่า 1 คนแน่นอน และทำเป็นกระบวนการ และเชื่อว่ามีในส่วนของคนไทย และชาวเมียนมา โดยทราบจากคนแถวนั้นว่ามักจะมีผู้หญิงไทยคนหนึ่งเดินทางเข้าไปขอยืมเงินของพ่ออยู่เป็นประจำ
ทีมข่าวโทร.สอบถามวินรถจักรยานยนต์ บอกว่า ในวันที่เกิดเหตุตนขับรถจักรยานยนต์มารับผู้ตาย และกลับไปส่งผู้ตายช่วงเช้า และช่วงบ่ายจริง และทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อผู้ตายโทร.หาโดยคิดค่าจ้างวันละ 60 บาท โดยในวันนั้น จำได้ว่าผู้ตายถือถุงปลาทู 1 กิโลกรัมขึ้นรถจักรยานยนต์กลับบ้านพักในสวน ยืนยันว่าตนไปส่งผู้ตายถึงที่บ้านพัก พอไปถึงก็ยังได้จ่ายเงินตน แล้วก็เดินเข้าไปพูดคุยกับแรงงานที่นั่งอยู่บริเวณที่พักตรงนั้น มีแรงงานอยู่ประมาณ 4-5 คน เท่าที่จำได้
ขณะที่ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางเบี้ยว (นามสมมติ) มาพร้อมกับสามี ที่เป็นคนไทย ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเคยเดินเข้าไปในบ้านของผู้ตาย ช่วงวันที่เกิดเหตุ และเคยเดินทางเข้าไปยืมเงินกับผู้ตายอยู่บ่อยครั้ง โดยนางเบี้ยวบอกกับทีมข่าวว่าไม่อยากจะให้ข้อมูลแล้ว เหนื่อย โดนสอบมาตั้งแต่ตี 4 เมื่อคืนที่ผ่านมา จนตอนนี้ยังไม่ได้กลับบ้าน
ยอมรับว่าตนเป็นญาติกับผู้ตาย โดยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และยืนยันว่าไม่เคยเดินทางไปหาผู้ตายอย่างแน่นอน เพราะบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตรได้
นายภู หัวหน้าแรงงานเมียนมา บอกว่า ในช่วงวันที่เกิดเหตุตนเข้าไปตัดสวนยางทำงานทุกอย่าง โดยไม่ทราบเลยว่าเจ้าของสวนยางเสียชีวิตแล้ว มาทราบอีกทีเมื่อวานนี้ ยอมรับว่าตกใจ และไม่รู้จริง ๆ ว่าใครเป็นคนทำ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นแรงงานเมียนมาด้วยกัน น่าจะเป็นคนอื่นมากกว่า และยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีแรงงานเมียนมาคนไหนในสวนหลบหนีออกจากพื้นที่
ตนยืนยันว่าตน และเพื่อนชาวแรงงานเมียนมาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกับเจ้าของสวน สำหรับตนก็ได้รับเงินค่าจ้างอยู่ตลอดเดือนละ 15,000 บาท
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าตอนนี้ได้เบาะแสผู้ต้องหาแล้ว ยู่ในกลุ่มของผู้ต้องสงสัยในวันนี้ที่อยู่ในการสอบปากคำ แต่อยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด รวมถึงการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานจากชุดพิสูจน์หลักฐาน โดยยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีคนก่อเหตุทั้งหมดกี่คน แต่ว่ามากกว่า 1 คนอย่างแน่นอน และอยู่ระหว่างการเรียกสอบบุคคลต้องสงสัยซึ่งเป็นแรงงานเมียนมาในพื้นที่ 19 คน คนไทย 3 คน