“คมนาคม” ดีเดย์ 1 เม.ย. คิกออฟซิ่ง 120 กม.ต่อชม สายเอเซีย 50 กม. อดใจรออีก 2-3 เดือน วิ่งเฟส 2 ได้อีก 240 กม. เร่ง ทล.-ทช. เตรียมความพร้อมถนน ติดป้ายจราจร-สร้างสะพานลอย-ปิดจุดกลับรถ สั่งพิจารณาความเป็นไปได้ใช้เงินกองทุนฯ ต่างประเทศ
จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 เวลา 17.10 น.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้านโยบายการปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์เป็น 120 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง (ชม.) ว่า ในวันที่ 1 เม.ย.64 ซึ่งเป็นวันสถาปนากระทรวงคมนาคม ตนจะเป็นประธานคิกออฟเปิดให้ประชาชนได้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. ในช่องจราจรขวาสุดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเซีย) ช่วงบริ
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า คาดว่าในเฟสที่ 2 จะให้ประชาชนใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. ได้หลังจากคิกออฟเส้นทางนำร่องแล้วประมาณ 2-3 เดือน ส่วนเฟสที่ 2 จะมีระยะทางเพิ่มเติมจากนี้หรือไม่ ต้องรอ ทล. และ ทช. วิเคราะห์รายละเอียดในเส้นทางอื่นๆ อีกครั้ง เนื่องจากในการประชุมครั้งนี้มีการเสนอเส้นทางที่มีศักยภาพที่จะสามารถให้ใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม. เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมทราบก่อนวันที่ 1 เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำไปว่าไม่จำเป็นต้องรอให้พร้อม และเปิดให้ใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม.ทีเดียวพร้อมกันยาวๆ สามารถแบ่งเป็นช่วงๆ ประมาณ 2-3 กม.ได้ ซึ่งตนมองว่าน่าจะทำได้ แต่ต้องติดป้ายแจ้งเตือนความเร็วให้ประชาชนทราบว่าจุดนี้ใช้ความเร็วได้เท่าใด
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ในการประกาศให้สามารถใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม. ในเส้นทางใดเพิ่มเติมอีกนั้น จะต้องประกาศล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน เพื่อให้ประชาชนทราบรายละเอียดว่าจะเริ่มเมื่อใด และเส้นทางใดบ้าง และหลังจากเปิดให้ประชาชนสามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. แล้ว จะให้สถาบันการศึกษาเข้ามาประเมินผลโครงการด้วยว่า การดำเนินงานดังกล่าวทำให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยหรือไม่
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ทล. และ ทช. ต้องเร่งติดตั้งป้ายบอกความเร็ว ปิดจุดกลับรถ รวมถึงการสร้างสะพานลอยข้ามถนนที่สามารถให้คน รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน สามารถข้ามผ่านถนนได้ เบื้องต้นให้ใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ซึ่งขณะนี้กองทุนดังกล่าวมีเงินคงเหลือประมาณ 5 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาขอสนับสนุนเงินจากกองทุนความปลอดภัยทางถนนของต่างประเทศได้หรือไม่ ทั้งในรูปแบบของการขอเงินสนับสนุนแบบให้เปล่า และการกู้ยืมเงิน.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
100%