รวมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่แรงที่สุดในปี 2021 รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์พลังงานไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดในท้องตลาดตอนนี้ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีที่น่าสนใจ และจะมีรุ่นอะไรจากค่ายไหนบ้างนั้นไปติดตามกัน
ปัจจุบันกระแสของรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก หลายค่ายต่างผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง และเช่นเดียวกันในฝั่งของรถสองล้อ รถมอเตอร์ไซค์ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าก็ถูกพัฒนาส่งลงสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ในปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีแค่รถสกูตเตอร์ขนาดเล็กที่ทำความเร็วและมีขีดความสามารถจำกัดเท่านั้น แต่มีมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ หรือ มอเตอร์ไซค์สปอร์ตไบค์ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและมาพร้อมกับสมรรถนะและความแรงที่ไม่ธรรมดา
วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีกำลังเครื่องสูงที่สุด หรือเรียกได้ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่แรงที่สุดที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมาให้ดูกัน แต่ละคันเรียกได้ว่าทรงพลังไม่แพ้รถใช้น้ำมันเลยทีเดียว จะมีรุ่นไหนยี่ห้อไหนบ้างไปดูกัน
1. Zero SR/F และ Zero SR/S
ภาพจาก zeromotorcycles.com
ภาพจาก zeromotorcycles.com
Zero SR/S
มอเตอร์ไซค์สปอร์ต naked bike จาก Zero บริษัทผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแห่งสหรัฐฯ ที่ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ตัวแรงออกมา 2 รุ่น ได้แก่ Zero SR/F และ Zero SR/S โดยทั้งคู่มาพร้อมกับสเปกที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ตัวเครื่องใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ZF ขนาด14.4 กิโลวัตต์ วิ่งได้ระยะทางไกล 260 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเพิ่มได้ถึง 320 กิโลเมตร กรณีติดตั้งแท็งก์แบตเตอรี่เสริม ให้พละกำลังสูงถึง 110 แรงม้า และแรงบิด 190 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- กำลังสูงสุด – 110 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที
- แรงบิดสูงสุด – 190 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด – 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 รอบ – 175 กิโลเมตร (โดยเฉลี่ย)
- ราคา
-
SR/F Standard ราคา 19,995 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 599,000 บาท)
-
SR/F Premium ราคา 21,995 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 659,000 บาท)
-
SR/S Standard ราคา 19,495 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 584,000 บาท)
-
SR/S Premium ราคา 21,495 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 644,000 บาท)
-
2. Energica Ego และ Ego +
ภาพจาก energicamotor.com
Energica Ego
ภาพจาก energicamotor.com
Energica Ego +
มอเตอร์ไซค์สปอร์ตไฟฟ้าตัวแรงสัญชาติอิตาลี จากค่าย Energica ที่หากมองแค่ภายนอกแทบไม่ต่างจากบิ๊กไบค์รุ่นท็อป ๆ เลยทีเดียว สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Energica จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Energica รุ่น Ego และ Ego+ โดยทั้ง 2 รุ่นนั้นจะมีความแตกต่างกันที่แบตเตอรี่ที่ให้กำลังไฟแตกต่างกันรุ่น Ego จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 13.4 กิโลวัตต์ และในรุ่น Ego + ใช้แบตเตอรี่ขนาด 21.5 กิโลวัตต์ ให้พละกำลังสูงถึง 143 แรงม้า แรงบิดที่ 200 นิวตันเมตรต่อนาที ในรุ่น Ego และ 215 นิวตันเมตร ในรุ่น Ego + ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- กำลังสูงสุด – 143 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด – 200 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด – 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 รอบ – กิโลเมตร (โดยเฉลี่ย)
- ราคา
-
Energica Ego ราคา 19,540 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 598,000 บาท)
-
Energica Ego + ราคา 23,870 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 730,700 บาท)
-
3. Damon Hypersport HS and Premier
ภาพจาก damon.com
Damon Hypersport HS
ภาพจาก damon.com
Damon Hypersport Premier
Damon Hypersport ซูเปอร์ไบค์พลังไฟฟ้าสุดแรงที่ได้รับการพัฒนาโดย Demon Motoecycle แบรนด์ผู้ผลิตจากประเทศแคนาดา ที่ใส่เทคโนโลยีสุดล้ำอย่างระบบ CoPilot เรดาร์อัจฉริยะที่คอยตรวจจับวัตถุรอบ ๆ ตัวรถแบบ 360 องศา และระบบปรับตำแหน่งของเบาะนั่ง ที่พักเท้า ชิลด์หน้า และแฮนด์บาร์ ให้เหมาะสมกับโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้ ในส่วนของขุมพลังนั้น Damon Hypersport ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีพละกำลังมากถึง 160 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 214 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 321 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 21.5 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟ 3 ชั่วโมงต่อครั้ง วิ่งได้ระยะทางไกลประมาณ 321 กิโลเมตร
- กำลังสูงสุด – 214 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด – 200 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด – 321 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 รอบ – 321 กิโลเมตร (โดยเฉลี่ย)
- ราคา
-
Hypersport HS ราคา 24,995 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 765,000 บาท)
-
Hypersport Premier ราคา 39,995 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,224,246 บาท)
-
4. Lightning LS-218
ภาพจาก lightningmotorcycle.com
มอเตอร์ไซค์สปอร์ตที่ทำความเร็วได้เป็นสถิติ และเป็นที่มาของชื่อรุ่น LS-218 ซึ่งตัวเลขนี้คือความเร็วที่ Lightning LS-218 ทำได้ 218 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านขุมพลังนั้นมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 10,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 227 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังแบบ Direct Drive Motor ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อยที่แบ่งตามขนาดแบตเตอรี่ ได้แก่ รุ่น 12, 16 และ 20 กิโลวัตต์
- กำลังสูงสุด – 204 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด – 227 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด – 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 รอบ – 289 กิโลเมตร (ข้อมูลโดยเฉลี่ยจากรุ่นแบตเตอรี่ 20 กิโลวัตต์)
- ราคา
-
รุ่น 12 กิโลวัตต์ ราคา 38,888 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,190,000 บาท)
-
รุ่น 16 กิโลวัตต์ ราคา 42,888 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,313,000 บาท)
-
รุ่น 20 กิโลวัตต์ ราคา 46,888 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,435,250 บาท)
-
5. Verge TS
ภาพจาก vergemotorcycles.com
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแรงทะลุปรอทที่มาพร้อมกับดีไซน์ล้อหลังสุดแปลกตา Verge TS มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับมอเตอร์ที่ให้กำลังไฟ 80 กิโลวัตต์ และทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถทำแรงบิดได้สูงสุดที่ 1,000 นิวตันเมตร ให้พละกำลังที่ 104 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ใน 4 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับการเดินทางได้ไกลถึง 300 กิโลเมตร ตัวรถใช้โครงอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาเสริมความแข็งแรง สามารถรองรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้มาได้สบาย
- กำลังสูงสุด – 104 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด – 1,000 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด – 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 รอบ – 300 กิโลเมตร (โดยเฉลี่ย)
- ราคา
-
Verge TS ราคา 29,745 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 914,000 บาท)
-
6. Arc Vector
ภาพจาก arcvehicle.com
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบตัวแรง รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่มีเพียง 355 คันทั่วโลกเท่านั้น ตัวรถเป็นคาร์บอนไฟเบอร์แต่ยังคงให้ความแข็งแรง แบตเตอรี่ถูกสร้างไว้ในตัวรถ เช่นเดียวกับสวิงอาร์มก็เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ monocoque ด้านขุมพลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 399 โวลต์ ให้กำลัง 102 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 85 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 ในเวลาเพียง 2.7 วินาที ระบบกันสะเทือนใช้ของ Ohlins ที่ปลายทั้งสองข้าง
- กำลังสูงสุด – 104 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด – 1,000 นิวตันเมตร
- ความเร็วสูงสุด – 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 รอบ – 436 กิโลเมตร (โดยเฉลี่ย)
- ราคา
-
Arc Vector ราคา 11,8000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,622,600 บาท)
-
ยานยนต์ในระบบพลังงานไฟฟ้านับว่าเป็นเทรนด์แห่งอนาคต ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ โดยในเวลาอันใกล้นี้เราคงได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ได้รับการพัฒนาสมรรถนะความสามารถทำความแรงได้ไม่แพ้รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมัน รวมถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในแบบต่าง ๆ ที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ออกมาจำหน่ายกันมากขึ้นด้วย ส่วนใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแต่ละแบรนด์ได้