ไอ้หื่นหวังข่มขืนสาวข้างทางโชคดีมีพลเมืองดีมาพบ ช่วยเหลือรอดหวุดหวิด

สยามรัฐออนไลน์ 2 พฤษภาคม 2565 09:25 น. ภูมิภาค

ช่วงดึกของคืนวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ร.ต.ท.ญ.อชิดา ไผ่โสภา พนักงานสอบสวน สภ. เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งว่าประชาชน ได้ล้อมจับคนร้ายพยายามข่มขืนหญิงสาว หลังจากรับแจ้งจึงได้เดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบเหตุดังกล่าว เบื้องต้นที่เกิดเหตุนั้นเป็นถนนภายในหมู่บ้านหนองกันเกรา หมู่ ที่ 16 ตำบลบ้านพระ อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านอดีตนายก อบต.บ้านพระเพียงเล็ก จากการตรวจบริเวณริมถนนใกล้สวนชาวบ้านพบจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เทน่า สีขาวแดง หมายเลขทะเบียนสระแก้ว ล้มตะแคงบริเวณข้างทาง ถัดไปอีกประมาณ 20 เมตร ยังพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า โซนิค สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียนปราจีนบุรี จอดอยู่บริเวณไหล่ทาง ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวชาวบ้านและพลเมืองดีช่วยกันจับไว้ได้ด้วยอาการสะบักสะบอม ทราบชื่อนาย วีระพันธ์ (สงวนนามสกุล)​ อายุ 37 ปี อยู่ในสภาพมึนเมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และจากนั้นภายในสวนใกล้ที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยของการต่อสู้ โดยพบขวดเบียร์เปล่า 1 ขวด (คาดว่าเป็นของคนร้ายที่ใช้ทำร้ายเหยื่อ) รองเท้าแตะสีแดง 1 คู่ เป็นรองเท้าผู้หญิง และกางเกงยีนส์ สีดำ 1 ตัว(ของผู้ก่อเหตุ ที่ถอดไว้) ส่วนหญิงสาวเหยื่อไอ้หื่น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่ง รพ .เจ้าพระยาอภัยภูเบศรไปก่อนหน้าแล้วเพื่อให้ทีมแพทย์ตรวจร่างกาย เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการถูกไอ้หื่นทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นมีอาการสาหัสปวดบวมบริเวณศีรษะ เขียวช้ำ รอบดวงตาทำให้ลืมตาไม่ขึ้น บริเวณริมฝีปากบนเป็นแผลลึก

เบื้องต้นจากการสอบถามนายรัตนชัย (สงวนนามสกุล)​ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์และได้ช่วยเหลือหญิงสาวไว้ได้ เล่าว่า ตนกำลังขับรถกลับจากงานประจำปีในเขตเมืองปราจีนบุรี พอผ่านมาที่เกิดเหตุสังเกตว่ามีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 2 คัน ตนเห็นว่าผิดสังเกตจึงได้มองบริเวณข้างทางปรากฏว่าพบเห็นมีเงาคนอยู่บริเวณข้างทางตนจึงจอดรถและถอยรถกลับมา ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงจอดรถ และ ผู้ก่อเหตุได้ตะโกนมาว่าเป็นเรื่องผัวเมียอย่ามายุ่ง แต่ทางผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงบอกกับตนว่าผู้ชายคนดังกล่าวพยายามข่มขืนตนตนเอง จึงเข้าช่วยเหลือหญิงคนดังกล่าว และได้ร้องเรียกพลเมืองดีที่กำลังขับรถผ่านไปมาให้ช่วยจับชายคนดังกล่าวไว้ เบื้องต้นสภาพที่ตนเห็นชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ เดินมาข้างทางในสภาพเปลือยท่อนล่าง มีสภาพมึนเมา และพลเมืองดีพยายามจับกุมใช้เชือกมัดไว้ข้างทาง ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเหตุดังกล่าว จากการสอบถามนายปัญญา บำรุงวัด อดีตนายก อบต.บ้านพระ ซึ่งบ้านพักอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกับภรรยาเดินทางกลับ จากงานศพในเขตพื้นที่ใกล้เคียงระหว่างมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงโวยวายร้องให้ช่วย ตนกับภรรยาจึงรีบวิ่งมายังที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้พบว่าพลเมืองดี พยายามจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ตนจึงได้รีบเข้าไปให้การช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทางด้านนายเฉลิม (สงวนนามสกุล)​ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแฟนกับผู้เสียหาย ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า แฟนตนทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งในเขตใกล้เคียงซึ่งเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่แฟนของตนได้เลิกงานและได้แวะซื้ออาหาร กำลังจะกลับบ้าน เป็นเส้นทางที่ใช้อยู่เป็นประจำ จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตนตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับแฟนตน

ในขณะที่สอบถามนายวีระพันธ์ (สงวนนามสกุล)​ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้ยอมรับ และกล่าวว่าตนได้ดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อน ในเขตบริเวณใกล้เคียง โดยระหว่างที่กำลังจะขับรถกลับบ้าน ได้สังเกตเห็นผู้เสียหายกำลังซื้ออาหารอยู่บริเวณป้อมตำรวจดงขี้เหล็ก โดยความมึนเมาของตน ประกอบกับภรรยาของตนได้ตั้งท้อง 5 เดือน จึงได้ขับรถติดตามผู้เสียหายพอมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ใช้ของแข็งตีผู้เสียหาย ทำให้รถเสียหลักลงข้างทางและพยายามลากผู้เสียหาย เข้าไปในป่าหวังข่มขืนกระทำชำเรา แต่มีพลเมืองดีเข้ามาเห็นเหตุการณ์และช่วยเหลือ ตนยอมรับว่าตนขาดสติประกอบกับภรรยาของตนตั้งท้อง 5 เดือนจนจึงก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนทางผู้เสียหายนั้นต้องรอการตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าถูกข่มขืนหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการข่มขืนจะได้มีการดำเนินคดีต่อไป