เปิดเทคนิคขับรถปลอดภัย เดินทางไกลไม่สะดุด ช่วงท่องเที่ยว “ปีใหม่ 2565” – TrueID News

เข้าสู่เทศกาลปีใหม่ 2565 หลายคนคงกำลังวางแผนการเดินทาง เพื่อเที่ยวรับหยุดยาว ในเทศกาลสำคัญอย่าง “วันปีใหม่” ซึ่งหลายคนเลือกเดินทางไกล เพราะนานๆทีจะได้ออกไปฉลองหลังภาครัฐคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว แต่การเดินทางไกล ไม่ว่าจะขับรถตอนกลางคืน หรือการขับรถขึ้นเขา ล้วนมีความเสี่ยงอันตราย เสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนทั้งนั้น

วันนี้ TrueID จึงรวบรวมเทคนิคดีๆสำหรับนักขับทุกคน ได้ขับรถเดินทางไกล อย่างปลอดภัย และไม่มีอุบัติเหตุ เพื่อให้การหยุดยาวช่วงปีใหม่ ได้เป็นวันพักผ่อนที่มีความสุขช่วงปีใหม่ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

ขั้นตอนเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางกลางคืน

  1. ศึกษาเส้นทาง และเช็กสภาพอากาศ เพื่อประเมินความเสี่ยง และคาดการณ์เหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้
  2. เช็กระบบไฟส่องสว่างทุกดวง ทั้งภายในและภายนอกรถ เพราะการขับรถกลางคืนที่รอบข้างไม่มีแสงไฟ แสงสว่างจากไฟรถสำคัญมาก
  3. หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้มีอาการง่วงซึม แม้ว่าตัวยาจะทำให้มีอาการง่วงนอนเพียงแค่เล็กน้อย แต่เมื่อรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมมืดๆ ในตอนกลางคืนนั้นจะทำให้เกิดอาการง่วงนอนมากขึ้น
  4. บันทึกเบอร์โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินลงโทรศัพท์ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินผู้ขับขี่สามารถโทรแจ้งได้ทันที

เทคนิคขับรถตอนกลางคืน

  1. ระมัดระวังทางแยกหรือทางเลี้ยวต่างๆ ควรชะลอความเร็ว เพราะอาจมีรถพุ่งออกมาโดยไม่สนใจสัญญาณไฟจราจร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนยามค่ำคืน ควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
  2. สังเกตเส้นทาง มองให้ดี ใช้ความเร็วให้เหมาะสม เพราะความสามารถในการมองเห็นระยะทางข้างหน้าจะลดน้อยลง หากเจอโค้ง ทางลาดชัน ให้ปฏิบัติตามป้ายเครื่องหมายจราจรเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่
  3. เปิดไฟหน้าไว้ตลอดเวลา และใช้ไฟสูงช่วยเมื่อยามจำเป็น เช่น เส้นทางที่มืดมากจนมองไม่เห็นทางด้านหน้า เป็นต้น
  4. ไหล่ทางพื้นที่อันตราย เพราะอาจมีรถจอดเสียโดยไม่เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน แนะนำให้ผู้ขับขี่เปิดไฟสูงสลับกับไฟต่ำ เพื่อสังเกตการณ์ด้านหน้า จะช่วยทำให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และหากเป็นรถเราเองที่เสียหรือยางแตก จอดรถให้ชิดไหล่ทางให้มากที่สุด เปิดไฟฉุกเฉินพร้อมวางเครื่องหมายป้ายเตือนฉุกเฉิน
  5. รักษาระยะห่างให้มากกว่าปกติ เพราะความสามารถในการกะระยะใกล้-ไกลลดลง เมื่อรถคันข้างหน้าเบรกหรือเลี้ยวกะทันหันอาจจะตั้งตัวไม่ทันจนเกิดการเฉี่ยวชนได้ ควรทิ้งระยะห่างกับรถคันข้างหน้าให้มากเข้าไว้ จะทำให้มีระยะหยุดรถมากขึ้น มีเวลาตัดสินใจแก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้อย่างปลอดภัย
  6. หลีกเลี่ยงถอยห่างรถที่มีพฤติกรรมแปลก เช่น ขับไม่ตรงเลน/กินเลนถนน ขับส่ายไป-มา หรือขับรถเร็วผิดปกติ เพราะอาจเป็นต้นเหตุให้เราประสบอุบัติเหตุหรือปัญหาได้ หากเห็นถ้าไม่ดีอาจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังมีส่วนช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย
  7. ระวังสัตว์ข้ามถนน เมื่อขับผ่านชุมชนในตอนกลางคืน อาจมีสุนัขหรือแมววิ่งตัดหน้ารถ หรือกระทั่งรถมอเตอร์ไซค์ของคนในชุมชนก็อาจโผล่ออกมาตัดหน้าได้ทุกเมื่อ ให้ลดความเร็วลงและมีสมาธิอยู่กับถนนและสภาวะแวดล้อมตอนกลางคืน

เทคนิคขับรถขึ้นลงเขา 

  1. ขึ้นเขา-ลงเขา ใช้เกียร์ต่ำ
    • เกียร์ธรรมดา: ใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 หากรู้สึกว่าความเร็วของรถเริ่มตกขณะที่ขับขึ้นทางชัน ให้ลดเกียร์ลงมา 1 ระดับ เพื่อสามารถเร่งเครื่องยนต์และผ่านทางชันนั้นไปได้ จึงเปลี่ยนเข้าเกียร์ตามความเร็วปกติ
    • เกียร์ออโต้: ใช้เกียร์ D1, D2 หรือ L ขณะขึ้นเขา-ลงเขา เมื่อพ้นทางชันควรสลับมาที่เกียร์ D ไม่ควรลากเกียร์ต่ำเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเครื่องดับกลางทางได้ 
  2. ขึ้นเขา แตะคันเร่งเบาๆ เร่งเครื่องให้สม่ำเสมอ เพื่อส่งกำลังให้รถขึ้นไปได้ ให้สังเกตรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2,000-3,500 รอบ ที่สำคัญอย่าลืม เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 30-50 เมตร เพื่อความปลอดภัย
  3. ลงเขา แตะเบรกเป็นระยะอย่าเหยียบเบรกค้างไว้ เพราะจะทำให้ผ้าเบรกไหม้ และควรรักษาระดับความเร็วระหว่างลงเขาให้อยู่ที่ 40-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  4. ห้ามใส่เกียร์ว่าง (เกียร์ N) เป็นอันขาด รถจะไหลลงเขาด้วยความเร็วสูง เพราะไม่มีแรงฉุดจากเครื่องยนต์ช่วยควบคุมความเร็วรถ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง
  5. มองให้ไกล ประเมินเส้นทาง อย่าแซงทางโค้ง สังเกตป้ายจราจรริมทาง และใช้ความเร็วรถให้เหมาะสมกับเส้นทาง
  6. ให้สัญญาณเมื่อเข้าสู่ทางโค้ง ทางเลี้ยว หรือจุดอับสายตา พยายามบีบแตรหรือใช้สัญญาณไฟอยู่เสมอ เพื่อเป็นการเตือนรถคันอื่นที่อาจสวนทางมา 

เบอร์โทรฉุกเฉินการเดินทาง

  • 1137 วิทยุ จส.100 [เบอร์โทรฉุกเฉินแจ้งเหตุด่วนบนท้องถนน และเหตุร้ายต่าง ๆ เพื่อประสานงานต่อ]
  • 1644 สวพ. FM91 [รายงานสภาพการจราจรและสามารถแจ้งเหตุด่วนบนท้องถนน]
  • 1146 กรมทางหลวงชนบท [ติดต่อเรื่องเกี่ยวกับท้องถนนโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด]
  • 1197 ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร ตำรวจ
  • 1199 กรมเจ้าท่า [เบอร์โทรฉุกเฉินติดต่อเรื่องทางเรือบนน่านน้ำไทย]
  • 1356 ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม [เป็นศูนย์ประสานภารกิจด้านความปลอดภัยในทุกระบบการขนส่ง]
  • 1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย [สอบถามเรื่องสายรถไฟ ตั๋ว และอื่น ๆ]
  • 1584 กรมการขนส่งทางบก
  • 1586 สายด่วนกรมทางหลวง
  • 1543 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
  • 1677 วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน [เครือข่ายอาสาสมัครในช่องทางวิทยุ]
  • 1490 บขส. 

เบอร์โทรฉุกเฉินแพทย์และพยาบาล

  • 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ทั่วไทย)
  • 1646 ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ (กทม.)
  • 1554 หน่วยแพทย์กู้ชีวิต วชิรพยาบาล
  • 1691 โรงพยาบาลตำรวจ
  • 1367 ศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี [เป็นแหล่งเก็บยาต้านพิษที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง]
  • 1667 สายด่วนกรมสุขภาพจิต [เป็นสายด่วยสำหรับปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต หรือเวลามีเรื่องกลุ้มใจ เรื่องเครียด ก็สามารโทรศัพท์ไปขอคำแนะนำได้]
  • 1196 อุบัติเหตุทางน้ำ 

ข้อมูลจาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รู้ก่อนเมา! เปิด “กฎหมายเมาแล้วขับ 2564” เมาแค่ไหน ถ้าขับ โดนปรับกี่บาท?

——————–

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ

คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.

คลิกเลย >>> TrueID Community <<<