ตำรวจเอาจริง จับ ปรับหนัก กระบะแต่งซิ่ง ติดไฟแสบตา อาจถึงขั้น “ริบรถ” – ไทยรัฐ

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีในสื่อสังคมออนไลน์ ปรากฏคลิปรถกระบะบรรทุกสิ่งของขับในทางเดินรถช่องขวาสุดบนถนนทางสาธารณะ ดัดแปลงติดตั้งไฟหรี่หน้ารถ

ไฟส่องป้ายทะเบียน และไฟใต้ท้องรถเป็นสีฟ้าและกะพริบในขณะขับขี่ ส่งผลรบกวนสายตาผู้ขับขี่รถคันอื่น ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จะได้ตรวจสอบและติดตามตัวผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษก ตร. ยังกล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้คำนึงถึงความปลอดภัย ของพี่น้องประชาชน ผู้ใช้รถ ใช้ถนน โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศหากพบการกระทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินคดีอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และได้จัดตั้ง “ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.)” ขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็น ผู้อำนวยการศูนย์

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษก ตร.
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษก ตร.

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการจับกุมดำเนินคดี ผู้ขับรถในลักษณะก่อความเดือดร้อน ประมาท ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของบุคคลอื่น โดยนำตัวผู้กระทำความผิดพร้อมรถของกลาง ส่งฟ้องต่อศาล ซึ่งศาลมีคำพิพากษาปรับและจำคุก อีกทั้งยังมีหลายคดีที่ศาลมีคำสั่ง “ริบรถของกลาง” ขอเตือนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถ ใช้ถนนร่วมกัน และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อาจมีโทษทั้งจําคุก ปรับ และอาจถึงขั้น “ริบรถ”

พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522

มาตรา 12 รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากปรากฏในภายหลังว่ารถนั้นมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถนั้นจนกว่าจะจัดให้มีครบถ้วนถูกต้องหรือเอาออกแล้ว

มาตรา 60 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 12 วรรค 1 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522

มาตรา 43 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ

(1) ในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ

(2) ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น

(3) ในลักษณะกีดขวางการจราจร

(4) โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือ ทรัพย์สิน

(5) ในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถตามธรรมดา หรือไม่อาจแลเห็นทางด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านได้พอแก่ความปลอดภัย

(6) คร่อมหรือทับเส้นหรือแนวแบ่งช่องเดินรถ เว้นแต่เมื่อเปลี่ยนช่อง เดินรถ เลี้ยวรถ หรือกลับรถ

(7) บนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร เว้นแต่รถลากเข็นสำหรับทารก คนป่วยหรือคนพิการ

(8) โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น

มาตรา 160 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 43 (8) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากท่านพบเห็นการกระทำความผิด ขอให้ท่านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือโทร.สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง