เจ้าของสวนกล้วยด่าง เร่งขุดกล้วยหนีหลังถูกขโมยสูญเงินไปเกือบ 2 ล้านบาท – ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา – หนุ่มเจ้าของสวนกล้วยด่าง เร่งขุดกล้วยด่างหนีโจรหลังถูกขโมยสูญเงินไปเกือบ 2 ล้านบาท โดยกล้องวงจรจับภาพคนร้ายได้ชัดเจน

ภาพกล้องวงจรปิด ภายในสวนกล้วยด่างแห่งหนึ่ง บันทึกภาพไว้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.43 น.จับภาพพฤติกรรมของคนร้ายเป็นชายแต่งกาย สวมใส่เสื้อแขนยาวลายสก๊อตสีฟ้า กางเกงวอร์ม ขาสั้นสีดำ สวมหมวกไอ้โม่งสีน้ำเงิน ในมือซ้ายถือมีด มือขวาถือถุงปุ๋ย เดินเข้ามาในสวนกล้วย โดยเดินผ่านกล้องวงจรปิด เข้าไปก่อเหตุ ซึ่งขณะก่อเหตุนั้นไม่สามารถบันทึกคนร้ายขณะก่อเหตุขโมยกล้วยด่างได้ พอก่อเหตุขโมยเสร็จ คนร้ายได้มานั่งล้างมือ อยู่ตรงกล้องวงจรปิดจับภาพได้พอดี

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 6 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสวนกล้วยด่าง ดังกล่าวตั้งอยู่ ที่บ้านเลขที่ 49/3 หมู่ที่ 1 ตำบลคลองพระยาบันลือ อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับ

วันนี้( 6 ก.ย.) นายชัชวาลย์ พิเศษภักดีกุล อายุ 43 ปี และ นางสาวพัชรี บังเอิญ อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของสวนกล้วยด่าง เล่าให้ฟังว่าตนเองได้ ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่เป็นคนชื่นชอบในการทำสวนและมีความสนใจในพันธุ์ไม้ แปลกหายาก มานานนับ 10 ปี และต้องการมีอาชีพเสริม จึงได้มาซื้อที่ดินไว้จำนวน 2 ไร่ อยู่ที่ภายในพื้นที่ อำเภอลาดบัวหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จากนั้นได้นำ กล้วยด่างสายพันธุ์ต่างๆมาปลูกไว้ที่สวนจำนวน 30 ต้น โดยมีทั้งแม่พันธุ์และหน่อกล้วยด่างชนิดต่างๆ เช่น แม่พันธุ์ ปาปัวนิวกินี แม่พันธุ์ตานีด่าง แม่พันธุ์ป่าลายหินอ่อนด่าง พันธุ์ฟอริด้า พันธุ์กล้วยป่าด่างสตูน กล้วยเล็บมือนางลายฟอริด้า และกล้อยน้ำว้าค่อมด่าง และสายพันธุ์อื่นๆโดยจะไปกลับกรุงเทพฯอาทิตย์ ละครั้ง 2 ครั้ง กระทั้งมาสังเกตพบว่าถูกคนร้ายเข้ามาขโมยขุดหน่อกล้วยด่างไป ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจึงได้นำกล้องวงจรปิดมาติดภายในสวน แต่ก็ยังถูกคนร้ายที่เข้ามาขโมยขุดกล้วยด่าง พร้อมทั้งขโมยกล้องวงจรปิดออกไปด้วย

หลังจากนั้นตนเองจึงได้นำกล้องวงจรปิดเข้ามาติดอีกรอบ โดยซ่อนกล้องวงจรปิดไว้ ก็พบว่าคนร้ายเข้าจากด้านหลังสวนซึ่งตนเองทำกำแพงไว้และมีลวดหนามล้อมรอบๆ แต่มีช่องใต้กำแพงเหมือนขุดมุดเข้ามา พอที่ตัวคนสามารถลอดเข้ามาได้ ตนเองจึงได้นำสังกะสีมาปิด ไว้แต่คนร้ายก็ยังสามารถเข้ามาในสวนได้แต่ไม่รู้เข้าทางไหน แต่ด้านหลังของสวนเป็นถนนชนบทคิดว่าคนร้ายน่าจะต้องเอารถยนต์มาจอด เพื่อขนต้นกล้วยขึ้นแล้วหลบหนีไป

โดยพบว่า คนร้ายเข้ามาขโมยกล้วยไปถึง7 ครั้ง ครั้งแรกที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุสามารถจับกุมตัวได้เพราะว่าคนก่อเหตุนั้นได้ลงโพสต์ขายในโซเชียล ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นต้นกล้วยด่างที่ปลูกไว้หลังจากนั้นก็มีคนร้ายเข้ามาขโมยซ้ำเป็นครั้งที่ 4 และได้มาจนถึงครั้งที่ 7 รวม 23 ต้น ตามภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถจับได้ จนเกือบหมดสวน ทั้งหน่อและแม่พันธุ์ จึงได้นำหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่ สถานีตำรวจภูธรลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไว้แล้ว

ด้าน นายชัชวาลย์ เล่าต่อว่า ต้นกล้วยที่ถูกคนร้ายขโมยไปเป็นสายพันธุ์ เทพพนมด่าง ราคาแพงที่สุดต้นละ 150,000 บาท ความสูญเสีย ทั้งหมดเป็นจำนวนเงินเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร กับคนร้ายที่มาขโมย ขุดกล้วยด่างไป จึงต้องขุดกล้วยด่างที่เหลือภายในสวนแข่งกับโจร เพื่อหนีเข้าไปไว้ที่บ้านในกรุงเทพมหานคร

จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวแจ้งความไว้เวลาผ่านมาแล้วร่วม 1 เดือน ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งตนเองดูจากภาพกล้องวงจรปิดก็เชื่อว่าน่าจะเป็นคนภายในพื้นที่อย่างแน่นอน เนื่องจากสวนกล้วยของตนเอง มีรั้วรอบขอบชิด และไม่เคยเปิดให้คนนอกเข้ามาภายในสวนต้องเป็นคนที่รู้ว่าตนเองปลูกกล้วยด่างอยู่ภายในสวนดังกล่าว