“TCEB”นำทีมรุกเร็วตลาดไมซ์ครึ่งปีหลัง 2565 ลูกค้าต่างชาติเฮนำ 3 ตลาดใหญ่ “EMI เอ็กซิบิชั่น+มีตติ้ง+อินเซ็นทีฟ” ระดับโลกจัดในไทยโกยรายได้เฉียด 1 หมื่นล้าน ออสเตรเลีย อินเดีย มาแรง หลังโควิด-19 นักเดินทางเปลี่ยนพฤติกรรมหันใช้ไมซ์เลนพร้อมโปรแกรมรักษ์โลก ส่วน “ไมซ์ในประเทศ”พร้อมแจกงบกระตุ้นราชการจัดสัมมนาทั่วไทย เริ่ม ก.ค.นี้ เตรียมเดินสายจัดไมซ์แฟร์ ก.ย.-ธ.ค.65
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2565 มาจนถึงขณะนี้มีผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibition) ขอรับสนับสนุนจากฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของทีเส็บแล้วถึง 34 งาน จะสร้างเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจประเทศโดยตรงไม่น้อยกว่า 9,880 ล้านบาท โดยมีไฮไลต์ที่ผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์จากการขายและการจับคู่เจรจาธุรกิจหลัก ๆ ประกอบด้วย
งานแรก Intermach& SubCon Thailand 2022 เป็นงานเกี่ยวกับสมาร์ทเทคโนโลยี อุปกรณ์ดิจิทัล เครื่องกลสมัยใหม่ จัดไปเรียบร้อยแล้วเมื่อพฤษภาคม 2565 มีผู้เข้าร่วมงานทั้งไทยและต่างชาติรวมกันกว่า 30,000 คน จาก 36 ประเทศ ประกอบด้วยบริษัทจัดแสดงสินค้า (exhibitors) กว่า 20 ประเทศ 500 ราย นำรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทางตรงกว่า 1,300 ล้านบาท ไม่นับรวมการเจรจาซื้อขายสินค้าต่อเนื่องในอนาคตที่จะยังสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยได้อีกเป็นจำนวนมาก
งานที่สอง PROPAX ASIA 2022 จะจัดระหว่าง 15-18 มิถุนายน 2565 ที่ไบเทคบางนา เป็นงานแสดงสินค้าทางเทคโนโลยีการผลิตระดับโลก เครื่องจักรผลิตเครื่องสำอาง บรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารแปรรูป และอื่น ๆ
ส่วนสถานการณ์ตั้งแต่มิถุนายน 2565 ทีเส็บประเมินตลาดเอ็กซิบิชั่นนานาชาติจะเติบโตในไทยเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนกับฮ่องกงยังไม่สามารถเปิดประเทศเต็มรูปแบบได้ จึงทำให้บริษัทรับจัดงานเอ็กซิบิชั่นนานาชาติหันเข้ามาปักหลักอยู่ในไทยกลายเป็นพลังดึงดูดบริษัทต่าง ๆ พากันนำงานเอ็กซิบิชั่นมาจัดในไทยได้เพิ่มขึ้นทั้งปัจจุบันและอนาคต ส่งสัญญาณดีต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของไทยจะฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว
นายจิรุตถ์กล่าวว่า ตามข้อมูลสรุปตลอดปี 2565 จะมีงานเอ็กซิบิชั่นเลือกเข้ามาจัดในไทยไม่ต่ำกว่า 14 งาน ส่วนใหญ่งานเกี่ยวกับ ไบโอหรือชีวภาพด้านต่าง ๆ งานแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล งานอุตสาหกรรมการบิน โลจิสติกส์ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยจะได้อุตสาหกรรมใหม่ ๆ โดยเฉพาะที่ทีเส็บสนับสนุนร่วมกับรัฐบาล 12 S Curve เข้ามาจัดในประเทศไทยมากขึ้นต่อไป
สามารถแบ่งงานเอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติ หรือ International Exhibtion ที่ทยอดเข้ามาจัดในไทยปี 2565 ได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก งานแสดงสินค้าใหม่ ๆ หรือ New Show กลุ่มที่ 1 งานแสดงสินค้าที่จัดต่อเนื่องหรือมีอยู่แล้วหรือ Existing Exhibition จำนวนงานรวมทั้งหมดกว่า 24 งาน ส่วนใหญ่จะเป็นงานทางด้านอาหาร ไบโอเทค และมีพลังงานอนาคต รถยนต์ไฟฟ้า ไทยยังคงเป็นศูนย์กลางจัดงานที่ได้ขยายพื้นที่และจำนวนคน
โดยงานแสดงสินค้านานาชาติช่วยนำรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของไทยปีนี้ได้เกือบ 10,000 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณงานละ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จากงานแสดงสินค้าใหม่ ๆ กว่า 6,000 ล้านบาท กับงานแสดงสินค้าต่อเนื่องที่มีอยู่แล้วอีกเกือบ 4,000 ล้านบาท
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า ปี 2565 มีตลาดต่างประเทศเกี่ยวกับจัดการประชุมและเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือMI :Meeting & Incentive กระตือรือร้นจัดงานกันอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมาก เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 มีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มีฐานหลักอยู่ในออสเตรเลียและเครือข่ายในนิวซีแลนด์รวมกว่า 500 สาขา นำลูกค้าอินเซนทีฟเดินทางมาไทยเรียบร้อยแล้ว 500 คน ใช้เงินในไทยทางตรงประมาณ 30 ล้านบาท ไม่นับรวมบางคนที่อยู่พักผ่อนโดยเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดอื่น ๆ สร้างรายได้เข้าพื้นที่ต่อเนื่องได้ด้วย
สำหรับอินเซนทีฟออสเตรเลียกลุ่มนี้ได้จัดกิจกรรม “Amazing Race” กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการไทยหลากหลายกลุ่ม เช่น เช่ารถตุ๊กตุ๊กกว่า 200 คน ให้นักเดินทางใช้ตุ๊กตุ๊กแข่งแรลลี่ค้นหาอาร์ซีตามเส้นทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ
เป็นตลาดอินเซนทีฟต้นแบบจากต่างประเทศ ที่เดินทางเข้าเมืองไทยหลังโควิด-19 ที่กระจายรายได้อย่างชัดเจนทำให้เกิด ทั้งการจ้างงาน สร้างอาชีพ ธุรกิจห้องพักโรงแรม และทำกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคม โดยให้การสนับสนุนเงินแก่มูลนิธิต่าง ๆ ตอกย้ำให้เห็นถึง 1.ออกแบบจัดงานฟังก์ชั่นกระจายเม็ดเงินได้ทั่วถึงผู้ประกอบการไทยหลายกลุ่ม 2.เลือกจัดกิจกรรมที่เป็นมิตรกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งขณะนี้มีอินเซนทีฟตลาดอินเดียเป็นบริษัทขนาดใหญ่หรือคอร์ปอเรตเข้ามาทุกเดือน ขนาดกรุ๊ปละประมาณ 200-300 คน ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจำหน่ายยาฟาร์มาซี บริษัทผลิตอาหาร ผลิตรถยนต์ ซึ่งอั้นมาหลายปี ตอนนี้พอไทยเปิดประเทศจึงรีบใช้เงินเดินทางมาทันที กระจายเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในกรุงเทพฯ และเมืองชายหาดภูเก็ต
นายจิรุตถ์ยืนยันว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 “พฤติกรรมของนักเดินทางไมซ์ตลาดต่างประเทศ”ได้เปลี่ยนความต้องการไปจากเดิมจะขอให้ทีเส็บงบประมาณสนับสนุนจัดงานเลี้ยงอาหารให้แต่ละกลุ่มที่นำงานมาจัดในไทย ต่างจากปี 2565 ส่วนใญ่หันมาให้ความสำคัญขอให้ดูแล 2 เรื่องหลัก คือ
เรื่องที่ 1 บริการ MICE LANE ความสะดวกการนำกรุ๊ปผ่านเข้าสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ สนามบินภูเก็ต อย่างคล่องตัวและปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ให้บริการดูแลข้อมูลผ่านการตรวจแต่ละจุดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งศุลกากร ตรวจสุขภาพ ได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าสูงมาก
เรื่องที่ 2 ขอให้โปรแกรมจัดกิจกรรมโดยเน้นเรื่องประสบการณ์ทำสิ่งที่มีคุณค่า เช่น ปลูกต้นไม้เพื่อจะได้นำไปเป็นส่วนลดคาร์บอนในแต่ละบริษัท หรือลดโลกร้อน ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ให้น้ำหนักเรื่องเหล่านี้มากเป็นอันดับต้น ๆ เป็นการปรับพฤติกรรมสู่ก้าวใหม่ รวมถึงต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ได้พบปะกับคนในชุมชนแล้วช่วยอุดหนุนซื้อสินค้าหรือทำกิจกรรมกับท้องถิ่น เช่น เก็บขยะกับชาวประมงในพื้นที่แถบชายทะเล จึงเป็นรูปแบบใหม่เน้นบริการสุขภาพ เช่น โปรแกรมตอนเช้าต้องมีโยคะด้วย เป็นความต้องการประสบการณ์กับคุณค่า นอกเหนือจากความมสุขเพียงอย่างเดียว
นายจิรุตถ์กล่าวว่า วางแผน “ทำตลาดไมซ์ในประเทศ” ควบคู่กันไปด้วย สองส่วนหลัก คือ ส่วนที่ 1 ช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม 2565 เร่งกระตุ้นกลุ่มตลาดราชการ จัดกลุ่มเดินทางไปประชุมสัมมนากระจายไปตามพื้นที่ทั่วประเทศ โดยทางทีเส็บจะทำแคมเปญรณรงค์สนับสนุนงบประมาณทำกิจกรรมช่วยเหลือท้องถิ่น ส่วนที่ 2 หลังกันยายน-ธันวาคม 2565 ทีเส็บจะทำแคมเปญสื่อสาร ด้วยการจัดงานแฟร์สนับสนุนให้เกิดการเดินทางประชุม สัมมนา ดูงาน ตามพื้นที่ต่าง ๆ
ขณะเดียวกันช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ทีเส็บเร่งผลักดันตลาดไมซ์ในประเทศฟื้นกลับมาโดยเร็วด้วยกลยุทธ์ 1.กระตุ้นสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางไมซ์มากขึ้น 2.ทำแพกเกจร่วมกับไมซ์ ซิตี้ 10 เมือง ทำให้เกิดกระจายตัวเดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะการจัดประชุมต่างจังหวัดอย่ามองเป็นเรื่องการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ทว่ายังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย ได้แก่ ช่วยหากลยุทธ์ให้องค์กรเดินต่อไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง จากการที่แต่ละองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันคิดและจัดทำประชุมสัมมนาเลือกเพียงหัวข้อเดียวแล้วออกเดินทาง ก็สามารถช่วยฟื้นเศรษฐกิจประเทศด้วยการจัดไมซ์นั่นเอง
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen