MINI Electric Pacesetter เซฟตี้คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรก โชว์ตัวที่งาน Motor Expo 2021 – รถเปิดตัวใหม่ – Autospinn.com

The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW เปิดตัวในประเทศไทย พร้อมให้ยลโฉมยนตรกรรมที่ผสานโลกอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเข้ากับตำนานในสนามแข่งของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ครั้งแรกในไทย ที่งาน Motor Expo 2021 


The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW

การออกแบบ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW นั้นเกิดจากการร่วมมือกันครั้งแรกของทีมออกแบบของมินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต ที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ขับขี่สนุกตามสไตล์มินิที่มาพร้อมความคล่องตัวแบบรถยนต์ไฟฟ้า นับเป็นอีกก้าวของมินิที่สร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ผสมผสานความแรงในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ไว้กับรถไฟฟ้าได้อย่างลงตัว

ภายนอกของ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ออกแบบมาเพื่อใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะแสดงออกถึงความคล่องตัวในสไตล์มินิที่มาในรูปแบบของขุมพลังรถยนต์ไฟฟ้า นายโอลิเวอร์ เฮล์มเมอร์ หัวหน้าฝ่ายออกแบบของมินิ กล่าวว่า “รูปลักษณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจของมินิรุ่นนี้เป็นการพบกันของเทคนิคการออกแบบที่แม่นยำและความสวยงามทางอารมณ์ กล่าวคือ จุดประสงค์การใช้งานจะกำหนดรูปทรงของรถ ส่วนองค์ประกอบของการออกแบบจะปรับตามดีไซน์ทางเทคนิค โดยทีมเราทำงานอย่างใกล้ชิดกับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต เพื่อพัฒนารูปทรงของซุ้มล้อ สเกิร์ตด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการลดน้ำหนักวัสดุให้น้อยที่สุด การถ่ายทอดผ่านรูปลักษณ์ที่ดึงดูดสายตามาพร้อมกับการออกแบบทางเทคนิคที่แม่นยำจึงทำให้รถยนต์รุ่นนี้น่าตื่นเต้นเร้าใจมากยิ่งขึ้น”

The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ได้รับการปรับแต่ง ให้พร้อมรับสถานการณ์ท้าทายในสนามแข่ง ตัวรถเป็นสีเงินด้านตัดด้วยสี Highspeed Orange และตกแต่งด้านท้ายเป็นสี Curbside Red ซึ่งเป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของ MINI Electric และ MINI John Cooper Works อย่างชัดเจน

การออกแบบตัวรถเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการเพื่อลดน้ำหนักด้วยวัสดุน้ำหนักเบา ทำให้ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นมาตรฐาน 130 กิโลกรัม เพื่อให้สามารถปลดปล่อยพลังทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.7 วินาที พร้อมโลดแล่นและรับทุกความท้าทายในสนามแข่ง

ทั้งหมดนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงจุดยืนและวิสัยทัศน์ที่เป็นจริงของมินิ และถูกถ่ายทอดออกมาผ่าน The new all-electric MINI มินิ พลังไฟฟ้า 100% ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและตัวถังรถเดียวกันกับ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW จึงสามารถปลดปล่อยศักยภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ ไม่แพ้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน ที่สำคัญยังคงเอกลักษณ์ Go-Kart Feeling ตามแบบฉบับของมินิ

ด้านหน้าของรถ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ยังคงไว้ในแบบฉบับมินิสุดคลาสสิค ทั้งไฟหน้าทรงกลม และกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมที่คุ้นตา ในขณะเดียวกันก็ผสานองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เช่น ซุ้มล้อใหม่ที่ได้รับการปรับให้พอดีกับความกว้างของล้อ เสริมด้วยสเกิร์ตด้านหน้า และติดตั้งสปลิตเตอร์เพิ่มเติมด้านซ้ายและขวา เพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น กระจังหน้าปิดทึบ ส่วนโลโก้ MINI Electric ก็แสดงออกถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นหัวใจของรถเซฟตี้คาร์รุ่นนี้นั่นเอง

เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการระบายความร้อนผ่านบริเวณด้านบนของกระจังหน้า ส่วนหน้าของรถยนต์จึงได้รับการออกแบบให้ปิดทึบไว้เป็นส่วนใหญ่เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกส์ ยกเว้นบริเวณด้านล่างกระจังหน้าและชุดกันชนหน้าสุดโดดเด่นที่เพิ่มดีไซน์ให้คล้ายช่องดักอากาศเพื่อระบายความร้อนให้ชุดเบรก ส่วนไฟ

สีขาวกะพริบของรถนั้นถูกรวมเข้ากับฝากระโปรงหน้าไว้ได้อย่างกลมกลืน พร้อมถ่ายทอดดีเอ็นเอของมินิผ่านลวดลาย Bonnet Stripes ตั้งแต่หลังคาจนถึงท้ายรถ

ด้านข้างของ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW มีชุดแอโรไดนามิกส์ที่ดุดัน การสอดประสานกันของลวดลายเรขาคณิตด้านข้างรถอันโดดเด่น และสเกิร์ตด้านข้างทรงสปอร์ต เสริมให้เกิดภาพลักษณ์ของการพุ่งทะยานไปไปข้างหน้า ประกอบกับล้อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เพิ่มขึ้น เกือบจะเต็มซุ้มล้อ องค์ประกอบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นภาพประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรในสนามแข่งของมินิ โดยลวดลายด้านข้างรถและสปอยเลอร์นั้นผลิตขึ้นจากโรงงานในเมืองออกซ์ฟอร์ดด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ จากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่รีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ ลวดลายสีเหลืองที่เด่นชัดและพื้นผิวของชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ เช่น ลวดลายด้านข้างรถ สเกิร์ต และสปอยเลอร์หลัง ได้รับการออกแบบมาให้รีดลม รับกับการเป็นช่องทางผ่านของอากาศ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสวยงามให้กับแผ่นเบนอากาศและขอบแอโรไดนามิกส์ เพิ่มความเร้าใจด้วยล้อฟอร์จขนาด 18 นิ้วแบบ 4 ก้าน ในโทนสีดำสลับสีส้มนีออนสะดุดตา

ด้านท้ายรถเป็นสีดำและสีแดง Curbside Red metallic ตัดด้วยลายเส้นสีเหลืองที่ลากสายตาจากหน้ารถมาข้างรถ เสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและคล่องตัวในสนาม สปอยเลอร์บนหลังคาด้านหลัง โดดเด่นลู่ลม ส่วนลายเส้นสีเหลืองนั้นถูกรวมเข้ากับชุดไฟสัญญาณ และผลิตขึ้นจากโรงงานในเมืองออกซ์ฟอร์ดด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ ซุ้มล้อแบบกว้างเปิดเน้นให้เห็นถึงความกว้างของรถและเข้ากันได้ดีกับสเกิร์ตด้านหลังที่มีร่องตัดบริเวณซุ้มล้อหลัง ช่วยให้มองเห็นยางรถแข่งสุดดุดัน และระหว่างล้อมีดิฟฟิวเซอร์ โดยเมื่อมองรถจากท้ายรถ จะมองเห็นลวดลายสีเหลืองที่เด่นชัด และปราศจากท่อไอเสีย เพราะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยระบบไฟฟ้านั่นเอง

ภายในของตัวรถนั้นติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นของรถเซฟตี้คาร์ เหลือแต่เบาะคู่หน้า โดยเบาะฝั่งคนขับมาพร้อมเข็มขัดนิรภัย 6 จุดที่ได้รับการรับรองสำหรับทั้งการแข่งรถและการใช้งานบนท้องถนน ส่วนพวงมาลัยเรียบง่าย ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ดูดซับแรงกระแทกได้ และจอแสดงผลดิจิทัล ส่วนคอนโซลกลางคงเหลือแต่ด้ามเกียร์ เบรกมือ และ สวิตช์ควบคุมไฟ สัญญาณเท่าที่จำเป็น โดยทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด ส่วนมือเปิดประตูใช้สายผ้าดึง และโรลเคจนิรภัยแบบเต็มลำ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด 

ตัวซับแรงกระแทกของพวงมาลัย และแผงควบคุมด้านขวามือ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง และทำมาเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับคอนโซลกลางและแผงประตูด้านคนขับ ที่ขาดไม่ได้คือแผ่นรองเบาะแบบถอดได้บนเบาะทรงสปอร์ต ซึ่งผลิตจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติเช่นกัน นับเป็นนวัตกรรมสุดล้ำที่ผสมผสานความสบาย ความแข็งแกร่ง และความยืดหยุ่นในการใช้งานเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งความหนา ความแข็ง และสีของแผ่นรองเบาะสามารถปรับได้ตามความชอบของผู้ขับขี่

เบื้องหลังรูปลักษณ์อันทรงพลังของ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW นั้นผ่านการคิดและใช้ความความเชี่ยวชาญของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งการยึดมั่นในหลักการออกแบบที่ต้องรีดน้ำหนักรถเซฟตี้คาร์ให้เบาที่สุดนั้นสามารถลดน้ำหนักลงได้เหลือน้ำหนักโดยรวมประมาณ 1,230 กิโลกรัม ส่วนระบบขับเคลื่อนนั้นเป็นมาตรฐานเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้ามินิ มอบพละกำลังที่ 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร ซึ่งสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 6.7 วินาที (รุ่นมาตรฐานอยู่ที่ 7.3 วินาที) และทำอัตราเร่ง 0-60 กม./ชม.ใน 3.6 วินาที (รุ่นมาตรฐานอยู่ที่ 3.9 วินาที) ซึ่ง The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW แสดงให้เห็นถึงความสามารถของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูงพร้อมเกียร์แบบ Single-Speed ที่ทำให้ทำความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที (รุ่นมาตรฐานอยู่ที่ 4.6 วินาที)

ระบบขับเคลื่อนของ The MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งได้ 3 รูปแบบทั้งค่ารีบาวด์, ความสูง และ มุมแคมเบอร์ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงประสบการณ์ Go-Kart Feeling สูงสุด แผงควบคุมระบบช่วงล่าง ฐานล้อที่กว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร เบรกสี่สูบ และล้อจากมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ GP พร้อมยาง Michelin Pilot Sport ขนาด 245/40 R18

MINI COOPER SE ที่วางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยนั้นใช้พลังงานการขับเคลื่อนจากชุดแบตเตอรี่มอเตอร์ไฟฟ้าชุดเดียวกันกับ MINI Electric Pacesetter inspired by MINI JCW ต่างกันแค่น้ำหนักตัวรถที่มากกว่า เนื่องจากรุ่นที่นำมาจำหน่ายในไทยนั้นเน้นอุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ขับขี่ และใช้งานในชีวิตประจำวันบนท้องถนนแบบครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว ที่สำคัญยังคงเอกลักษณ์ Go-Kart Feeling ตามแบบฉบับของมินิได้อย่างเต็มเปี่ยม

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn

แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  

เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 

ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car