GPI เร่งปั๊มรายได้ธุรกิจใหม่ให้บริการรับตกแต่งรถ



บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI เดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ให้บริการรับตกแต่งรถ เร่งสร้างรายได้ต่อเนื่อง วางเป้าหมายปีนี้ยอดขายจากการตกแต่งรถแข่งไม่ต่ำกว่า 20 คัน พร้อมขยายธุรกิจไปสู่การนำรถคลาสสิกรุ่นยอดนิยมมาปรับแต่งระบบเป็นรถ EV Car ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อต่อยอดการเติบโตไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพสูง



นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงที่น่าประทับใจตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ ให้บริการรับตกแต่งรถยนต์สำหรับการแข่งขัน โดยวางเป้าหมายปี 2565 จะมียอดขายรถปรับแต่งประมาณ 20 คัน คิดเป็นรายได้กว่า 10 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากรถรุ่น HONDA CITY HATCHBACK ที่นำมาปรับแต่งใหม่ทั้งคันเพื่อใช้สำหรับการแข่งขัน และอีกส่วนจะเป็นรถแข่งรุ่นใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนารถต้นแบบ คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้ สำหรับเป็นรถที่ใช้ในการแข่งขันรายการใหม่ในปีหน้า

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสต่อยอดไปสู่ธุรกิจตกแต่งรถประเภทอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าสู่ตลาดรถคลาสสิก โดยจะนำรถคลาสสิกที่ได้รับความนิยมและมีกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบเป็นวงกว้าง เช่น Mercedes Benz มาปรับแต่งระบบให้เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Car) ซึ่งจะเป็นการพัฒนาปรับแต่งรถยนต์ทั้งคัน เช่น ระบบขับเคลื่อน การตกแต่งภายใน การดีไซน์ รวมถึงเพิ่มเติมฟังก์ชันต่างๆ ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรอยู่ในระดับที่ดีและจะเพิ่มความสามารถทำกำไรโดยรวมของบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ อาจพิจารณาจับมือกับพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อร่วมลงทุนนำรถคลาสสิกมาปรับแต่งเป็น EV Car โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนารถต้นแบบ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในปีนี้ และจะเริ่มทำการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศภายในปีหน้า

“GPI ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์หลัก Growth from the core เน้นต่อยอดความเชี่ยวชาญจากธุรกิจหลักด้านการจัดเอ็กซิบิชันยานยนต์และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้แก่ค่ายผู้ผลิตรถต่างๆ ไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายที่จะเจาะตลาดรถคลาสสิกและรถไฟฟ้า เพราะมองว่าเป็นกลุ่มที่น่าจะขยายตัวได้อีกมากในอนาคต รวมถึงในอนาคตมีแผนที่ขยายไปสู่ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสำหรับตกแต่งรถ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจรอบด้าน” นายพีระพงศ์ กล่าว