Formula E ได้ออกมาเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการแข่งขันที่ดีกว่าเดิม
ฟอร์มูลา อี (Formula E) รายการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า รถยนต์ Gen 3 จะมีการแข่งขันในช่วงปี 2023 โดยรถยนต์ Gen 3 จะมีการยกระดับในเรื่องของประสิทธิภาพในการขับขี่มากกว่ารถยนต์ Gen 2 คาดว่าจะเริ่มมีการใช้ในการแข่งขัน ePrix ประเทศโมนาโก
รถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่นี้จะมีการใช้กำลังไฟมากถึง 40% และใช้ความเร็วสูงสุดมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น 2 ที่มีการใช้กันอยู่มากถึง 15% ด้วยความเร็วที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดน้ำหนักเบาและใช้เทคโนโลยี Regenerative braking ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับขี่ไปได้ไกลมากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้า Gen 3 มีประสิทธิภาพในการชาร์จแบตเตอรี่ในระดับที่รวดเร็วมากถึง 600 กิโลวัตต์ ซึ่งเร็วกว่าระบบการชาร์จแบตเตอรี่ที่มีการใช้อยู่ในทุกวันนี้ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในการแข่งขันใช้เวลาในการหยุดชาร์จแบตเตอรี่น้อยลง
อย่างไรก็ตามเวลานี้ทางรายการยังไม่ได้มีการกำหนดจุดชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างการแข่งขันแต่อย่างใด นอกจากนั้นแล้วทางรายการได้มีการปรับเปลี่ยนส่วนประกอบของรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในการแข่งขันใหม่ด้วย
ในช่วงที่ผ่านมารายการฟอร์มูลา อี (Formula E) ได้มีการเปลี่ยนจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น 1 มาเป็นรถที่ 2 เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการแข่งขันมากขึ้น โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น 2 มีระดับความเร็วที่เหนือกว่ารุ่นแรกที่เห็นได้จากการบันทึกสถิติการวิ่งใน 1 รอบ เช่นกันรถยนต์ไฟฟ้า Gen 2 มีการใช้พลังงานมาก ทำให้รถยนต์สามารถวิ่งเข้าเส้นชัยตามระยะทางที่กำหนดเอาไว้ได้ ก่อนหน้านี้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น 1 มีปัญหาในเรื่องการสับเปลี่ยนรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น 3 ทางฟอร์มูลา อี (Formula E) ได้ให้คำมั่นว่า จะช่วยยกระดับการแข่งขันให้มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้น และจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันใหม่
ข้อมูลจาก : electrek.co
ภาพจาก : engadget.com