แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ แอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซี-เอเชียฉลองนโยบายเปิดเมือง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยจัดกิจกรรมพิเศษ
โดยนำกลุ่มลูกค้าซูเปอร์คาร์ กว่า 15 คันพร้อมแขกวีไอพีนำโดย ท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ ที่อินเตอร์คอนติเนนทัล หัวหิน รีสอร์ท พร้อมชมภาพยนตร์ ‘เจมส์ บอนด์007’ ภาคล่าสุด ‘No Time to Die’ ณ โรงภาพยนตร์ บลูพอร์ต ซีนีเพล็กซ์ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหินรีสอร์ทมอลล์
ฉัตรชัย แก้วผ่องศรี, ผู้จัดการทั่วไป แอสตัน มาร์ติน แบงคอก เผยว่า “เรามีความยินดีและภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่ได้รับเกียรติในการดูแลลูกค้าวีไอพี รวมถึงกลุ่มลูกค้าซูเปอร์คาร์ มาร่วมทริปพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ต้อนรับนโยบายเปิดเมืองท่องเที่ยวจากทางภาครัฐ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมกัน”
Aston Martin 4 รุ่น 4 คัน ลุ้นระทึกสุดมันส์ไปกับ ‘เจมส์ บอนด์007’
นับเป็นโอกาสดี ที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ‘เจมส์ บอนด์007’ ภาคล่าสุด ‘No Time to Die’ได้ฤกษ์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ โดยยังคงใช้รถ แอสตัน มาร์ตินเป็นพาหนะคู่กาย‘เจมส์ บอนด์’ สายลับเจ้าเสน่ห์แห่งอังกฤษ ทาง แอสตัน มาร์ติน แบงคอก จึงไม่พลาดโอกาสในการนำลูกค้าและแขกวีไอพีมาร่วมชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไปด้วยกันซึ่งในภาคนี้ ก็มีรถยนต์ แอสตัน มาร์ติน ร่วมแสดงถึง 4 รุ่น
• DBS
เปิดฉากอย่างอลังการด้วย แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอส ที่ขับโดยสายลับรหัส 00 คนใหม่ แสดงโดยสาวผิวสี ซึ่งยนตรกรรมคันนี้นับเป็นรุ่นสูงสุดในสายการผลิตของ แอสตัน มาร์ติน มาพร้อมรูปลักษณ์แบบผู้ดี แต่พร้อมขยี้คู่ต่อสู้ด้วยพละกำลังสูงถึง 715 แรงม้า (bhp)
• DB5
คงไม่มีใครปฎิเสธ ว่ารถรุ่นนี้มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับเจมส์ บอนด์007
เพราะเป็นพาหนะคู่ใจมาตั้งแต่ภาคแรก ‘Gold Finger’ เมื่อ 57 ปีที่แล้ว และได้รับความนิยมสูงจนได้กลับมาร่วมแสดงในอีก 6 ภาค คือ Thunderball, Golden Eyes, Tomorrow Never Dies, Casino Royale, Skyfall และ Spectreขับโดย ฌอห์น คอนเนอรี, เพียร์ส บรอสแนน และแดเนียล เคร็ก โดยรถนั้นมีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง DB4 แต่มีทีเด็ดใต้ฝากระโปรง เพราะเครื่องยนต์ถูกขยายความจุเป็น 4.0 ลิตร และส่งกำลังผ่านเกียร์ซินโครเมช 5 จังหวะ ของ ZF
• VALHALLA
ไฮบริดซูเปอร์คาร์ สายพันธุ์ใหม่ ใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่งฟอร์มูลาวัน โครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ ออกแบบโดยเน้นประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์
จับคู่ขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด วางกลางลำ ผสมผสานเครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ
ทวิน-เทอร์โบ 4.0 ลิตร 750 แรงม้า เข้ากับระบบแบตเตอรี่ไฮบริด มีกำลังรวมสูงถึง 950 แรงม้า (ps) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที ท็อปสปีด 350 กม./ชม.
• V8 SALOON
การกลับมาอีกครั้งของยนตรกรรมคลาสสิก หลังเคยโลดแล่นอยู่ในตอน ‘The Living Daylights’ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ 432 แรงม้า (bhp) นับเป็นรถยนต์ 4 ที่นั่ง ที่เร็วที่สุดในยุคนั้น และถูกยกย่องให้เป็นซูเปอร์คาร์พันธุ์แท้คันแรกของอังกฤษ