Motor Sport Sponsored

ไขปริศนา ทำไมเกมแนวแข่งรถแบบผิดกฎหมายจึงเริ่มหาเล่นยาก – GamingDose – ข่าวเกม รีวิวเกม บทความเกมจากเกมเมอร์ตัวจริง

Motor Sport Sponsored
Motor Sport Sponsored

ถ้าหากเกมเมอร์เป็นคนที่ติดตามวงการเกมแข่งรถมานานเกินทศวรรษ ผู้เล่นจะมีความรู้สึกเหมือนกันว่าเกมแนวแข่งรถแบบผิดกฎหมายในสมัยนี้ เริ่มหาเล่นยากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เกมแนวแข่งรถแบบผิดกฎหมายที่มีให้เล่นในปัจจุบัน จะมีเพียงแฟรนไชส์ Need for Speed และเกมตู้ Wangan Midnight Maximum Tunes ที่ยังคงผลิตเกมแนวดังกล่าว ในขณะแฟรนไชส์เกมอื่นอย่าง Juiced, Midnight Club, Tokyo Xtreme Racer, Street Racing Syndicate หรือซีรีส์เกมแข่งรถอื่น ๆ เริ่มไม่มีการผลิตเกมภาคใหม่ หรือไม่ก็หันไปผลิตเป็นเกมแข่งรถแนว Simcade ที่กำลังได้รับความนิยม ณ ตอนนี้

แล้วเพราะอะไร ทำไมเกมแนวแข่งรถแบบผิดกฎหมายที่เคยบูมจึงเริ่มหาเล่นยากขึ้นในทุกวันนี้ บทความนี้อาจทำให้คุณเข้าใจสาเหตุมากยิ่งขึ้น

‘Car Culture’ ไม่ได้รับนิยมอีกต่อไป

สาเหตุหลักที่เกมแนว Street Racing เริ่มมีเห็นเกลื่อนบนตลาดในช่วงต้นปี 200o ก็เพราะอิทธิพลจากหนังเรื่อง The Fast & The Furious ภาพยนตร์แนวแอ็กชัน-อาชญากรรม ที่นำเสนอการแข่งรถแบบผิดกฎหมาย และวัฒนธรรมการตกแต่งรถญี่ปุ่นกับรถอเมริกันที่เปิดโลกมุมมองใหม่ให้ผู้ชมหลายคน รวมถึงก่อให้เกิดแรงบันดาลใจต่อทีมงาน EA Black Box ได้สร้างเกม Need for Speed: Underground ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น จนทำให้ Street Racing มีให้เล่นเยอะอย่างมากในช่วงต้นปี 2000

รวมถึงช่วงเวลานั้น ก็มีรายการวาไรตี้ชื่อดังอย่าง “Pimp My Ride” ฉายผ่านช่องโทรทัศน์ MTV เคยออกฉายผ่านเคเบิลทีวีทั่วโลก โดยรายการโชว์ดังกล่าวจะเป็นการนำรถยนต์คันเก่า นำไปดัดแปลงและตกแต่งใหม่จนกลายเป็นรถแต่งแบบ Lowrider หรือรถแข่ง Street Racer ก็ยิ่งเป็นการสร้างกระแส Car Culture ให้เป็นที่โด่งดังมากยิ่งขึ้น

The Fast & The Furious

อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ The Fast & The Furious ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวขับเคลื่อนวัฒนธรรม Car Culture ตอนนี้กลายเป็นแฟรนไชส์หนังแอ็กชันอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงรายการ Pimp My Ride ก็ได้ยุติการผลิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2007 ก็ส่งผลทำให้ Car Culture เริ่มเสื่อมความนิยมตาม ซึ่งก็จริงที่หนัง F&F เกือบทุกภาคยังคงเน้นนำเสนอฉากไล่ล่า ฉาก Stunt ผาดโผนโอเวอร์เร้าใจแบบ Non-Stop แต่สิ่งที่ขาดหายไปในหนัง F&F ภาคหลัง ๆ ก็คือการแข่งขันแบบผิดกฎหมาย และโชว์รถแต่งสุดเจ๋งมีสีสันฉูดฉาดจนเตะตา

นอกจากนี้ รสนิยมการแต่งรถก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลาเช่นกัน ปัจจุบันคือยุคแห่งรถไฮบริดขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้า รถสปอร์ตมีรูปร่างเท่ติดหรูหรา รวมถึงรถซูเปอร์/ไฮเปอร์คาร์ที่ไม่จำเป็นต้องตกแต่งลวดลาย หรือเปลี่ยนพาร์ทใหม่ก็ดูสวยงามได้ โดยการตกแต่งรถยนตร์แบบเปลี่ยนพาร์ท และลวดลายเยอะเท่าที่เห็นบ่อยก็มีเพียงเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศแทบเอเชีย ซึ่งยังคงเห็นรถแต่ง JDM สไตล์ต่าง ๆ ตามท้องถนน หรืองานมีตติ้ง

อุตสาหกรรมรถยนต์ การสร้างเกม และเศรษฐกิจเปลี่ยนไป

เหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น อุตสาหกรรมรถยนต์ในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทผลิตรถหลายแห่งได้เริ่มตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อน เนื่องมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ จึงเป็นเหตุทำให้รถยนต์ประเภทไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือผลิตรถยนต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้รถยนต์ญี่ปุ่นยุค ’90 ราคาถูก กลายเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้รับความนิยมเหมือนอดีต อะไหล่รถยนต์เริ่มหายากยิ่งขึ้นตามกาลเวลา และรถสปอร์ตมีราคาแพงขึ้น

นอกจากนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแปรปรวนไม่มีความแน่นอน ผู้บริโภคหลายคนจึงเริ่มมีแนวคิดต้องการรถยนต์สำหรับการขับขี่เพียงเดียว โดยไม่ต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติมหรือเก็บไว้เป็นคอลเล็กชัน เพื่อรักษางบประมาณทางการเงิน ก็ยิ่งส่งเสริมทำให้เทรนด์วัฒนธรรมการแต่งรถได้รับความนิยมลดลง

และที่สำคัญที่สุด การพัฒนาเกมเองก็ใช้ต้นทุนการสร้างมากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลทำให้เกมแข่งรถในปัจจุบัน มีพาร์ตกแต่งรถยนต์ไม่หลากหลายเท่ากับเกมในอดีตหรือไม่สามารถผลิตคอนเทนต์ได้ เนื่องจากติดปัญหาลิขสิทธิ์ หรือแบรนด์รถยนต์บางบริษัท ไม่สนับสนุนการแข่งรถแบบผิดกฎหมาย และไม่อนุญาตให้นำรถของพวกเขาไปลงในเกม ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา เช่น ภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือคุณภาพรถยนต์

แม้จะมีอีกทางเลือกหนึ่ง คือใช้วิธีการออกแบบรถยนต์ให้ใกล้เคียงกับชีวิตจริง แล้วทำการเปลี่ยนชื่อแบรนด์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเก็บค่าลิขสิทธิ์ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นก็ไม่รู้สึกอินเท่ากับการที่เราได้ตกแต่งรถยนต์ที่วิ่งบนท้องถนนในโลกความเป็นจริงอยู่ดี ซึ่งก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การสร้างเกมแนวแข่งรถแบบ Street Racing จึงผลิตได้ยากกว่าเกมแข่งรถแบบสมจริง

Racing Game กลายเป็นเกมเฉพาะกลุ่ม

ย้อนกลับไปช่วงปี 1980 ถึง 1990 หรือยุคสมัยเกมตู้อาร์เคดยังคงรุ่งเรือง และเครื่องเกมคอนโซลเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ตอนนั้นเกมแนวต่อสู้, Platformer กับเกมแข่งรถ ยังคงเป็นประเภทเกมที่ได้รับความยอดนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่

แต่หลังจากการเปิดตัวของเกมแนว First-Person Shooter เช่น Half-Life, DOOM กับเกมแอ็กชัน-ผจญภัย เปิดโลกกว้างอย่าง Grand Theft Auto ที่รับความนิยมอย่างล้นหลามบน PC ก็ทำให้เกมประเภทแข่งรถเริ่มเสื่อมความนิยมลดลงตามกาลเวลา

นอกจากนี้ เกม Multiplayer และ Competitive เริ่มเข้ามาอิทธิพลต่อวงการเกม ก็ยิ่งทำให้เกมแนว FPS และเกมแอ็กชันได้รับความนิยมแบบพลุแตก จนทำให้เกมแข่งรถกลายเป็นเกมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งแม้เกมแข่งรถยังคงมีให้เล่นจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยความนิยมที่ลดลง ก็ส่งผลทำให้เกมแนวดังกล่าวถูกผลิตน้อยตามมาเช่นกัน

แล้วเกมแนวแข่งรถแบบผิดกฎหมายจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหรือไม่

ถือว่าเป็นการคำถามที่ตอบได้ยากมาก ๆ เพราะแม้เกมแนวแข่งรถแบบผิดกฎหมายจะยังคงเป็นที่ต้องการสำหรับเหล่าเกมเมอร์หลายคน แต่ผลตอบแทนจากการผลิตเกมแนวแข่งรถดังกล่าวนั้น จะมีผลตอบรับที่คุ้มค่าหรือไม่ เพราะการผลิตเกมแข่งรถในสมัยนี้นับว่ามีความเสี่ยง เนื่องจากต้องใช้งบประมาณสร้างเกมสูงด้วยการซื้อลิขสิทธิ์จากบริษัทหลายแห่ง รวมถึงเกมแข่งรถกลายเป็นตลาด Niche ที่เล่นกันเฉพาะบางกลุ่ม

แต่โชคดีที่ซีรีส์เกม Need For Speed ยังคงเน้นการนำเสนอธีมการแข่งขันรถยนต์แบบใต้ดิน และระบบการตกแต่งรถยนต์แบบจัดเต็ม ซึ่งเป็นฟีเจอร์เด่นที่ทำให้ NFS โด่งดังจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งในอนาคต อาจจะมีเกมแข่งรถแบบผิดกฎหมายเกมหนึ่งที่สามารถต่อกรกับแฟรนไชส์ NFS จนก่อให้เกิดกระแสเกม Street Racing ได้กลับมาได้ความนิยมอีกครั้ง

KKMTC

เค – Content Writer

Motor Sport Sponsored
แข่งรถ รถแข่ง

การแข่งรถ (หรือเรียกว่าแข่งรถยนต์ หรือ รถแข่ง) เป็นมอเตอร์สปอร์ตที่เกี่ยวข้องกับการแข่งโดยใช้รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ รถจักรยาน สำหรับการแข่งขัน

This website uses cookies.