![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKbPRN8jvi1qeI6yd.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKba6slP4D2OhBtAO.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKa5J4jpY6yK5LZvd.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKbda2PAfk6vfYU1A.png)
ตัวเลขสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศของ EQXX นั้นควรค่าแก่การจดจำ เมื่อมองที่ค่าสัมประสิทธิ์ 0.20 ในยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง EQS ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่มีรูปลักษณ์ลื่นไหลสุดๆ บนท้องถนนในปัจจุบัน แต่ตัวเลข 0.17 เป็นสถิติที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน จากรุ่นปัจจุบันของ Model S ด้วยการออกแบบที่ลื่นไหลและเพรียวบาง ทำให้ตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศในระดับที่ต่ำมากถึง 0.17 ของ EQXX ตัวเลขดังกล่าว เอาชนะรถที่ลู่ลมที่สุดในปัจจุบันได้อย่างฉิวเฉียด รถต้นแบบไฟฟ้า VISION EQXX บดขยี้รถยนต์พลังงานผสมแบบไฮบริดที่ใช้งานได้จริงเพียงคันเดียวในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เป็นรถที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพด้านแอร์โรไดนามิกสูงสุด รถคันนั้นก็คือ XL1 ของ Volkswagen ซึ่งเป็นรถไฮบริดที่เกิดจากแนวคิดคล้ายคลึงกันในช่วงต้นปี 2010 เจ้า XL1 รักษาสถิติก่อนหน้านี้ ด้วยตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์ 0.189 หากสถิติด้านความลู่ลมของ EQXX ยังไม่สาแก่ใจ Mercedes ยังเสริมว่า EQXX เอาชนะคน (0.8 ถึง 1.2) นักปั่นจักรยาน (0.6 ถึง 0.8) และนักอเมริกันฟุตบอล (0.18 ถึง 0.2) ลามไปจนถึงการที่มันสามารถเอาชนะประสิทธิภาพแอร์โรไดนามิกของนกเพนกวินได้ (0.05)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKbJsCWeweMKkbePp.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKayp9DNOlp8xn9dR.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKbCrcmRBHAxJw9TO.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKcHlqLi1YgDgsquq.png)
วิธีการที่จะทำให้รถไฟฟ้ามีระยะทางมากขึ้นก็คือ ความลู่ลมจากงานออกแบบที่คำนึงถึงหลักการทางอากาศพลศาสตร์ วิจิตรศิลป์ของแอโรไดนามิก เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว ทั้งการออกแบบรถทดสอบค่าแอร์โรไดนามิก เช่น Mercedes-Benz Concept C 111 จากปี 1970 ปัจจุบัน ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธง EQS ซึ่งกลายเป็นรถยนต์โมเดลบุกเบิกระดับหรูหรา และครองสถิติโลกสำหรับรถยนต์ที่ผลิตตามหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุด VISION EQXX กำลังสร้างก้าวต่อไปของระบบอากาศพลศาสตร์ที่มีศักยภาพสูงสุด ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.17 (cd 0.17) ค่าที่บันทึกไว้นี้มีความสำคัญ ออกแบบรูปทรงที่ไหลลื่น ลดแรงต้านทานอากาศในทุกตำแหน่ง สำหรับการยกระดับการทำระยะทางของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เนื่องจากยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ต้องใช้พลังงานไฟมากถึง 2 ใน 3 เพื่อต่อต้านแรงต้านทานของกระแสลม
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGgT2z1Gllo6x4k4H.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGgYQpK987Dixeb1S.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aYlbZcmZ5sdGivKcCRPb8Rx02LCqL7.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGgNaCL9o1PrRaINF.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGghOLO2wvsPOCxKk.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGfze0doQWHPjxNev.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGgBn6OmELBRdtxiO.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGf8NuIWsiYm0Ub0C.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGgI4HmuRQ7xDxhiH.png)
รูปแบบไหลลื่นอย่างไร้ที่ติ จากด้านหน้าเหนือซุ้มล้อ ไปจนถึงส่วนท้ายของรถ สัมผัสได้ถึงหลักการแอร์โรไดนามิกที่มีประสิทธิภาพของขอบสปอยเลอร์หลัง รายละเอียดอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า VISION EQXX ได้รับการออกแบบให้ด้านหน้ามีขนาดเล็กกว่า CLA ดังนั้นจึงมีความต้านทานอากาศลดลง ซุ้มล้อหลังที่แคบลง ช่วยให้อากาศไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฝาครอบภายนอกแบบโปร่งใสบนล้อ ช่วยป้องกันการปั่นป่วนของอากาศแทบจะทั้งหมด ขอบล้อแมกนีเซียมสีโรสโกลด์ปรับให้อากาศไหลผ่านได้อย่างราบรื่น
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGhDi3LfN6LcXXB7k.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHeWDiypdDfiDEQSQ.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHea5IBl6Kxx020qc.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHePpS91qhpcKsBlW.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHehowjczttLhHWQL.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHQcF4kuHAoMEhQ0F.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHP4TmKsM10POmT98.png)
Mercedes-Benz เดินตามแนวทางใหม่ในการพัฒนาภายในของยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ VISION EQXX มีการผสมผสานวัสดุที่ยั่งยืนซึ่งถูกนำมาใช้ตกแต่งภายใน ตั้งแต่เห็ดไปจนถึงไม้ไผ่ กระบองเพชร และผ้าไหม สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่ายังคงมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุถึงความหรูหราในยานยนต์โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ในขณะที่สร้างความรู้สึกสบายระดับพรีเมียมที่เลียนแบบไม่ได้ การเดินทางอันน่าทึ่งนี้ได้ลดรอยเท้าคาร์บอนของหนังเพียงครึ่งเดียว
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvGhF3c8JABSvuuVjV.png)
ความคล่องตัวและความสามารถในการทำระยะทางไม่ได้วัดตัวเลขแรงม้า แรงบิด อัตราเร่ง กม./ชม. หรือวินาที แต่ความคล่องตัวของอนาคตที่กำลังจะมาถึง ถูกวัดอย่างมีประสิทธิภาพด้วยระยะทางของการวิ่งต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของยานยนต์ต้นแบบ VISION EQXX ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 95% ซึ่งหมายความว่า 95% ของพลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่จะลงไปที่ล้อขับเคลื่อน โดยการเปรียบเทียบ รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีประสิทธิภาพมีสมรรถนะประมาณ 30% และนักวิ่งระยะไกลโดยเฉลี่ยของมนุษย์ทำได้ประมาณ 50% ทีมวิศวกรของ Mercedes-Benz ที่ทุ่มเททำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแข่งรถจากระบบส่งกำลังประสิทธิภาพสูง (HPP) และ Mercedes-Benz Grand Prix (MGP) เพื่อพัฒนาระบบส่งกำลังไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดและมีประสิทธิภาพสูง แบตเตอรี่แพ็กน้ำหนักเบา Mercedes-Benz ใช้เวลานานหลายปีในการทำงานบนรถต้นแบบคันนี้ เพื่อลดแรงเสียดทานของกลไกให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อส่งกำลังลงไปยังล้อขับเคลื่อนโดยมีการสูญเสียแรงบิดน้อยที่สุด
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHd1vMT9VrYi0y2WU.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHd6VVUHSw1497d6H.png)
เมื่อต้องการระยะทำการไกลมากกว่าเดิม แทนที่จะทำให้แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น Mercedes-Benz มองไปที่ความหนาแน่นของพลังงาน ซึ่งจะต้องได้รับการปรับปรุงอย่างมาก พลังงาน 200 Wh/kg มีการปรับตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบควบคุมให้ทำงานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยให้แบตเตอรี่ของ VISION EQXX สามารถจัดเก็บไฟฟ้าได้ถึง 100 kWh ในขณะที่ใช้พื้นที่น้อยลงถึง 50% และมีน้ำหนักเบากว่าแบตเตอรี่ที่มีความจุเท่ากัน หรือเบากว่าถึง 30% ยกตัวอย่างเช่น การใช้ซิลิคอนแอโนดที่ล้ำสมัย ร่วมกับวัสดุน้ำหนักเบาพิเศษจากทีม Mercedes Formula One ซึ่งทำให้ความจุของแบตเตอรี่ใน VISION EQXX เพิ่มขึ้นอย่างมาก
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHeJSYsCJikTaY60c.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHeFIpOGvJm7adNzY.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHQARA4uZeQJF3KZw.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHdn9YdkjaLrKgwB2.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHdcF6dNRvokPe71j.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHQLgC1VpkbaldPx4.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHPx8t3ancFe8BEV1.png)
ระบบไฟฟ้าซึ่งจ่ายพลังงานให้กับยูนิตเสริมหลายตัวใน VISION EQXX จะดึงพลังงานเพิ่มเติมจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา ซึ่งจะช่วยลดความต้องการพลังงานของระบบไฟฟ้าแรงสูง และนำไปสู่ช่วงระยะทางการวิ่งใช้งานที่มากขึ้น ในวันที่มีสภาพอากาศเหมาะสม EQXX สามารถเพิ่มระยะทางแบบพิเศษได้ถึง 25 กิโลเมตร สำหรับการเดินทางระยะไกล
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHQiQMaSTMDJFEsZG.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHQTktWaQgzcQZR3E.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHPUAEVfRxD2h3Lm0.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHQMjgH6ruZvCGfXl.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvHPQRGyWMFoxmeNlb.png)
ความเบา ประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ศักยภาพสูงสุดในด้านแอร์โรไดนามิก และการต้านทานการหมุน ตามลำดับความสำคัญทั้งหมด Mercedes กล่าวว่า ประสิทธิภาพทางไฟฟ้าของ Vision EQXX แปลงการใช้พลังงานเป็น 235 MPG เปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซิน นั่นจะทำให้ EQXX เป็น “รถยนต์ 1 ลิตร” หมายถึงสามารถวิ่งได้ 100 กิโลเมตร โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 1 ลิตร ตรงกับเป้าหมายแรกที่ Volkswagen XL1 สร้างขึ้นเมื่อหลายปีก่อน รถคันนั้นผลิตอย่างจำกัดสี่ปีหลังจากเปิดตัว แต่อนาคตของ EQXX ยังคงไม่มีความชัดเจนว่ามันจะเป็นรถบ้านหรือรถสปอร์ต หรือเป็นทั้งสองอย่างแบบผสมผสานกัน
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvFJgWlNuz0dryaskg.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvFJRq2dFjwMWFUNjR.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvFJBr7MPRRKexGp1h.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvFI1D7zK74FYwsPXz.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvFJczbF3ySKkD3EbO.png)
![](https://static.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9oc89klLIKnETmLFgvFJL0gOWL9VGwUAEy.png)
Vision EQXX เป็นการแสดงตัวอย่างที่ทีมประสิทธิภาพของ Mercedes EQ ยานยนต์ต้นแบบแนวคิดที่เรียนรู้จากการวิจัยและพัฒนา ถูกรวมเข้ากับสถาปัตยกรรมโมดูลาร์รุ่นต่อไป สำหรับรถยนต์ขนาดกะทัดรัดและขนาดกลาง (EQC / EQE)
EnergyWizard: โดยรวมแล้ว ความสำเร็จด้านวิศวกรรมอย่างมีประสิทธิภาพทำให้สิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่า 10 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อ 100 กม. (ประสิทธิภาพมากกว่า 6 ไมล์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง)
ElectricDrive: ระบบใหม่สุดขั้วที่ออกแบบและสร้างขึ้นภายในองค์กร – มีประสิทธิภาพมาตรฐาน 95% ตั้งแต่แบตเตอรี่ไปจนถึงล้อ
RangeBuster: มากกว่า 1,000 กม. (มากกว่า 620 ไมล์) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ช่วยขจัดความวิตกกังวลเกี่ยวกับระยะทาง
ความหนาแน่นของพลังงาน: ด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการคิดของ Formula 1 นักเคมีแบตเตอรี่บีบพลังงานของ EQS ให้กลายเป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัด ชุดแบตเตอรี่ใน VISION EQXX ใช้พลังงานได้เกือบ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่มีปริมาณน้อยลง 50% และเบากว่าชุดมาตรฐานใน EQS ถึง 30%
AeroChamp: นักออกแบบภายนอกและนักอากาศพลศาสตร์ส่งมอบ ค่าสัมประสิทธิ์การลากมาตรฐาน cd 0.175
วัสดุที่ยั่งยืน: วัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากพืชที่เป็นนวัตกรรมใหม่ช่วยขจัดของเสียออกจากหลุมฝังกลบและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
UpliftMindset: วิศวกร Mercedes-Benz ทำงานร่วมกับห้องทดลองการแข่งขันที่เร็วที่สุดในโลกที่ High Performance Powertrains (HPP) และ Mercedes-Benz Grand Prix (MGP) เพื่อออกแบบระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดและมีประสิทธิภาพสูง
BionicEngineering แรงบันดาลใจจากรูปแบบธรรมชาติและการร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่เป็นนวัตกรรมใหม่ วิศวกรใช้เครื่องมือดิจิทัลขั้นสูงเพื่อลดน้ำหนักและลดของเสีย ด้วยการนำวัสดุส่วนเกินออกโดยใช้การแม่พิมพ์ 3 มิติ
RollingEfficiency ยางต้านทานการหมุนต่ำเป็นพิเศษพร้อมรูปทรงแอโรไดนามิกที่ปรับให้เหมาะสม รวมกับล้อแมกนีเซียมน้ำหนักเบาสำหรับระยะที่เพิ่มขึ้น
BrakingLightly จานเบรกน้ำหนักเบาทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ VISION EQXX และช่วยลดน้ำหนัก
EfficiencyOnTheRoad แชสซีเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมซับเฟรม F1 น้ำหนักเบา ประสิทธิภาพการแข่งรถมาสู่ท้องถนน
SolarPower แผงหลังคาบางเฉียบ ป้อนไฟฟ้าใส่ระบบแบตเตอรี่ได้ไกลถึง 25 กม. ในโหมดระยะไกลพิเศษ
HumanMachineMerge ส่วนต่อประสานผู้ใช้ ออกแบบให้ใช้งานง่ายและชาญฉลาด พร้อมคำแนะนำและความช่วยเหลือสำหรับการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ นำความใกล้ชิดให้มากยิ่งขึ้นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
SensualPurity การออกแบบภายนอก/ภายใน ของ EV สมัยใหม่ เน้นย้ำบทบาทในฐานะรถยนต์อนาคตพลังงานไฟฟ้า
FastTechProg: จากคลีนชีตสู่ท้องถนนในเวลาเพียง 18 เดือน VISION EQXX เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมเทคโนโลยีที่สามารถปรับเป็นนวัตกรรมสำหรับการผลิตจริงได้เร็วกว่าที่เคย
Transformation: VISION EQXX สาธิตการเปลี่ยนแปลงของ Mercedes-Benz ให้เป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและซอฟต์แวร์
SoftwareDriven: แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์เพื่อความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ และกระบวนการพัฒนาที่รวดเร็ว ซึ่งรวมถึงระบบการจัดการแบตเตอรี่ที่ก้าวล้ำ.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/