กรณีสายพลังงานประหยัดน้ำมัน โดยพบผู้จำหน่ายเป็นไฮโซหญิงรายหนึ่ง ได้โพสต์ลงทั้งเพจของสินค้าและเฟซบุ๊กส่วนตัว นำไปมอบให้กับดาราอาวุโส เพื่อให้ร่วมโปรโมตด้วย รวมถึงอู่รถยนต์และบริษัทต่าง ๆ เพื่อถ่ายภาพโปรโมตสินค้า
สำหรับคุณสมบัติของสายพลังงานประหยัดน้ำมัน มีการระบุอ้างว่า แค่มีสายรัดประหยัดพลังงานที่สายส่งน้ำมันไปหัวฉีด สายประหยัดพลังงานจะแยกโมเลกุลน้ำมันให้เล็กลง ทำให้การใช้น้ำมันลดลง 20-30% โดยส่วนประกอบของสายรัดประหยัดพลังงาน ประกอบด้วย แร่แกรฟีน พลังงานควอนตัม แร่หินลาวา พลังงานแม่เหล็ก รังสีแกมมาเรย์ และยางซิลิโคนชนิดพิเศษ ทนความร้อนสูง
วันที่ 8 ก.ค. 65 ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ยุวดี บุญครอง ผู้ผลิตสายรัดประหยัดน้ำมัน กล่าวว่า สายรัดประหยัดน้ำมันชิ้นนี้ผู้คิดค้นเป็นเพื่อนของตนชาวมาเลเซีย ส่วนตนเป็นคนนำหลักการมาผลิตในประเทศไทย ซึ่งสายรัดพลังงานชิ้นนี้ ประกอบด้วยแร่ธาตุกว่า 10 ชนิด ที่สามารถปลดปล่อยพลังงานแกรมม่า เบต้า แอลฟ่า รวมกันเป็นประจุไอออนลบ มีคุณสมบัติในการแยกประจุน้ำมันให้โมเลกุลเล็กลง ผ่านท่อน้ำมันก่อนเข้าหัวฉีด ทำให้การใช้น้ำมันลดลง 13-40 %
นอกจากนี้ ยังมีข้อดีการออกตัวของรถดีขึ้น และการขับเคลื่อนของรถจะดีขึ้น โดยวิธีการต้องนำไปรัดที่สายส่งน้ำมันเข้าเครื่องยนตร์ ซึ่งงานวิจัยทางชาวมาเลเซียเป็นคนจดสิทธิบัตร ตนเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ผลิตสายรัดเองในประเทศ ยอมรับว่าไม่มีงานวิจัยรับรอง เพราะประเทศไทยไม่ค่อยมีเทคโนโลยีที่จะตรวจสิ่งที่เป็นไฮเอนท์ แต่ตนมีงานวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ว่าสายรัดประหยัดพลังงาน มีสารประกอบใดบ้าง เพื่อยืนยันว่ามีพลังงานจริง แต่ไม่ได้บอกว่าประหยัดน้ำมันได้จริง
โดยการทดสอบตนเคยไปที่สถาบันแห่งหนึ่งแต่ไม่ได้ผล เพราะทดสอบจากน้ำมันแค่ลิตรเดียว ซึ่งไม่ต่างกัน นักวิจัยระบุว่าต้องทดสอบในสนามแข่งรถ ให้รถวิ่งหลายรอบเพื่อพิสูจน์ ซึ่งมองว่าต้องใช้เงินหลายแสนบาท ตนอยากให้ประชาชนใช้จริงในเชิงประจักษ์มากกว่า หากนำไปใช้แล้วน้ำมันไม่ลด ตนยินดีคืนเงิน
ส่วนที่นักวิชาการบางคน เช่น อ.เจษฎา บอกว่าเป็นเรื่องลวงโลก ตนก็อยากให้มาพูดคุยกับผู้คิดค้น และทดลองใช้สายรัดนี้ก่อนว่าสามารถลดได้จริงหรือไม่ โดยนักวิชาการแต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกัน ยืนยันตนไม่ได้หลอกลวงประชาชน ซึ่งขณะนี้กำลังส่งให้กรมพลังงานทดแทนได้ลองพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นเรื่องจริง ทั้งนี้ สายรัดของตนใช้ได้ทั้งน้ำมัน แก๊สรถยนต์ รวมถึงแก๊สหุงต้ม ที่สามารถประหยัดการใช้งานได้ด้วย
โดยผู้ที่ทดลองใช้ไม่มีหน้าม้า มีแต่ผู้ที่สนใจและเห็นผลจริง และตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้เปิดจำหน่ายเป็นทางการด้วยซ้ำ ยืนยันไม่ได้ฉวยโอกาสช่วงน้ำมันแพง เพราะตนไม่ใช่คนคิดค้น แต่มองว่าคนไทยโชคดีที่ได้เทคโนโลยีนี้เข้ามา โดยสายรัดประหยัดน้ำมันจำหน่ายในราคาเส้นละ 3,800 บาท รับประกันการใช้งาน 5 ปี หากใช้ไม่ได้ผลภายใน 7 วันยินดีคืนเงิน
ด้านนายชาย มาลี อายุ 42 ปี ตัวแทนจำหน่ายสายรัดประหยัดพลังงาน กล่าวว่า ตอนแรกตัวเองก็ไม่เชื่อว่าสายรัดนี้จะใช้งานได้จริง จนได้ทดลองใช้มาเป็นเวลา 1 เดือน ใช้สายรัดประหยัดพลังงานกับรถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ของตัวเอง พบว่าประหยัดน้ำมัน 30-40 เปอร์เซ็นต์
โดยตนทดลองเติมน้ำมันเต็มถังขับไปประมาณ 100 กิโลเมตร จากนั้นเติมน้ำมันอีกรอบให้เต็มถัง แล้วใช้สายรัดประหยัดพลังงาน ขับในระยะ 100 กิโลเมตรเช่นเดียวกัน พบว่าเติมน้ำมันน้อยลงกว่าเดิมประมาณ 4 ลิตร ในระยะการขับเท่าเดิม ยืนยันตัวเองไม่ได้เป็นหน้าม้า เพราะในชีวิตไม่เคยโกหก ตอนแรกก็เป็นผู้ทดลองใช้ แต่เมื่อเห็นว่าใช้ได้จริงจึงเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่าย
ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ลักษณะสายแบบนี้ไม่ได้เพิ่งมีครั้งแรก อาจจะเปลี่ยนสี เปลี่ยนรูปร่างออกมาเรื่อย ๆ แต่จะมีการกล่าวอ้างถึงคุณสมบัติคล้ายกัน คือ ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง ที่ทำให้เกิดการทำงานของเครื่องยนต์ดีขึ้น เกิดการแตกตัวของโมเลกุลน้ำมัน สุดท้ายสามารถประหยัดน้ำมันได้
โดยหลักการเหล่านี้หากสามารถใช้ได้จริง ควรผ่านการทดสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและน่าเชื่อถือ แต่จะเห็นว่าไม่ได้มีการทดสอบ เป็นเพียงการกล่าวอ้างว่าผลิตภัณฑ์ประกอบไปด้วยสารใดบ้าง ภาพรวมเป็นการกล่าวอ้างเกินจริง ใช้คนมาโปรโมต ซึ่งผู้ที่มาโปรโมตก็ไม่มั่นใจว่าได้ใช้งานจริงหรือไม่ ส่วนสารต่าง ๆ ที่ใส่ไป และให้หน่วยงานรับรอง ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าสารที่ใส่ลงไปทำให้รถประหยัดน้ำมันได้จริง
ส่วนที่เชิญตนไปร่วมพิสูจน์ ตนมองว่าไม่จำเป็น สิ่งที่ควรต้องทำคือเข้าไปทดสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากกว่า ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนว่าในช่วงที่ราคาน้ำมันแพง สินค้ากลุ่มประหยัดพลังงานจะเข้ามาในตลาดเยอะมาก ประชาชนควรศึกษาให้ดี อย่าเชื่อตามที่เขาบอก หรือเห็นบุคคลที่มีชื่อเสียงใช้ เพราะหากสินค้าชนิดนี้ใช้ได้จริง เชื่อว่าบริษัทรถยนต์คงติดตั้งไปแล้ว
ด้านนักแสดงชื่อดัง “ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี” กล่าวว่า ภาพตนที่โพสต์นั้นถ้าจะมองว่าเป็นการโปรโมตก็มองได้ แต่ส่วนตัวไม่ได้รับจ้าง สำหรับสายรัดประหยัดน้ำมันตนท้าพิสูจน์ด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้เชื่อตั้งแต่แรก ตนมองว่าถ้ามันใช้งานได้จริง มันจะสามารถเผาผลาญเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจหรือครัวเรือนที่ใช้แก๊สในการหุงต้ม ถ้าใช้ได้จริงจะช่วยประหยัดได้ 15-20% หลังจากนั้นตนได้ไปศึกษารายละเอียดของสายรัดน้ำมัน ทราบว่ามีการใช้และจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศที่น้ำมันถูกอยู่แล้ว แต่ทำไมคนยังใช้ ยังจำหน่ายกัน เป็นสิ่งที่ตนสงสัย
ต่อจากนั้นตนได้ศึกษาถึงเนื้อในของสายรัดน้ำมัน พบว่าวัสดุถูกผลิตมากจากแร่แกรฟีน ช่วยในการจัดเรียงโมเลกุลในน้ำมันใหม่ ซึ่งมันเป็นเสมือนพลังงานควอนตัมไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งก็ต้องพิสูจน์
และจากที่ตนได้ลองพิสูจน์มา 2 สัปดาห์ ยังไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ที่สัมผัสได้คืออัตราเร่งดีขึ้น การเผาผ่านดีขึ้น ระยะเวลาในการเดินทางสั้นลง ส่วนเรื่องของการประหยัดพลังงานต้องมีการทดลองกันอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนถึงจะยืนยันได้ คนที่จะยืนยันได้ดีที่สุดคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง