“แมดเซ่น” ผงาดแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2022, “โปรจีน” จบอันดับ 8 ร่วม – Sanook

กอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 53 ล้านบาท ที่ สยาม คันทรี คลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส ระยะ 6,576 หลา พาร์ 72 ที่จ.ชลบุรี จบการแข่งขันวันสุดท้าย เมื่อช่วงบ่าย (13 มี.ค. 65) ที่ผ่านมา โดยรายการนี้มีนักกอล์ฟสาวไทยลงแข่งมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 11 ราย

การแข่งขันกอล์ฟสตรี “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2022” ซึ่งปีนี้เป็นการฉลองครบรอบ 15 ปีของการแข่งขัน ชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 53 ล้านบาท พร้อมด้วยรางวัลพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟรถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่น e:HEV RS ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวี มูลค่า 1,179,000 บาท ให้กับนักกอล์ฟคนแรกที่ทำ “โฮลอินวัน” หลุม 16 พาร์ 3 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา ระยะ 6,575 หลา พาร์ 72 จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม 2565

j5บรรยากาศการแข่งขันชิงแชมป์วันสุดท้าย ณ สยามคันทรี่คลับ โอลด์คอร์ส พัทยา ร้อนระอุแข่งกับสภาพอากาศแม้จะมีฝนตกในช่วงบ่ายทำให้กรรมการสั่งยุติการแข่งขันชั่วคราวในเวลา 13.14 น. ก่อนจะกลับมาแข่งขันต่อเวลา 15.45 น.จนจบการแข่งขันซึ่งนักกอล์ฟสาวไทยต่างเล่นกันอย่างสุดฝีมือ

ส่วนตำแหน่งแชมป์“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2022” ต้องดวลเพลย์ออฟหลังจากที่นันนา เคิร์สท์ มาดเซ่น ผู้นำจากรอบสาม ที่สร้างสถิติใหม่สกอร์รวมต่ำสุด 54 หลุมของรายการที่ 21อันเดอร์พาร์ 195 ในรอบสุดท้ายเธอเก็บเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวมสี่วัน 26 อันเดอร์พาร์ 262 จบด้วยตำแหน่งผู้นำร่วมกับซียู แจเน็ต ลิน พร้อมทุบสถิติสกอร์รวมต่ำสุด 72 หลุมของรายการที่เจสซิก้า คอร์ดา เคยทำไว้ในปี 2018 ที่ 25 อันเดอร์พาร์ 263

การดวลเพลย์ออฟตัดสินแชมป์ที่หลุม 18 พาร์ 5 ทั้งสองทีออฟออกไปอยู่ในแฟร์เวย์ ซึ่งนันนาตีไปได้ไกลกว่า และช็อตสอง ลินตีไปตกหน้ากรีน  ส่วนนันนาตีไปออนขอบกรีนด้านซ้าย และนันนาพัตต์เข้าไปห่างราว 2 ฟุต  ขณะที่ลิน ชิพเข้ามาเกือบลงและแทปอินเบอร์ดี้ กดดันนันนา แต่สาวเดนมาร์กก็พัตต์ลง เก็บเบอร์ดี้ได้ทั้งคู่

ต้องมาดวลเพลย์ออฟหลุมที่สองโดยใช้หลุม 18 พาร์ 5 เหมือนเดิม ทั้งสองตีไปอยู่ในแฟร์เวย์ ก่อนที่ลินจะขึ้นช็อตสองไปซ้ายของกรีน ส่วนนันนาตีออนห่างราว 8 ฟุต จากนั้นลินชิปเข้าไปห่างราว 2 ฟุต ก่อนที่นันนาจะพัตต์อีเกิ้ลลงไป ชนะเพลย์ออฟ คว้าแชมป์ไปครอง นับเป็นแชมป์รายการแรกในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอทัวร์ และสร้างประวัติศาสตร์นักกอล์ฟหญิงจากเดนมาร์กคนแรกที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ รับเงินรางวัล 240,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7.9 ล้านบาท

เจ้าของแชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2022” วัย 27 ปีให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้เริ่มต้นค่อนข้างประหม่าเล็กน้อย แต่ยังดีที่ยังเก็บเบอร์ดี้ได้ และสามารถรักษาผลงานจนได้เข้าไปเล่นเพลย์ออฟ ได้บอกกับแคคดี้ของเราว่ามาสนุกกับการเล่นเพลย์ออฟและทำให้เต็มที่ และดีใจที่สัปดาห์นี้เล่นดีจนสามารถคว้าแชมป์แรกในแอลพีจีเอทัวร์ได้”

j1สำหรับโปรสาวไทยที่ผลงานดีที่สุดในวันที่สามคือ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล มือ 14 ของโลก และรองแชมป์เก่า ซึ่งวันนี้ตีบุกเต็มที่ เก็บเพิ่มอีก 7 อันเดอร์พาร์ 65 จากการทำ 1 อีเกิ้ล 7 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 จบอันดับ 8 ร่วม ขณะที่ตำแหน่งแชมป์ต้องดวลเพลย์ออฟหาผู้ชนะที่หลุม 18 พาร์ 5 หลังจาก แนนนา โคสต์ซ แมดเซ่น จากเดนมาร์ก และ หลิน ซื่อหยู จาก จีน จบด้วยสกอร์รวม 26 อันเดอร์พาร์ 262 เท่ากัน ทำลายสถิติสกอร์ต่ำที่สุดของรายการนี้ซึ่ง เจสสิก้า คอร์ด้า โปรอเมริกัน เคยทำเอาไว้ 25 อันเดอร์พาร์ 263 ในปี 2018

ผลการดวลเพลย์ออฟปรากฏว่าต้องวัดฝีมือกัน 2 รอบก่อนที่ แนนนา โคสต์ซ แมดเซ่น จะเก็บอีเกิลได้สำเร็จ คว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการแรกในชีวิต รับเงินรางวัล 240,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 8 ล้านบาท นอกจากนั้น แมดเซ่น ยังกลายเป็นโปรกอล์ฟคนแรกของเดนมาร์ก ที่คว้าแชมป์รายการ แอลพีจีเอ ทัวร์ ได้สำเร็จ รองแชมป์เป็นของ หลิน ซื่อหยู และอันดับ 3 คือ เซลีน บูติเย่ร์ โปรชาวฝรั่งเศสสายเลือดไทย สกอร์รวม 25 อันเดอร์พาร์ 263

ส่วนผลงานของโปรสาวไทยคนอื่น ๆ “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ มือ 13 ของโลก อันดับ 3 ร่วมเมื่อปีที่แล้ว วันนี้เก็บอีก 7 อันเดอร์พาร์ 65 สกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 อยู่ในอันดับ 16 ร่วม, “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เก็บเพิ่ม 6 อันเดอร์พาร์ 66 จบด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274 คว้าอันดับ 31 ร่วม ตามด้วย “โปรจูเนียร์” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ และ “โปรว่าน” จารวี บุญจันทร์ ที่ทำสกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 เท่ากัน อยู่ในอันดับ 33 ร่วม

j7ด้าน”โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล แชมป์เก่า เก็บเพิ่ม 6 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276 จบอันดับ 40 ร่วม ตามด้วย “โปรโม” โมรียา พี่สาว สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 277 อันดับ 44 ร่วม และ “โปรพราว” เชตตี วรรณเสน สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 278 คว้าอันดับ 47 ร่วม

ขณะที่ “โปรแจน” วิชาณี มีชัย สกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ 287 อยู่อันดับที่ 61 ร่วมกับ รีน่า ทาเทมัตสึ นักกอล์ฟมือสมัครเล่นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น,  และ “โปรพริม” พริมา ธรรมารักษ์ สกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 290 จบอันดับ 63 ร่วม

มิสวินนี่ เฮง  รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยของ ไอเอ็มจี กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับ นันนา เคิร์สท์ มาดเซ่น ที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอแรกได้สำเร็จ และเรารู้สึกเป็นเกียรติที่เป็นรายการฮอนด้าแอลพีจีเอไทยแลนด์   และต้องขอขอบคุณนักกอล์ฟทุกคนที่ร่วมลงแข่งขันและทำให้สัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น  ทั้งการสนับสนุนและมิตรภาพของนักกอล์ฟทุกคนที่มีให้กันตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญ และเรารู้สึกภูมิใจที่นักกอล์ฟไทยหลายคนทำผลงานได้ดี ซึ่งทั้งหมดคือบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาวงการกอล์ฟสตรีไทยสำหรับฮอนด้าและผู้สนับสนุนทุกราย ซึ่งจะยังประโยชน์ให้แก่ทั้งภูมิภาคและแอลพีจีเอทัวร์โดยรวม”

“เราขอขอบคุณฮอนด้าและพันธมิตรทุกรายสำหรับการให้การสนับสนุนและความเชื่อมั่น ตลอดจนถึงศบค. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ให้แนวทางด้านความปลอดภัย ทำให้ฮอนด้า แอลพีจีเอไทยแลนด์ในปีนี้ประสบความสำเร็จ และเป็นทัวร์นาเมตรของแอลพีจีเอที่ยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”