ทีมเซปักตะกร้อเมืองกรุงเก่า อยุธยา ม้ามืดที่เพิ่งผ่านเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติได้เป็นครั้งแรก สร้างเซอร์ไพรส์ชนิดหักปากกาเซียน ผ่านเข้ามาคว้าเหรียญทองในประเภททีมเดี่ยวหญิงได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงแข่งขัน โดยรอบชิงฯสาวกรุงเก่า พลิกสถานการณ์จากที่พ่ายสาวราชบุรีไปก่อน กลับมากวาดชัยสองเซตหลัง เอาชนะ 2-1 เซต หยิบเหรียญทองประวัติศาสตร์ ตุนอีดฉีดในกระเป๋าอย่างน้อย 4 หมื่นบาท พร้อมยังเหลือลุ้นอีก 1 รายการในประเภททีมชุดหญิง ซึ่งจะแข่งขันกันต่อในวันที่ 11 มี.ค.นี้
การแข่งขันเซปักตะกร้อ ในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ที่ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตศรีสะเกษ เมื่อ 10 มี.ค.65 แข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ในประเภททีมเดี่ยวหญิง เป็นดาร์บี้แมตช์ภาคกลาง อยุธยา ผ่านเข้ามาเล่นในกีฬาแห่งชาติรอบสุดท้าย เป็นครั้งแรก พบกับ ราชบุรี สำหรับผู้เล่นตัวจริงของ ราชบุรี นำมาโดย “หมู” วันวิสา จันทร์แก่น ตัวเสิร์ฟอดีตทีมชาติไทย พร้อมด้วย ธิติมา เหยียดกระโทก ตัวชง และ กัญจนา ไกรสร ตัวทำ ด้าน อยุธยา มี “นิด” สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ ตัวทำอดีตทีมชาติไทย นำทัพ พร้อมด้วย ปภานิน สีหานอก ตัวชง และ สวิตตา เลือดทหาร ตัวเสิร์ฟ
เซตแรกบี้กันสนุก ทั้งสองทีมผลัดกันทำสกอร์ แต้มเบียดกันมาหยุดที่ 19-19 ก่อนเป็นราชบุรี ที่นิ่งกว่าในช่วงสถานการณ์สำคัญ เก็บเซตแรกไปได้ 23-21 ทว่ามาเซตสอง เป็นอยุธยา ที่เเก้เกมมาดี เอาคืนได้บ้าง 21-15 ตามเสมอ 1-1 เซต เซตสาม กลายเป็นอยุธยา ที่ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ทำได้ดีกว่าทั้งเกมรุกและเกมรับ หวดเอาชนะไป 21-17 ส่งทีมสาวอยุธยา ชนะ 2-1 เซต 21-23, 21-15, 21-17 คว้าเหรียญทองไปครอง ซึ่งก็นับเป็นเหรียญทองประวัติศาสตร์ของสาวเมืองกรุงเก่า ด้านเหรียญทองแดง เป็นของ สุพรรณบุรี และศรีสะเกษ
ขณะที่ทีมเดี่ยวชาย สุพรรณบุุรี อดีตแชมป์เก่าจาก “นครสวรรค์เกมส์” นำทีมโดย ธนุศาสตร์ ระวิโรจน์ นักกีฬาตะกร้อชายหาดทีมชาติ เป็นตัวชง พร้อมด้วย 2 นักกีฬาชุดแชมป์นักเรียนอาเซียน “กีตาร์” พิสิษฐ์ ถิ่นบางบน ตัวเสิร์ฟ และ ธีรวัฒน์ ประกอบ ตัวทำ ดวลกับ ปทุมธานี ที่นำโดย วรายุทธ์ จันทร์เสนา ตัวทำจากสโมสรทหารอากาศ ชุดแชมป์ประเทศไทยล่าสุด และ ปรเมศร์ ศิริสวัสดิ์ ตัวชง กับ ณิชกุล สีหะไกร ตัวเสิร์ฟ โดยผลปรากฎว่าเป็นทางฝั่งของสุพรรณบุรีที่บดเอาชนะไปได้ 2-1 เซต 21-10, 10-21 และ 21-14 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของกทม. และ นครราชสีมา
ด้านตะกร้อชายคู่ รอบชิงชนะเลิศ ขอนแก่น ชนะ ชัยภูมิ 2-0 เซต 21-19,21-14 ส่วนเหรียญทองแดง เป็นของ สุพรรณบุรี กับ กทม. ขณะที่ตะกร้อหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ ชลบุรี ชนะ ราชบุรี 2-1 เซต 21-19, 20-22, 21-16 ด้านเหรียญทองแดง เป็นของพัทลุง และ ร้อยเอ็ด
หลังการแข่งขัน ประเสริฐ ผ่องผึ้ง อดีตผู้เล่นทีมชาติไทย ในฐานะผู้ฝึกของทีมเซปักตะกร้อจังหวัดอยุธยา เผยว่า เกมรอบชิงฯวันนี้ เราเตรียมแผนเอและบีเอาไว้ ซึ่งก็ได้ใช้ทั้งสองแผน เพราะหลังแพ้เซตแรก แบ็คตัวจริงเราโชว์ฟอร์มไม่ออก จึงไม่มีทางเลือก เลยส่งแบ็คตัวสำรอง ที่เราก็มั่นใจว่าเล่นเกมรับดี เกมเสิร์ฟชัวร์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเสี่ยงที่ถูก เด็กๆก็ช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี จนได้รับชัยชนะ ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ทีมเราได้ผ่านเข้ามาแข่งขันในกีฬาแห่งชาติรอบสุดท้ายได้ ดังนั้นเป้าหมายของเราอยู่ที่รอบรองชนะเลิศ แต่เมื่อแข่งจริง เด็กช่วยกันเล่น ช่วยกันทำหน้าที่ได้อย่างดีจนก้าวขึ้นมาคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับทีมเซปักตะกร้อหญิงของอยุธยาได้สำเร็จ
“นักกีฬาส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาของสโมสรฮอนด้า ยูเนี่ยน โรงงานรถยนต์ของฮอนด้า ซึ่งท่านประธานสโมสรก็มีความตั้งใจที่จะตอบแทนชาวอยุธยา ด้วยการทำทีมตะกร้อผู้หญิงเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ และก็ได้ผ่านเข้ามาร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรก ที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเหรียญทองเหรียญนี้พวกเราขอมอบให้กับชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนความสำเร็จนี้ ตนว่าจะเป็นแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้เยาวชนในจังหวัดหันมาเล่นกีฬาตะกร้อ หันมาเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพกันมากขึ้นด้วย ซึ่งเด็กๆในทีมชุดนี้ของอยุธยา ส่วนหนึ่งก็เป็นผลิตผลจากทีมตะกร้อฮอนด้า ยูเนี่ยน”
“สำหรับความสำเร็จครั้งนี้ ทางผู้จัดการทีม พร้อมจะอัดฉีดเบื้องต้นให้นักกีฬาอย่างน้อย 10,000 บาท ส่วนทางจังหวัดอยุธยา ก็พร้อมจะอัดฉีดให้ที่ได้เหรียญทอง อีก 30,000 บาท รวมๆแล้วก็มี 40,000 บาท เป็นอย่างน้อย ส่วนอีเวนท์สุดท้าย ที่เราจะลงแข่งขันประเภททีมชุด ก็หวังว่าจะผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นอย่างน้อย”
ด้าน “นิด” สุภาวดี คำจันทร์ ตัวทำวัย 28 ปี อดีตนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทย เผยว่า อยุธยา คือทีมน้องใหม่สุดๆสำหรับการแข่งขันในรอบมหกรรมกีฬาแห่งชาติ รอบสุดท้าย เป้าหมายที่แท้จริงของทีม ก็คือการผ่านเข้าไปให้ถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย แต่ก็ทำได้เกินเป้า โดยการแค่ได้เข้าชิงก็ถือว่าเป็นกำไร เป็นสิ่งที่ตนและน้องๆในทีมทุกคนดีใจมากๆแล้ว อยากขอบคุณน้องๆในทีมทุกคนที่ช่วยกันเล่น ขอบคุณสมาคมกีฬาจังหวัดอยุธยา พี่ๆผู้ใหญ่ทุกท่านที่เป็นกำลังใจและให้การสนับสนุนด้วยดีมาตลอด”
Add friend ที่ @Siamsport