(6 ก.ย. 64) ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสวนกล้วยด่างแห่งหนึ่ง บันทึกภาพไว้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.43 น.จับภาพพฤติกรรมของคนร้ายเป็นชายแต่งกาย สวมใส่เสื้อแขนยาวลายสก็อตสีฟ้า กางเกงวอร์มขาสั้นสีดำ สวมหมวกไอ้โม่งสีน้ำเงิน ในมือซ้ายถือมีด มือขวาถือถุงปุ๋ย เดินเข้ามาในสวนกล้วย โดยเดินผ่านกล้องวงจรปิดเข้าไปก่อเหตุ ซึ่งขณะก่อเหตุนั้นไม่สามารถบันทึกคนร้ายขณะก่อเหตุขโมยกล้วยด่างได้ พอก่อเหตุขโมยเสร็จคนร้ายได้มานั่งล้างมืออยู่ตรงกล้องวงจรปิดจับภาพได้พอดี
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 6 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสวนกล้วยด่าง ดังกล่าว พบกับ นายชัชวาลย์ พิเศษภักดีกุล อายุ 43 ปี และ นางสาวพัชรี บังเอิญ 38 ปี สองสามีภรรยา ผู้เสียหายชาวกรุงเทพมหานคร เจ้าของสวนกล้วยดังกล่าว เล่าให้ฟังว่าตนเองได้ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่เป็นคนชื่นชอบในการทำสวนและมีความสนใจในพันธุ์ไม้แปลกหายากมานานนับ 10 ปี และต้องการมีอาชีพเสริม จึงได้มาซื้อที่ดินไว้จำนวน 2 ไร่ อยู่ที่ภายในพื้นที่ อำเภอลาดบัวหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากนั้นได้นำกล้วยด่างสายพันธุ์ต่างๆมาปลูกไว้ที่สวนจำนวน 30 ต้น โดยมีทั้งแม่พันธุ์และหน่อกล้วยด่างชนิดต่างๆ เช่น แม่พันธุ์ปาปัวนิวกินี แม่พันธุ์ตานีด่าง แม่พันธุ์ป่าลายหินอ่อนด่าง พันธุ์ฟอริด้า พันธุ์กล้วยป่าด่างสตูน กล้วยเล็บมือนางลายฟอริด้า และกล้อยน้ำว้าค่อมด่าง และสายพันธุ์อื่นๆโดยจะไปกลับกรุงเทพฯอาทิตย์ ละครั้ง 2 ครั้ง กระทั้งมาสังเกตพบว่าถูกคนร้ายเข้ามาขโมยขุดหน่อกล้วยด่างไป ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จึงได้นำกล้องวงจรปิดมาติดภายในสวน แต่ก็ยังถูกคนร้ายที่เข้ามาขโมยขุดกล้วยด่าง ขโมยกล้องวงจรปิดออกไปด้วย
จากนั้นตนเองจึงได้นำกล้องวงจรปิดเข้ามาติดอีกรอบ หลังจากซ่อนกล้องวงจรปิด ก็ได้หาจุดที่คนร้ายเข้ามาภายในสวน ก็ไปพบว่าคนร้ายเข้าจากด้านหลังสวนซึ่งตนเองทำกำแพงไว้และมีลวดหนามล้อมรอบๆ แต่มีช่องใต้กำแพงเหมือนขุดมุดเข้ามาพอที่ตัวคนสามารถลอดเข้ามาได้ ตนเองจึงได้นำสังกะสีมาปิดไว้แต่คนร้ายก็ยังสามารถเข้ามาในสวนได้แต่ไม่รู้เข้าทางไหน แต่ด้านหลังของสวนเป็นถนนชนบทคิดว่าคนร้ายน่าจะต้องเอารถยนต์มาจอดเพื่อขนต้นกล้วยขึ้นแล้วหลบหนีไป
โดย 3 ครั้งแรกที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุสามารถจับกุมตัวได้เพราะว่าคนก่อเหตุนั้นได้ลงโพสต์ขายใน โซเชียล ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นต้นกล้วยด่างที่ปลูกไว้หลังจากนั้นก็มีคนร้ายเข้ามาขโมยซ้ำเป็นครั้งที่ 4 และได้มาจนถึงครั้งที่ 7 ตามภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถจับได้โดยมีการซ่อนไว้ตามต้นกล้วย กระทั่งเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยขุดกล้วยด่างไปจนเกือบหมดสวน ทั้งหน่อและแม่พันธุ์ ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับพฤติกรรมไว้ได้จึงได้นำหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สถานีตำรวจภูธรลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไว้แล้ว
ด้าน นายชัชวาลย์ เล่าต่อว่าที่สวนกล้วยด่างของตนเองถูกขโมยเข้ามาขโมยกล้วยด่างออกไปทั้งหมด 7 ครั้ง รวม 23 ต้น โดยมีทั้งแม่พันธุ์และหน่อกล้วย ซึ่งต้นกล้วยที่ถูกคนร้ายขโมยไปเป็นสายพันธุ์ เทพพนมด่าง ราคาแพงที่สุดต้นละ 150,000 บาท ความสูญเสีย ทั้งหมดเป็นจำนวนเงินเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไรกับคนร้ายที่มาขโมยขุดกล้วยด่างไป จึงต้องขุดกล้วยด่างที่เหลือภายในสวนแข่งกับโจรเพื่อหนีเข้าไปไว้ที่บ้านในกรุงเทพมหานคร
จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวแจ้งความไว้เวลาผ่านมาแล้วร่วม 1 เดือน ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งตนเองดูจากภาพกล้องวงจรปิดก็เชื่อว่าน่าจะเป็นคนภายในพื้นที่อย่างแน่นอน เนื่องจากสวนกล้วยของตนเองมีรั้วรอบขอบชิด และไม่เคยเปิดให้คนนอกเข้ามาภายในสวนต้องเป็นคนที่รู้ว่าตนเองปลูกกล้วยด่างอยู่ภายในสวนดังกล่าว
Discover the panel d…
This website uses cookies.