23 ธ.ค. 2564
20 views
ขนาดตัวอักษร
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันที่ 31 ธ.ค. 2564 ตนเองจะเกษียณจากตำแหน่งหลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2561 โดยจะมีนายปฐมภพ สุวรรณศิริรักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การเข้ามารับตำแหน่งแทนในวันที่ 1 ม.ค. 2565 ถามว่าภาพรวมธุรกิจดาวเทียมสดใสหรือขุ่นมัว ต้องเทียบกับธุรกิจโรงแรม เป็นธุรกิจที่น่าเป็นห่วงเพราะมีหนี้สินและลูกค้าน้อยลง แต่ธุรกิจดาวเทียมไม่ใช่ เป็นธุรกิจที่ยังมีลูกค้าอยู่ ไม่มีหนี้ จึงถือว่าเป็นธุรกิจที่ยังทำไปได้ แม้จะยอมรับว่าธุรกิจนี้เป็นกิจการที่ไม่ได้เป็นที่รักของใคร เพราะเกี่ยวโยงกับหลายฝ่าย และกิจการที่อยู่ภายใต้สัมปทานอื่นๆก็ไม่มีปัญหาขนาดนี้ก็ตาม
ธุรกิจดาวเทียมของไทยคมเน้นทำในสิ่งที่ควบคุมได้ เมื่อดูที่รายได้ กระแสเงินสด ไทยคมมี 2-3 พันล้านบาท ที่สำคัญคือไม่มีหนี้ ไทยคมเปลี่ยนจากผู้ให้บริการดาวเทียมเป็นสเปซ แอร์กราวน์ การประมูลจะประมูลหรือไม่ แล้วแต่ผู้กำกับดูแล ถ้าจังหวะมันได้ ก็ได้ เพราะไทยคมกำหนดเองไม่ได้ ไทยคมยังมีกระแสเงินสดจะทำธุรกิจอะไรก็ได้ ปัจจุบันเราสามารถนำดาต้ามาใช้ประโยชน์ได้มากมาย จากดาวเทียมวงโคจรต่ำ เช่น การทำภาพถ่าย การเกษตร ติด ซีซีทีวี บนท้องฟ้า เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภาคพื้นดิน อุปกรณ์ไอโอที
สำหรับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชุดใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งนั้น ท่านอย่าเป็นเพียงผู้กำกับ เพราะการกำกับอย่างเดียวมันง่าย แต่ต้องพัฒนาด้วย ยกตัวอย่างเช่นนโยบาย ยูโซ่ไม่จำเป็นต้องหมายถึงขี่ช้าง ข้ามดอย ไปติดจานให้หลังเขา แต่ควรจะเปลี่ยนเป็นการทำให้ประชาชนเข้าถึงความรู้อย่างเท่าเทียมกัน เช่น การเข้ามาดูโอทีที เมื่อยูทูป มีแพคเกจพรีเมี่ยม เสียเงิน จะทำอย่างไร เป็นต้นแนวคิดการประมูลอย่างเดียว เพื่อนำเงินเข้ากระทรวงการคลัง การได้เงินสูงสุดเป็นตัววัด ได้หรือไม่ เพราะในกฎหมายไม่ได้ระบุ การแข่งขันมีจริงหรือ แข่งแบบโลกเสมือนหรือเปล่า
“ทุกอย่างเราตั้งใจทำ เหมือนละคร เราพูดอีกอย่าง คนไปเขียนอีกอย่าง คนพูดก็ไม่เชื่อเรา สังคมคาดหวังให้เราชี้แจงไม่ว่าเราจะนำเสนอข้อมูลอะไร ก็จะมีการชี้แจงออกมาอีกแบบหนึ่ง เรื่องเล็กๆที่เราถูกก็จะมีคนหยิบอีกมุมนึงมาว่าเราวันนี้ เรากับกระทรวง ไม่มีอะไร แต่มักจะมีข่าวหลุดออกมาเหมือนมีเจตนาตลอด” นายอนันต์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวว่า ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลในอนาคต ควรนำบิ๊กดาต้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ขึ้นจริง เช่น การทำให้เกิด P2P Lending หรือผู้ให้บริการระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นตัวกลางสนับสนุนการก่อให้เกิดการกู้ยืมระหว่างผู้กู้และผู้ให้กู้ โดยจับคู่ระหว่างผู้ที่ต้องการกู้เงินและผู้ที่ต้องการให้กู้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้ประชาชน รวมทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีซิมบิวท์อิน เป็นต้น
ด้านนายปฐมภพ กล่าวว่า ตนได้ทำงานใกล้ชิด นายอนันต์ มาตลอด 3 ปี ที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารโดยได้มีการเตรียมพร้อมรับไม้ต่อจากนายอนันต์มาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมาแล้ว ไม่ได้เป็นการรับไม้ต่ออย่างกระทันหัน ขณะเดียวกัน นายอนันต์ ได้มีการวางรากฐานในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ในช่วงรอยต่อของไทยคมทำให้บริษัทสามารถให้บริการได้หลังสิ้นสุดสัญญาณสัมปทาน และบริษัทมีฐานะทางการเงิน และลูกค้า ที่มีเสถียรภาพซึ่งรากฐานนี้จะสร้างการเติบโตระยะยาวให้กับบริษัท ยุคต่อไป จะเป็นการทำให้บริษัทแข็งแกร่ง หาโอกาสและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์เพื่อสังคม และลูกค้าส่วนความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ บริษัทไม่ได้มีความกังวลในเรื่องนี้ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ 50% มาจากต่างประเทศ แข่งขันทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
This website uses cookies.