หล่อยันเงา ทดสอบ AUDI A4 AVANT 45TFSI QUATTRO S LINE BLACK EDITION FACELIFT

ครีบ diffuser ใต้กันชนหลัง กับชิ้นงานตกแต่งชุดกันชนและท่อระบายไอเสียทรงเหลี่ยม ให้อารมณ์แข็งแกร่งดุดัน ล้ออัลลอยใหม่ของ Audi Soirt ขอบ 19 นิ้ว ขนาดของยางเท่ากันทั้งสี่เส้นที่ไซล 245/35R19 ยัดยาง continental sport contact 6 ชุดแต่งสปอร์ต S line Black Edition เพิ่มความสวยงามดุดัน กับสมรรถนะและประสิทธิภาพของระบบอากาศพลศาสตร์ ช่วยทำให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นในย่านความเร็วสูง มิติตัวถังของ A4 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition มีขนาดความยาว 4,762 มิลลิเมตร กว้าง 1,847 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,820 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,572 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,555 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 899 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หลัง 1,043 มิลลิเมตร 

ภายในห้องโดยสารอัปเกรดดีไซน์และวัสดุใหม่ แผงหน้าปัดติดตั้งให้อยู่ในองศาที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วย Audi smartphone interface แสดงผลผ่านระบบ MMI Radio plus หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกให้แสดงมุมมอง 3 รูปแบบ เบาะคนขับแบบ diamond cut เบาะหนังทรงสปอร์ตที่งดงามราวกับเบาะราคาแพงของ Bentley Continental GT เบาะของ A4 Avant  วัสดุหุ้มหนัง Fine Nappa ตกแต่งแบบ Diamond Cut ออกแบบให้รองรับกับสรีระ พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวางพร้อมฝาท้ายไฟฟ้าและเซนเซอร์ที่ใช้เท้าแหย่ใต้กันชนหลังเพื่อสั่งเปิดฝาท้ายมีระบบนวดอัตโนมัติเพื่อใช้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อยามเดินทาง เบาะหลังมีพื้นที่มากพอในการโดยสารทางไกล ทั้งพื้นที่เหนือศีรษะและพื้นที่วางเท้า 

ด้วยความที่เป็นรถ Audi ภายในของ new A4 Avant จึงดูเพียบพร้อมอย่างน่าพิศวง A4 Avant Facelift จัดเนวิเกเตอร์ หรือระบบนำทางด้วยดาวเทียมมาให้ แถมยังมีรายละเอียดกับความคมชัดที่ง่ายต่อการใช้ การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของคุณเพื่อเล่นหรือโทรออกสะดวกรวดเร็วจาก MMI เวอร์ชั่นใหม่ ตำแหน่งของการนั่งขับปรับให้ต่ำได้ดั่งใจคล้ายรถซิ่งและรู้สึกได้ถึงความนิ่มของเบาะ diamond cut ในขณะที่ปีกของตัวเบาะก็โอบอุ้มไหล่ของคุณไม่ให้เคลื่อนที่ไปมาเมื่อขับเร็วๆ ในโค้ง นั่งขับทางไกลลากไปกลับ 700 กิโลเมตร เบาะของมันมีความสบายกว่า BMW Series-5 G30 แบบเห็นๆ เบาะปรับไฟฟ้าสามารถปรับให้เข้ากับสรีระได้อย่างรวดเร็ว และที่พลาดไม่ได้ก็คือ Panoramic Roof หลังคากระจกไฟฟ้าสุดเท่ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเนื่องจากอากาศที่ร้อนเหมือนเตาอบของประเทศไทยแต่มีไว้ก็ได้แค่เท่ละครับ

พวงมาลัย 3 ก้านฐานตัดแบบสปอร์ตของ S-Line ปรับด้วยมือแบบ 4 ทิศทาง (ไกล – ใกล้ – สูง – ต่ำ) หลังวงพวงมาลัยมีแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ทำจากพลาสติกสีดำ กระจกหน้ากว้างทำให้มองเห็นทัศนวิสัยด้านหน้าได้อย่างเด่นชัด เสาหน้าหรือเสา A มีขนาดพอดีไม่บดบังมุมมองด้านข้าง ห้องโดยสารแบบแวกอนมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ และเมื่อพับเบาะหลังคุณก็จะได้พื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้นอีกเพียบ

MMI หรือ multimedia interface ของ Audi ควบรวมการปรับตั้งค่าต่างๆ ผ่านหน้าจอระบบสัมผัา ระบบ MMI Radio plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส MMI touch ขนาด 8.8 นิ้ว ระบบ Audi smartphone interface รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ช่องเชื่อมต่อ USB ส่วนมตรวัด TFT คือจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ตรงหน้าคนขับ ขนาด 12.3 นิ้ว ใช้งานได้ง่ายสำหรับการเลือกดูค่าต่างๆ การปรับตั้งเสียงจากลำโพงของชุดเครื่องเสียง Bang & Olufsen ที่ให้เสียงคมชัดสมจริงพร้อมความหนักแน่นจากกำลังขับของซัฟวูฟเฟอร์คุณภาพคับแก้ว การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ กล้องมองภาพด้านหลัง ทั้งหมดจะแสดงผลบนจอภาพมอนิเตอร์กลางแดชบอร์ด

หน้าปัดมาตรวัด TFT ปรับการแสดงผลได้อย่างหลากหลาย ทั้งแบบวงกลมสองวงสไตล์คลาสสิกของ Audi หรือแบบรถแข่งที่เป็นแท่งกราฟทั้งวัดรอบและความเร็ว สามารถอ่านค่าได้อย่างชัดเจนและมีความทันสมัยเท่ากับมาตรวัดแบบจอภาพ TFT ของรถคู่แข่ง คุภาพความคมชัดทำให้มองเห็นได้ชัดเจน ถูกออกแบบให้ทนต่อสภาพอากาศแบบร้อนชื้นที่เจ้าของรถจะต้องจอดรถตากแดดจัดบ่อยครั้ง กึ่งกลางมาตรวัดรอบและมาตรวัดความเร็วเป็นจอ MID multi information display คอยแจ้งเตือนเวลาและวันที่ อุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร ตำแหน่งของเกียร์ โหมดการขับเคลื่อน ระดับของเชื้อเพลิงในถังและระยะทางที่สามารถวิ่งถึง หรือจะปรับเป็นหน้าจอที่แสดงสปีดความเร็วแบบตัวเลขดิจิทัล วัดระดับการใช้พลังงานเชื้อเพลิง สเกลการใช้พลังงาน รวมถึงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบพกพา เช่นโทรศัพท์หรือ iPod USB

A4 Avant 45TFSi Quattro S-Line Black Edition มีซุ้มเกียร์ที่สวยงาม ตกแต่งด้วยหนังแท้และคิ้วโลหะที่ประณีต ซุ้มคันเกียร์พร้อมที่วางแก้วน้ำสองตำแหน่งยังแถมที่เขี่ยบุหรี่ที่มีหน้าตาคล้ายแก้วกาแฟสตาร์บัคส์ คันเกียร์ออกแบบไม่เหมือนค่ายไหนทั้งสิ้น คันเกียร์มีดีไซน์คล้ายกับคันเร่งของเรือสปีดโบ๊ต มากกว่าจะเป็นคันเกียร์ของรถแวน ค่าย Audi ยังติดตั้งระบบ Auto Brake hold เพื่อความสะดวกในการใช้งานและสวิตช์เบรกมือไฟฟ้าที่น่าจะเป็นคันเบรกมือมากกว่าสวิตช์หน้าตาบ้านๆ ข้างคันเกียร์ยังมีปุ่มปรับเสียงของลำโพงมาให้สำหรับผู้โดยสารบริเวณเบาะหน้าใช้ลดหรือเพิ่มเสียงได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนชุดควบคุมอุณหภูมิดิจิทัลแบบแยกโซนก็ออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายในการปรับตั้งแถมช่องแอร์ของผู้โดยสารตอนหลังมาให้อีกด้วย

ชุดเครื่องเสียง Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ ให้เสียงคมชัดสมจริง Bang & Olufsen 3D Sound System นำเสนอเสียงเพลงสู่มิติที่สาม โดยการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนของระบบกรองเสียง ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากความรู้ด้านระบบเสียงในรถยนต์ การวิเคราะห์เสียง ช่วยให้เสียงที่ส่งออกมาจากลำโพงมีความคมชัดสูง การกระจายสัญญาณอินพุตไปยังลำโพงในรถยนต์สร้างเสียงที่มีความสมจริงของระบบสามมิติ

หัวใจของการขับเคลื่อน Audi A4 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition ใช้เครื่องยนต์เบนซินพร้อมระบบไฮบริดจิ๋ว mild hybrid (MHEV) 4 สูบ 2.0 ลิตร TFSI กำลัง 249 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,500 รอบ/นาที เครื่องยนต์เบนซิน MHEV พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (Direct Injection) เทอร์โบชาร์จ พร้อมโหมดประหยัดเชื้อเพลิง เมื่อคนขับยกเท้าออกจากคันเร่งที่ความเร็วระหว่าง 55-160 กม./ชม. จะเข้าสู่โหมด coasting เครื่องยนต์จะดับลงทันที และจะติดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อแตะคันเร่งหรือแตะเบรก ฟังก์ชัน Start-Stop จะทำงานได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีด เชื่อมต่อการทำงานควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro เวอร์ชันล่าสุด ultra- technology ล่างแบบสปอร์ต ด้านหน้าแบบดับเบิ้ลวิชโบน ด้านหลังมัลติลิ้งค์ กลไกเฟืองท้ายไฟฟ้าปรับกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่ไอย่างอิสระ ทำงานรวดเร็ว และตอบสนองแปรผันต่อสภาพการขับขี่ เส้นทาง และโหมดของการขับเคลื่อนภายในเสี้ยววินาที

เหยียบแป้นเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ที่อยู่ในตำแหน่งไม่เหมือนกับชาวบ้านเขา ปุ่มติดเครื่องยนต์สีเงินยวงอยู่ใต้ชุดควบคุมอุณหภูมิ กดแค่ครั้งเดียวเครื่อง 2.0 ลิตร ในรุ่น 45TFSi ก็ติดขึ้นมาอย่างว่าง่าย เครื่องยนต์ในรอบเดินเบาเงียบใช้ได้ รอบเครื่องนิ่งสนิทเพราะผ่านการวิ่งมาไม่มากแค่ 3,000 กิโลเมตร หลังจากขับฝ่ารถติดในย่านกาญจนาภิเษก จนถึงแยกพระรามสอง ผมขับพาเจ้า A4 ตัวถังแวกอนรุ่นปรับโฉมออกทางไกลไปยังจังหวัดเพชรบุรี ลากยาวไปจนถึงอุทยานสามร้อยยอด เมื่อขับไปได้ไม่ไกลนักคุณก็จะรู้สึกได้ถึงความดีงามของรถคันนี้ แม้จะยัดยางแก้มเตี้ยแค่ Series-35 ซึ่งทำให้ต้องระวังหลุมบ่อมากเป็นพิเศษ แต่พัฒนาการที่โดดเด่นของระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่างดีขึ้นเห็นๆ ถึงแม้ว่ายางจะอยู่ห่างจากผิวถนนไม่มาก A4 กลับซับแรงสะเทือนได้อย่างสุดยอด ยางแก้มเตี้ยขนาดนี้ ยังขับสบายไม่กระเทือนซาง ถือว่าเซตช่วงล่างมาดีงามมาก A4 ใหม่รุ่นปรับโฉม ขับได้ดีกว่า A4 รุ่น ตัวถังแวกอนอยู่นิดๆ ชัดเจนมากในเรื่องการปรับเซตที่แตกต่างกันนิดๆ ประตูฝาท้ายบานที่ 5 ทำให้ Audi เซตค่าของช่วงล่างแตกต่างจากรุ่น 4 ประตูเพราะ Avant มีน้ำหนักมากกว่า รุ่น 4 ประตูในไทยยังคงไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่ขับได้สูสี หรือดีกว่า BMW Series-3 กับ Mercedes-Benz C Class เป็นการบ้านที่ Audi Thailand จะต้องแก้ลำด้านยอดขายด้วยการเพิ่มศูนย์บริการให้ครอบคลุม รถนั้นดีอยู่แล้วแค่สร้างความมั่นใจเพิ่มให้กับลูกค้าใหม่เท่านั้น 

ใครที่ขับยางแก้มเตี้ย Series 35 ก็ควรที่จะต้องใช้ความระวังให้จงหนัก A4 Avant Facelift กับล้อลายสวยขอบ 19 ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังสอดส่ายสายตาหาหลุมเพื่อืที่จะหลบได้ทัน การตกหลุมแรงๆ บนยางแก้ม 35 มีสิทธิที่จะทำให้ทั้งล้อ Audi Sport และยางราคาแพงจบเห่ลงได้ การเซ็ตรถที่ดีงามของแบรด์สี่ห่วงก็คือ แม้ว่าจะใส่ยางแก้มเตี้ยพอๆ กับรถแข่งแต่ขับแล้วไม่สะเทือนหรือกระด้างจนน่ารำคาญ กันสะเทือนช่วยซับแรงสั่นสะเทือนจากผิวถนนที่ไม่เรียบได้ดี (มาก) ผสมผสานกับ Dynamic ที่ดีงามของ Audi ทำให้A4 Avant Facelift เป็นรถที่ทรงตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ขอใช้คำนี้เพราะมันดีเกินหน้าเกินตารถคู่แข่งในจุดของระบบรองรับเมื่อเทียบกันหมัดต่อหมัด เมื่อลองขับทั้งในและนอกเมืองโดยเฉพาะทางบนไฮเวย์ข้ามจังหวัด ช่วงล่างให้ความรู้สึกทั้งหนึบและนิ่ม อย่างที่บอกว่าต้องระวังยาง series-35 ที่เป็นยางแก้มโคตรจะเตี้ยให้ดี ล้ออัลลอย Audi Sport ขอบ 19 นิ้ว ลายก้าน ห่อรัดด้วยยางสปอร์ต continental เป็นยางสปอร์ตเกรดสูงที่สามารถทำความเร็วได้อย่างสบายๆ จากลายดอกยางแบบสปอร์ตและเนื้อยางแนวนิ่มเงียบ แต่จะให้ดี ขอเป็น Pilot Sport4s จะดีกว่านี้อีกเยอะ  

โหมดบริหารเชื้อเพลิงเน้นประหยัดหรือ Efficiency ใน new A4 Avant  Facelift เป็นการขับที่เน้นประหยัดเชื้อเพลิง ECU ที่ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ จะจัดคันเร่งที่นวลๆ ไหลขึ้นไปชิลๆ โดยไม่มีอาการกระโชกโฮกฮากโผล่มาให้รู้สึก ระบบส่งกำลังซึ่งเป็นเกียร์ออโต้ขับเคลื่อน 4 ล้อ S-Tronic 7 สปีดพยายามดันขึ้นสู่เกียร์สูงอย่างรวดเร็วเพื่อลดการใช้รอบสูงที่อาจตามมาด้วยการซดเชื้อเพลิง ส่วนโหมด Comfort เป็นโหมดพื้นฐานที่ใช้ขับแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ จะเร็วก็ได้จะช้าก็คล่อง คันเร่งตอบสนองดีพอประมาณ แต่ถ้าเกิดคันยิกๆ ขึ้นมาก็แค่กดปุ่ม audi drive select ข้ามจาก auto ไปที่โหมด Dynamic คันเร่งจะปรับตัวเองให้มีสัมผัสที่ไวปานสายฟ้าแลบ อาการรอรอบหรืออาการแลคของเทอร์โบมีแค่แวบเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นแรงบิดทั้งหมดก็จะถูกปลดปล่อยออกมาลงสู่ล้อขับเคลื่อนทั้ง 4

ออกตัวเร็วๆ ในโหมด Dynamic ให้ความรู้สึกแปลกๆ แรงดึงจากเครื่องยนต์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมถึงสปีดความเร็วที่ทะยานผ่าน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอย่างรวดเร็ว จากตัวเลข 0-100 แค่ 6 วินาทีเท่านั้น แต่ A4 ตัวถังแวกอนกลับให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายแม้จะขับเร็วจี๋ A4 Avant ยังเป็นรถที่มีช่วงล่างนิ่มนวลและหนึบแน่นไปพร้อมๆ กัน นอกจากยางแก้มเตี้ยที่จะออกอาการกระด้างบ้างเวลาเจอกับผิวถนนขรุขระ แต่บนถนนเรียบมันคือเทพแห่งการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง ทำให้นึกถึงการเซตช่วงล่างที่ให้สัมผัสสุดยอดของ Audi A6 45TFSi Quattro ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องใช้ระบบถุงลม มันมีให้คุณทั้งแรงยึดเกาะ ความสบายและความเฉียบคม!

Audi A4 Avant เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นความสมมาตร เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ วางตามยาว เพื่อทำให้ตัวเลขการกระจายน้ำหนักมีความสมดุล เครื่องยนต์ตัวเล็กกะทัดรัด ถูกวางร่นไปชิดกับผนังห้องเครื่องเพื่อกระจายน้ำหนัก เป็นเครื่องเบนซินแถวเรียงขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ รหัสรุ่น 45TFSi ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,984 ซีซี กำลัง 249 แรงม้า พร้อมแรงบิด 370 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro กลายเป็นพลวัตสำคัญของ new A4 Avant 45TFSi กลไกในระบบ Quattro เป็นหัวใจที่เข้ามาช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของการยึดเกาะ ปรุงแต่งความเสถียรและการทรงตัวในทุกย่านความเร็วด้วยการถ่ายเทแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่ ดยเฉลี่ยแรงบิดผกผันตลอดเวลาเพื่อสร้างความสมดุล

อุปกรณ์ตกแต่งแนวสปอร์ตของ S-Line  Black Edition นอกจากความดุและความสวยงามของชิ้นงานแล้วก็ยังเข้ามาเสริมในด้านสมรรถนะของการขับเคลื่อน ตัวอย่างที่สำคัญก็คือล้อและยางคุณภาพสูง แรงบิดที่ปล่อยลงล้อทั้ง 4 ก็ไม่ได้โหดร้ายเหมือนรถ Audi ตระกูล RS ที่ยัดเครื่อง V6 เทอร์โบคู่ เครื่องยนต์ 2 ลิตรอัดโบพร้อมระบบไฮบริดจิ๋วที่ใช้ไฟฟ้าขนาด 12V เครื่องยนต์ถูกปรับให้ทำงานจัดจ้านแต่ดึงนิ่มแบบรถผู้ดี พร้อมความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว A4 จะทำให้คุณเพลินกับการใช้ความเร็ว ประโยชน์ที่ได้รับจากการลดขนาดและน้ำหนักของเครื่องยนต์ตัวนี้ก็คือพลังในการเร่งความเร็ว อัตราสิ้นเปลืองในโหมดสูงสุด Dynamic ทำออกมาได้ 9.98 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นการขับแบบใช้คันเร่งต่อเนื่องยาวนานบนถนนโล่งๆ

การควบคุมที่ง่ายดายในย่านความเร็วสูง new A4 Avant Facelift ส่งผ่านมาทางแชสซีและชุดบังคับเลี้ยว นี่คืองานวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงของพวกเยอรมันที่ทำให้ผมหรือใครที่ได้ลองขับรู้สึกประทับใจ มันเกาะถนนหนึบแน่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่กลายเป็นตำนานของค่าย 4 ห่วง จากการถือกำเนินระบบขับเคลื่อนจากสนามแข่งแรลลี่โลก เสียงเครื่องยนต์เบนซินตัวเล็กออกแนวสุภาพ จากการเก็บเสียงที่เงียบใช้ได้ และไม่เน้นการทำตัวเป็นรถวัยรุ่นที่ชอบส่งเสียงคำรามของท่อระบายท้ายไปตลอดทาง ท่อระบายท้ายฝั่งละท่อให้เสียงที่เงียบกว่าเดิม ซึ่งค่อนข้างจะขัดแย้งกับรูปทรงแบบสปอร์ตแวกอน แม้จะกระแทกคันเร่งให้หนักข้อกว่าเดิม เสียงเครื่องในรอบสูงก็ยังออกมาในแนวรถยนต์ของสุภาพชนอยู่ดี มันเป็นรถที่ขับได้ดีงามบนไฮเวย์เรียบๆ อาจสะเทือนบ้างเมื่อเจอกับทางที่ไม่เรียบแต่ก็ผ่านไปได้อย่างสบาย โหมด Dynamic ไม่ได้ทำให้เสียงท่อท้ายดังขึ้นกว่าเดิม แต่ที่เติมเข้ามาก็คือการตอบสนองที่ว่องไวบวกความเร็วที่ไหลขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวงมาลัยหนักขึ้นเล็กน้อยเพื่อเตรียมความพร้อมให้สอดรับกับความเร็วที่เพิ่มขึ้น เป็นรถที่ขับได้สนุกแต่ไม่ได้เน้นอารมณ์สปอร์ตจากทรงของตัวถัง คล้ายกับการเอารถแม่บ้านมาแต่งจนดุ ทำให้น่าใช้น่าขับไม่ดูสูงวัยแต่อย่างใดทั้งสิ้น 

เครื่องยนต์ 45TFSi มีแรงบิดที่ถูกเทออกมาตั้งแต่ 1,600 รอบต่อนาที และจาก 3,500 รอบต่อนาทีเป็นต้นไป ความเร่าร้อนก็จะกระหน่ำออกมาทั้งแรงดึงและความเร็วที่ไต่ขึ้นไปจนต้องยกคันเร่ง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบเดี่ยวตัวนี้มีขนาดเล็กและเบา ทำให้ new A4 Avant เป็นรถที่ขับได้ง่าย แถมยังคล่องแคล่วว่องไวในที่คับแคบ แรงบิด 370 นิวตันเมตร ไม่ได้ทำให้ A4 Avant เร็วแบบดุเดือดเลือดพล่านเหมือน RS4 ที่วางเครื่อง V6 แต่ก็ไม่ได้ช้าจนทำให้รู้สึกแย่กับเงิน 3.3 ล้านที่ต้องจ่าย คุณสามารถกะระยะแซงได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลว่ามันจะเร่งไม่ขึ้น โหมด Dynamic ที่จัดการตอบสนองในระดับสูงสุดของทุกระบบ ทำให้แรงบิดถูกเทออกมอย่างยาวนาน อย่างที่เคยบอกว่ามันไม่ได้เป็นเครื่องยนต์สายดึงหนักหน่วงเหมือนตระกูล S หรือ RS แต่ก็เหลือเฟือต่อการใช้งาน โดยเฉพาะวันที่รีบเร่งเมื่อขับออกทางไกลไปต่างจังหวัด

กำลังสูงสุดอยู่ในย่าน 4,500 รอบต่อนาที แต่สามารถลากขึ้นไปจนสุดที่ 6,800 รอบต่อนาที อาจดูเหมือนไม่ค่อยจะแรงเท่าที่ควร แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะเครื่องยนต์ 2 ลิตรติดเทอร์โบจะกระทุ้งกำลังออกมาอย่างเต็มเหนี่ยวทันทีที่รอบเครื่องยนต์ทะยานผ่าน 3,000 รอบต่อนาที ความฉับไวของคันเร่งและการถ่ายเทน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าคุณจะเข้าโค้งให้เร็วขึ้นหรือใช้เบรกหนักๆ เพื่อชะลอความเร็ว การขับที่ดีงามของ A4 รุ่นแวกอนจะทำให้คุณหลงรักมันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ระบบเบรกของ A4 Avant 45TFSi เนื่องจากมีน้ำหนักตัว 1.5 ตัน ไม่ได้หนักอะไรมากแต่แรงม้า 249 ตัว ทำให้วิศวกรของ Audi เลือกใช้คาร์ลิปเปอร์หน้าแบบ 4 พอต ซึ่งมีประสิทธิภาพในการจับเฉียบขาด พร้อมการถ่ายเทน้ำหนักขณะเบรกที่ดี สามารถชะลอความเร็วด้วยการกดเท้าลงไปบนแป้นเบรกตามใจชอบ ความเสถียรขณะใช้เบรกหนักๆ ทำให้ควบคุมทิศทางได้ดั่งใจ รวมถึงอาการของรถที่นิ่งและตั้งตรงขณะเบรก หน้าไม่ยุบท้ายไม่ยกและไม่ส่ายไปส่ายมาหรือเป๋ปัดเมื่อลงเบรกแบบกระเทือบเต็มเหนี่ยว แตกต่างจากการใช้เบรกหนักๆ ในรถขับเคลื่อนล้อหน้าอย่างชัดเจน แป้นเบรกมีน้ำหนักที่เป็นธรรมชาติและไม่ทำให้รู้สึกว่าเบรกไม่อยู่ ขอแค่เผื่อระยะเบรกให้ดีๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เบรกของ A4 ทำงานได้สอดคล้องกับสมรรถนะของระบบส่งกำลัง แค่เบรกล่วงหน้าสักนิดหากห้อมาเต็มเหนี่ยว ระบบเบรกที่ดีของ A4 Avant ช่วยทำให้รู้สึกมั่นใจและอยากจะไปให้เร็วกว่าเดิม เบรกสี่พอต ถ้าทำสีมาซะหน่อยจะหล่อกว่านี้อีกเยอะ

 โหมดสูงสุด Dynamic ให้ตอบสนองรวดเร็วที่สุด โหมด Comfort เป็นโหมดพื้นฐานสำหรับการขับใช้งานทั่วไป ลื่นไหล และมีความต่อเนื่องจาการทำงานของเกียร์ S Tronic พวงมาลัยไฟฟ้าปรับน้ำหนักไปตามความเร็วแม้ การคาอยู่ในโหมดสูงสุดทำให้พวงมาลัยต้องปรับน้ำหนักแน่นขึ้นมาอีกนิด แต่ถ้าขับช้าพวงมาลัยก็ผ่อนให้จนจะเบาสบายมือ เป็นชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้า ที่มีการปรับตั้งมาเป็นอย่างดี และช่วยทำให้การควบคุม A4 Avant ในย่านความเร็วสูงออกมาในลักษณะเชื่องไม้เชื่องมือ แม่นยำ มีน้ำหนักที่เป็นเลิศ ส่วนโหมด Auto เหมาะกับการขับยาวๆ ออกทางไกลบนไฮเวย์ ด้วยความที่เป็นรุ่นมาตรฐานไม่ใช่ RS และมีกำลังแค่ 249 แรงม้า พวงมาลัยของ A4 จึงไม่หนักเหมือนกับ RS4 ที่มีแรงบิดมากกว่าเยอะ

Audi A4 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition ราคา 3,399,000 บาท 

A4 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition