ตำรวจเข้ม ทริปแก๊งน้ำไม่อาบตะลุยเขาค้อ จับรถกว่า 200 คัน ทั้งผิดพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับขี่ไม่ได้รับอนุญาต อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบฯ ย้ำขับรถต้องเคารพกฎจราจร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน
วันที่ 13 พ.ย. 65 เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ผอ.ศปข.ตร.) และพล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผอ.ศปข.ตร. ได้สั่งการ พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ ดำเนินการดูแลความเรียบร้อย กวดขันวินัยจราจร ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง กรณีกลุ่มรถจักรยานยนต์แก๊ง “น้ำไม่อาบ” ออกทริปในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ตามที่ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ เป็นการชักชวนออกทริปของกลุ่ม มีการนัดหมายรวมตัวกันของกลุ่มวัยรุ่นผู้ที่ชื่นชอบในการขับขี่รถจักรยานยนต์จากหลายพื้นที่ จุดหมายปลายทางไปร่วมกันทำกิจกรรมที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทางของ ศปข.ตร. ในพื้นที่ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางที่ทำกิจกรรม เพื่อเข้มงวดกวดขันตั้งด่านสกัดกดดันกลุ่มผู้ขับขี่ดังกล่าว ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนตลอดเส้นทาง ซึ่งมีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ ได้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เส้นทางสายหลัก (ทล.21 และ ทล.12) 6 จุด เส้นทางสายรอง 14 จุด จับกุม ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ และ พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ไม่สวมหมวกนิรภัย 72 รายขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต 135 ราย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน 98 ราย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 84 ราย ไม่ชำระภาษีประจำปี 42 ราย ฝ่าฝืนป้ายจราจร (ย้อนศร) 8 ราย เปลี่ยนแปลงตัวรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียน 93 ราย รวม ผิดพ.ร.บ.รถยนต์ฯ 295 ราย และพ.ร.บ.จราจรทางบกฯ 257 ราย ตรวจค้นรถยนต์ 305 คัน และ ตรวจค้นรถจักรยานยนต์ 542 คัน
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือมายังกลุ่มดังกล่าวในเส้นทางขากลับภูมิลำเนาให้ขับขี่ด้วยความปลอดภัย เคารพกฎจราจร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยระหว่างเส้นทาง หากพบเบาะแสการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งมายัง ศปข.ตร. ได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือถ่ายคลิปวิดีโอส่งมาทาง เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะมีเงินรางวัลนำจับ 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมผู้กระทำผิดได้.