ลองของใหม่ ทดสอบรุ่นปรับปรุง AUDI TT COUPE 45TFSI QUATTRO S LINE – ไทยรัฐ

ของเล่นที่ใช้งานได้จริง ACTIVE REAR WING เมื่อความเร็วเกิน 120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง วิงหลังไฟฟ้าของ TT ก็จะยกตัวขึ้นแบบอัตโนมัติเพื่อสร้างแรงกดส่วนท้าย และจะพับเก็บทันที เมื่อความเร็วต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ไม่ยักจะมีฟังก์ชัน เบรกหนักแล้วปรับยกวิงด้วยมุมสูงแบบแฟลบของเครื่องบิน เพื่อสร้างแรงต้านทานอากาศช่วยเบรก!!) Audi ยังรู้ใจพวกชอบเท่ ด้วยการทำสวิตช์แยกสำหรับกดเพื่อสั่งให้วิงยกคาเอาไว้แบบนั้นได้เหมือน MINI Cooper S Coupe

ห้องโดยสารของรถสปอร์ตคันเล็กจากค่าย Audi ต้องไม่สร้างความจำเจ ช่วยสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมแปลกใหม่ตลอดเวลาที่ขับขี่ แบรนด์ Audi ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีคือค่ายรถเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยี Virtual Cockpit พร้อมระบบ MMI มาใช้งานในรถสปอร์ตรุ่น TT ช่วยให้ห้องโดยสารยุคใหม่มีปุ่มควบคุมที่ลดลงช่วยลดภารกรรมของคนขับในการปรับตั้งค่าต่างๆ ระบบรับคำสั่งแบบ Voice Command รับคำสั่งด้วยเสียงแบบง่ายๆ Virtual Cockpit จาก Audi พัฒนาโดย Andre Ebner โดยย่อหน่วยความจำในส่วนของสมองกลไฟฟ้าที่ใช้ควบคุมให้เล็กลงเพื่อใช้งานในรถยนต์รุ่นใหม่ การออกแบบภายในและจัดวางอุปกรณ์ที่เน้นความเท่ เคร่งขรึมด้วยโทนสีเทาดำตัดกับวัสดุอัลลอยสีเงิน คอนโซลแดชบอร์ดเดินเส้นสายโปร่งเบาพลิ้วไหว ช่วยสื่อความเป็นรถสปอร์ตของ New TT ได้เป็นอย่างดี

ดีไซน์ภายในห้องโดยสารใช้เส้นแนวนอนผสมกับวัสดุชั้นดีที่มีพื้นผิวหลากหลายห้องโดยสารส่วนหน้าเน้นความกว้างขวางเช่นเดียวกับการออกแบบภายนอก ส่วนของคอนโซลกลางที่เชื่อมโยงงานใช้งานอุปกรณ์โดยกำหนดให้ตำแหน่งคนขับเป็นจุดศูนย์กลางของการใช้งานอุปกรณ์ภายใน การออกแบบตำแหน่งของท่านั่งขับที่ดีช่วยรับน้ำหนักขาขณะขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เบาะโดยสารแบบใหม่หุ้มด้วยหนัง Alcantara ห้องโดยสารของ New TT มีลักษณะเล็กกะทัดรัด ให้มุมมองลื่นไหลพลิ้วไหวต่อเนื่อง แผงหน้าปัดมาตรวัดใช้จินตนาการออกแบบให้มีรูปทรงที่มองดูคล้ายปีกของเครื่องบิน ขณะที่ช่องแอร์ทรงกลมซึ่งเป็นเอกลักษณ์คลาสสิกของรถสปอร์ตก็ยังถูกนำมาใช้ต่อในห้องโดยสารของ TT เวอร์ชันล่าสุด

จอแสดงภาพมัลติมีเดีย อินเตอร์เฟส (MMI Screen) เป็นจอภาพเดี่ยวที่ให้ความคมชัด แม้จะขับท่ามกลางแสงแดดจัดจ้า งานออกแบบที่ล้ำสมัยผสมผสานกันจนออกมาเป็นจอแสดงผลดิจิทัล ผลการตั้งค่าต่างๆ จะแสดงบนจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าปัดมาตรวัดแบบ Virtual Cockpit ของ New TT ถูกควบรวมอยู่ในจอภาพเดียวเพื่อลดภารกรรมในการมองของคนขับ มีลักษณะเหมือนกับแผงมาตรวัดในรถต้นแบบหรือรถอนาคตเพื่อสร้างบรรยากาศที่มีความทันสมัยน่าใช้งาน เป็นการผสมผสานหน้าปัดมาตรวัดที่แสดงผลความเร็ว รอบเครื่องยนต์ อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ ผนวกรวมเข้าไว้กับระบบ Infotainment เช่น ระบบนำทางด้วยดาวเทียม ระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์หรือมัลติมีเดีย โดยทำการแสดงผลผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 12.3 นิ้วที่อยู่ตรงหน้าผู้ขับ การออกแบบให้มีแค่จอภาพเดี่ยว ที่แสดงผลระบบขับเคลื่อนและการปรับตั้งค่าทั้งหมด รวมอยู่ในจอภาพเดียว ทำให้คนขับมีจุดนำสายตาที่ขึ้นตรงกับการมองไปข้างหน้า แม้จะใช้งานค่อนข้างยากและต้องสร้างความคุ้นเคย เนื่องจากไม่มีจอกลาง แต่จอภาพ 12.3 นิ้วที่ใส่ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการมาให้ครบ ทำให้ลดขั้นตอนในการปรับตั้งที่ยุ่งยากลงไปได้เยอะ 

Audi TT Mk3 ในรุ่นท้ายๆ ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับลักษณะความเป็นรถสปอร์ต ทุกองค์ประกอบของอุปกรณ์ภายใน โดยเฉพาะปุ่มควบคุมการทำงานมีให้เลือก 2 ส่วน คือปุ่มควบคุมและเลือกเปิดใช้งานได้เกือบทุกฟังก์ชันจากพวงมาลัย โดยที่ไม่ต้องละสายตาจากถนน หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว มีความละเอียดสูงที่ 1,440 x 540 pixels ให้ภาพคมชัด ตรงขอบล่างของจอแสดงผลแบบดิจิทัล Audi virtual cockpit จะมีแถบแสดงผลถาวรสำหรับอุณหภูมิภายนอก เวลาและระยะทางนับ คำเตือนหรือสัญลักษณ์ข้อมูลต่างๆ ก็อาจปรากฏขึ้นด้วยยูนิตการควบคุม ส่วนที่สองคือระบบ MMI ที่ได้รับการพัฒนาใหม่และจัดวางไว้ตรงคอนโซลช่องกลางโดยจะมีท็อกเกิ้ลสวิตช์ 2 ตัวเพื่อเปิดระบบโทรศัพท์ วิทยุ และแถบเมนูมัลติมีเดียต่างๆ ในขณะที่ปุ่มกดสวิตช์กลางจะมีปุ่มด้านข้าง 2 อันเพื่อเข้าสู่เมนูหลักและย้อนหลัง ผู้ขับสามารถเข้าใช้งานโดยแตะแผ่นสัมผัส (touch pad) บนปุ่มกดสวิตช์ โครงสร้างของเมนู MMI คล้ายคลึงกับสมาร์ทโฟน สามารถเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญทั้งหมดได้โดยตรง New TT ยังมีจอแสดงผลแบบดิจิทัล Audi virtual cockpit ที่แสดงข้อมูลการขับขี่และระบบเครื่องมือต่างๆ เป็นกลุ่มและยังสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยกราฟิกที่ชัดเจน ผู้ขับสามารถเลือกรูปแบบการแสดงข้อมูลได้ 2 แบบ คือ Classic ซึ่งจะดึงหน้าปัดแสดงความเร็ว (Speedometer) กับหน้าปัดวัดรอบ (Rev counter) หรือ Infotainment (ข้อมูล & บันเทิง)

มาตรวัดความเร็วและวัดรอบปรับค่าการแสดงผลได้อย่างหลากหลาย ความคมชัดของจอภาพ TFT LCD คุณสามารถนำระบบนำทางด้วยดาวเทียมที่มีความละเอียดสูงมาใส่ไว้ตรงกลางมาตรวัดทั้งสอง เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบเส้นทาง หรือหากไม่ชอบก็สามารถเลื่อนเปลี่ยนได้ การปรับตั้งขนาดของมาตรวัดในจอภาพให้เป็นไปตามที่ต้องการ หรือแสดงผลจอภาพทั้งหมดด้วยระบบนำทางและกำหนดพิกัดผ่านดาวเทียม จอภาพทันสมัยขนาด 12.3 นิ้ว ในหน้าปัดมาตรวัดแบบใหม่ของ TT ยังมีลูกเล่นอื่นๆ อีกเพียบ การใช้งานท่ามกลางเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยน ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต้องคิดค้นหาวิธีผูกมัดใจคนซื้อให้อยู่หมัดด้วยของเล่นแปลกๆ ที่ทันสมัย มาตรวัดแบบ TFT หรือ thin film transistor ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในรถระดับสูง เช่น Lamborghini / Mercedes Benz / BMW / Ferrari รวมถึง Honda และ Volvo ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็พยายามสร้างสรรค์งานศิลปะที่น่าใช้งานโดยนำมาประดับประดาในรถรุ่นใหม่ด้วยการทำงานราวกับนักมายากล Virtual Cockpit ของ New TT ยังสามารถแสดงค่าต่างๆ ของตัวรถ รวมถึงการโชว์ระบบ Infotainment ด้วยความคมชัดสูงสุด หน้าปัดและแดชบอร์ดต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกถึงการควบคุมจักรกลพลังสูงอย่างแท้จริง

ฟังก์ชันอื่นๆ ใน Virtual Cockpit ของ New TT ประกอบด้วยการกดคำสั่งสั่งงานผ่านปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้ปุ่มควบคุมถูกย้ายมาอยู่ในตำแหน่งที่ช่วยทำให้การควบคุมขับขี่รถในปัจจุบันมีความปลอดภัย นอกจากปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยแล้ว New TT ยังใช้แป้นระบบสัมผัสที่กลายเป็นของจำเป็นในรถอย่าง BMW iDRIVE และ Mercedes Benz comand control แป้นควบคุม MMI ใน Audi TT วางอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับคันเกียร์เพื่อความสะดวกสบายของคนขับ สวิตช์ควบคุมแบบหมุนคล้าย iDRIVE ของ BMW ทั้งการเข้าสู่เมนูต่างๆ ด้วยความรวดเร็ว หรือใช้ในการหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อขยายจอภาพที่กำลังแสดงผลของระบบนำทาง วิศวกรของ Audi ออกแบบสวิตช์ควบคุมให้หมุนใช้งานได้ง่าย ลดฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นให้น้อยลง ผู้ขับสามารถกดเลือกหรือสั่งคำสั่งด้วยความรวดเร็วมากกว่าสวิตช์ควบคุมของ TT ในรุ่นที่ผ่านมา Audi TT 2021 ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ครบ เช่น ระบบ MMI เบรกมือไฟฟ้า (Electromechnical Parking Brake) พร้อมระบบปลดเบรกมือแบบอัตโนมัติ กุญแจรีโมต, ระบบช่วยปรับไฟสูง (high-beam assist), ระบบข้อมูล-ความบันเทิง USB / AUX การใช้งานสื่อสารไร้สายบลูทูธอินเตอร์เฟส (Bluetooth Interface) และระบบสั่งงานด้วยเสียง วิทยุเครื่องเล่น CD เล่นไฟล์ MP, AAC และ WMA พร้อมช่องจอแสดงผล Audi virtual cockpit ชุดเครื่องเสียง ประกอบด้วยเพาเวอร์แอมป์ และลำโพง 9 ตัว ระบบช่วยเหลือต่างๆ ช่วยให้การขับ TT มีความสะดวกสบาย เพื่อสร้างความรู้สึกถึงการควบคุมจักรกล เป็นอีกก้าวหนึ่งของ Audi ที่จะไม่หยุดนิ่งอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน

Cockpit ที่เรียบง่ายแต่ทันสมัยของ TT มีดีไซน์ที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมโยงกับคนขับเกือบทั้งหมด พวงมาลัยสามก้านแบบฐานตัดทรงรถแข่งที่มีก้านวงสามก้านอย่างเท่ทำจากอัลลอย หนังแท้และพลาสติกเกรดสูง คอนโซลโฟมฉีดขึ้นรูปหุ้มด้วยวัสดุพวกหนังสังเคราะห์ ภายในกรุด้วยแผ่นป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก ช่องแอร์ทรงกลมสามช่องที่เรียบง่ายแต่ดูดีด้วยพลาสติกและงานกรุขอบสีเงิน ดีไซน์ของ Virtual Cockpit ใน TT เป็นงานออกแบบที่ชาญฉลาด ช่วยลดปัญหาในเรื่องความสับสนของปุ่มและสวิตช์ต่างๆ การนำเอาคุณลักษณะของ Cockpit อากาศยานมาปรับใช้บริเวณกึ่งกลางแดชบอร์ดที่ทำให้มองคล้ายกับปีกของเครื่องบิน พวงมาลัยมีการออกแบบที่สอดคล้องไปกับหน้าปัดมาตรวัด ช่วยทำให้ทัศนวิสัยโปร่งโล่ง วิศวกรของ Audi พัฒนาถุงลมนิรภัยให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม 40% ทำให้แป้นทรงกลมตรงกลางวงพวงมาลัยที่ใช้บรรจุถุงแอร์แบ็กมีขนาดเล็กและสมส่วนมากยิ่งขึ้น แป้นเปลี่ยนเกียร์หลังวงพวงมาลัย Paddle Shift ให้สัมผัสในการใช้งานที่เน้นความแน่นและมั่นคง รวมถึงยังมีระยะของการกดกระชับมากขึ้นอีกด้วย

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบบ deluxe ที่มีแผงควบคุมวางตัวในแนวนอนนั้นถูกติดตั้งใต้ช่องแอร์ตรงกลางพร้อมระบบควบคุมการขับขี่ Audi Drive Select และระบบฟังก์ชันช่วยเหลือต่างๆ เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตของ Audi TT ใช้พนักพิงศีรษะแบบรวม (integrated head restraints) และอยู่ในตำแหน่งค่อนต่ำลงกว่ารถรุ่นก่อน น้ำหนักของเบาะเบาลงมากกว่าของรถ TT รุ่นก่อนถึง 5 กิโลกรัม พวงมาลัยพร้อมสวิตช์ควบคุมแบบใหม่ที่มาพร้อมระบบปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆ เดินเส้นขอบตัดและหุ้มหนังแบบสปอร์ต 3 ก้าน มีการใช้งานโลหะพวกอะลูมิเนียมมาประดับประดาเพื่อยกระดับของความหรูหราน่าใช้งาน แม้ว่ารถ Audi New TT จะมีเบาะนั่งแบบ 2+2 ที่นั่งซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันและมีช่องเก็บสัมภาระด้านหลังที่กว้างถึง 305 ลิตร มากกว่ารุ่นก่อนถึง 13 ลิตร แต่เบาะหลังมีพื้นที่คับแคบไม่เหมาะกับการนั่งยาวๆ สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระสามารถเพิ่มพื้นที่ได้หากพับเบาะนั่งด้านหลังราบลงกับพื้น เบาะผู้โดยสารตอนหลังที่เล็กและคับแคบเหมาะกับเด็กเล็กมากกว่าผู้ใหญ่หรือเอาไว้วางของจะดีกว่านั่งโดยสารกันไกลๆ

Audi TT รุ่น 45TFSI Quattro มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังเพิ่มขึ้นจาก 230 แรงม้า มาเป็น 245 แรงม้า ที่ 4,500-6,200 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงยิงตรง TFSi ไดเรคอินเจคชั่น พร้อมระบบวาล์วแปรผัน AVS (AUDI Valve lift System) ปรับองศาของวาล์วไอเสีย เครื่องยนต์อัดอากาศด้วยเทอร์โบ แรงบิดสูงสุดยังคงเท่าเดิมที่ 370 นิวตันเมตร ในย่าน 1,600-4,300 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ S-Tronic 6 สปีด พร้อมกลไกคลัตช์คู่ ระบบเกียร์แบบคลัตช์คู่หรือใช้คลัตช์ 2 ชุดช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ออโต้ 6 สปีดมีความว่องไวและไหลลื่น สามารถปรับโหมดการควบคุมจากระบบออโต้ไปเป็นแบบเกียร์ธรรมดาได้ด้วยการผลักคันเกียร์ไปทางซ้ายแล้วชิฟเกียร์ด้วยตำแหน่ง +/- หรือชิฟผ่านแป้น Paddle Shift ที่หลังวงพวงมาลัย สมรรถนะของเครื่องยนต์ 2 ลิตรเทอร์โบกับเกียร์ 6 สปีดและระบบขับเคลื่อนทุกล้อทำให้ Audi TT 45TFSI มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.2 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ในรถสปอร์ต Audi TT ชุดขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ช่วยเสริมเสถียรภาพและกระจายแรงบิด ระบบขับเคลื่อนทุกล้อจาก Audi ฝากผลงานไว้มากมายในวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น การปรับปรุงชุดขับ 4 ล้ออย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะระบบคลัตช์แบบหลายแผ่นที่ควบคุมด้วยไฮดรอลิกไฟฟ้า ติดตั้งบนเพลาท้าย ช่วยลดน้ำหนักลงราว 1.5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ การกระจายแรงบิดระหว่างเพลาล้อคู่หน้าและคู่หลังนั้นก็ถูกควบคุมโดยระบบไฟฟ้าที่รวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที อัจฉริยภาพของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro คือซอฟต์แวร์ที่เข้ามาจัดการกระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและคู่หลังอย่างแม่นยำและเหมาะสมผกผันไปตามการขับขี่อย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา 

เซนเซอร์ของสมองกลไฟฟ้าที่ใช้ในการควบคุมการทำงาน จะทำหน้าที่ตรวจสอบถึงสภาพแวดล้อม สถานะของรถขณะขับขี่ ความต้องการของผู้ขับผ่านการเชื่อมโยงกับโหมดของการขับเคลื่อน ซึ่งระบบควบคุมจะมีการคำนวณเพื่อการกระจายแรงบิดที่ดี การตอบสนองที่มีความรวดเร็ว ทำให้ผู้ขับสามารถแก้ไขควบคุมได้ในทุกสถานการณ์ เมื่อเชื่อมต่อระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro เข้ากับระบบควบคุมการขับขี่ Audi Drive Select จะทำให้ผู้ขี่สามารถปรับคุณสมบัติของการขับเคลื่อนแบบสี่ล้อตลอดเวลาให้เข้ากับความต้องการตามโหมดต่างๆ คือ “auto” รถจะกระจายแรงขับในระดับที่สมดุลลงตัว โหมด “dynamic” จะกระจายแรงบิดไปที่ล้อคู่หลังก่อนและในปริมาณมากกว่า โหมด “efficiency” การกระจายแรงบิดจะถูกปรับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอัตราสิ้นเปลืองขึ้นไปอีกระดับด้วยการเทแรงบิดลงไปที่ล้อหน้ามากเป็นพิเศษ

ระบบรองรับน้ำหนักของ Audi TT สะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมยานยนต์ของเยอรมัน ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson โครงสร้างชิ้นส่วนของจุดยึดโยงต่างๆ ทำจากอะลูมิเนียม เข้ามาช่วยลดน้ำหนักใต้สปริง (Unsprung Weight) ทั้งนี้ ระบบกันสะเทือนหลังของ TT ยังเป็นแบบโฟล์ลิงก์ (4-Link) รองรับแรงกดแนวนอน (longitudinal force) และแรงบิดแนวขวาง (transverse force) อย่างเป็นอิสระแยกจากกัน สำหรับชุดบังคับเลี้ยวหรือแรคพวงมาลัย ใช้แบบแรคแอนพีเนียนพร้อมพาวเวอร์ไฟฟ้า ผนวกระบบแปรผันน้ำหนักพวงมาลัย Progressive steering แบบมาตรฐานที่ช่วยเพิ่มการตอบสนองตามสภาพการขับขี่ ตัวแรคพวงมาลัยถูกออกแบบมาเพื่อการตอบสนองโดยตรงต่อระยะของการหมุน ทำให้การควบคุมเกิดความเฉียบคมแม่นยำ

Audi Drive Select จะควบคุมลักษณะการทำงานของเครื่องยนต์โดยจะมีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกระหว่างโหมด comfort, auto, dynamic, efficiency หรือ individual นอกจากนี้โหมดขับเคลื่อนยังมีอิทธิพลต่อโมดูลต่างๆ ได้แก่ เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ S tronic, ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ทั้งนี้ ในโหมด efficiency นั้น ระบบ Audi Drive Select ก็จะควบคุมไปถึงระบบปรับอากาศและระบบ Auto Start-Stop เพื่อดับเครื่องยนต์ขณะจอดหยุดนิ่งอยู่กับที่เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและลดการปล่อยไอเสีย (Start-Stop System) Audi New TT 45 TFSI คันทดสอบ มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18″ และยางรถขนาด 245/40 R17 W ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ESC (Electronic Stabilisation Control) สามารถปิดการทำงานบางส่วนหรือปิดยกเลิกการทำงานทั้งหมดได้ ช่วยเสริมการควบคุมรถในสไตล์สปอร์ตแบบสุดขั้ว เมื่อขับเข้าโค้งพร้อมกับเปิดระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมเสถียรภาพจะจัดการกับแรงบิดขณะเข้าโค้ง โดยถูกใช้งานในการผกผันแรงบิดให้สามารถกระจายจากล้อหน้าด้านโค้งในไปสู่ล้อหน้าด้านนอกโค้งเพื่อการยึดเกาะที่สมดุล ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ยังเฉลี่ยแรงบิดไปที่ล้อคู่หลังทำให้รถสามารถขับเข้าโค้งในลักษณะต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงยังทำหน้าที่ควบคุมรถแบบไถลปัดท้าย (Drifting) 

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ TFSi เมื่อปรับโหมดไปที่ Dynamic มีเสียงในรอบเดินเบาดังขึ้นมาแค่นิดเดียว ลองเบิ้ลเครื่องเล่น รอบเครื่องจะตวัดกวาดขึ้นอย่างไว เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบของ TT 45TFSi ถูกปรับให้มีการทำงานที่ว่องไวในรอบต่ำพร้อมการตอบสนองในโหมดสูงสุดที่ปรับมาสำหรับคนชอบขับเร็ว แรงม้าจาก 230 มาเป็น 245 ตัว แรงบิดยังคงเท่าเดิมที่ 370 นิวตันเมตร เหลือเฟือสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่มีการขับแบบสลับเดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้าไปตามสภาพการจราจร Dynamic Mode ใช้ขับในเมืองดูจะไม่ค่อยเหมาะ เพราะรถจะไปเร็วมากจนต้องระวังเรื่องระยะเบรก ถ้าขับเร็ว คุณจะใช้เบรกมากกว่าปกติ พอโผล่บนไฮเวย์ที่โล่งและมีพื้นที่ถนนด้านหน้ามากพอสำหรับการทำความเร็ว การใช้โหมดสูงสุดจะทำให้คุณไปได้ไวขึ้น กำลัง 245 แรงม้ามีให้ใช้ตั้งแต่ 1,600 รอบต่อนาที การลากรอบไปจนสุดที่ 6,000 รอบต่อนาที ทุกครั้งที่เกียร์เปลี่ยนขึ้นเสียงดังพรึบที่ท่อท้ายหายไป ทำให้ความบันเทิงในจุดนี้ ลดลงไปอย่างน่าเสียดาย 

เสียงเครื่อง 2 ลิตรของ Audi ที่ถูกปรับใหม่ ทำงานราบเรียบ มีความเป็นธรรมชาติ เร้าใจ ตอบสนองได้ดีเกือบทุกโหมดและไม่ดังจนแสบแก้วหู มันเบากว่าการระเบิดพลังงานของ TT เวอร์ชัน 230 แรงม้า ที่ผมเคยทดสอบเมื่อปีที่แล้ว เสียงระเบิดปุปุที่หายไป การออกตัวอย่างรวดเร็วจากจุดหยุดนิ่งมีอาการทอร์คสเตียร์หรืออาการดึงขืนที่พวงมาลัยน้อยมาก ไม่เหมือน MINI Cooper JCW ที่มีอาการขืนตัวของพวงมาลัยเมื่อออกตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก TT เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ความเสถียรขณะเร่งความเร็ว แม้ฐานล้อจะไม่ยาวมาก แต่ชุด Quattro ช่วยทำให้การเทแรงบิดมีความสมดุล มันเร่งได้เร็วและใช้เวลาจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.2 วินาที เร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิมที่ทำได้ 5.3 วินาที ถือว่าเร็วใช้ได้ สำหรับรถสปอร์ตที่มีความจุแค่ 2 ลิตร เมื่อเปรียบเทียบกับ TT เจนเนอเรชั่นที่ 3 ก่อนการปรับปรุง รถ TT รุ่นใหม่นั้นเร่งและเข้าโค้งได้สมดุลมากกว่าเดิม ซึ่งก็เกิดขึ้นจากการปรับปรุงองคาพยพในส่วนของเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยว ให้มีการทำงานที่สัมพันธ์และราบรื่นมากยิ่งขึ้น

ขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบา ทำให้มันวางตัวเองอยู่ตรงกลางระหว่าง E-Coupe รุ่นปรับโฉมและ New Series-4 โดยมีคู่แข่งที่มีราคาพอๆ กันอย่าง MINI JCW อัตราเร่งที่รอบสูงยังสร้างความเร้าใจเหมือนเดิม กำลังของรถอยู่ในเกณฑ์พอดี ไม่ได้รุนแรงมากเหมือน TTS เหมาะสมกับสภาพถนนทดสอบที่เป็นทางหลวงชนบทแคบๆ สองเลนสวน ช่วงล่างแบบสปอร์ตของ TT รุ่นใหม่ เซตค่าตายตัวมาจากโรงงานปรับระดับความแข็ง-อ่อนอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขับไปปรับไป เนื่องจากช่วงล่าง ล้อยาง และชุดบังคับเลี้ยวของมันถูกปรับจูนจนลงตัวอย่างที่สุดแล้ว ค่าการยืดยุบของสปริงและโช้คอัพถูกปรับตั้งจากช่างมือชั้นเซียนของ Audi Sport ผนวกกับแชสซีที่ลงตัวคล้ายกับ Porsche Cayman ทำให้การตอบสนองในการเร่ง เลี้ยว เบรก มีความว่องไวคล่องและพุ่งทะยานได้อย่างที่รถสปอร์ตคันเล็กควรจะเป็น

เมื่อกดคันเร่งอย่างต่อเนื่อง จนเข็มวัดรอบในมาตรวัด TFT กวาดผ่าน 3,000 รอบต่อนาที เครื่อง 2 ลิตรเทอร์โบ จะส่งแรงบิดที่กลายเป็นแรงดึงสนุกๆ ออกมา ทำให้ TT พุ่งลิ่วๆ ไปข้างหน้า พร้อมอัตราเร่งและเสียงคำรามของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร TFSI ที่หวานหู (แต่ไม่ดังมาก) แรงม้าสูงสุดมาที่ 4,500 รอบ แต่คุณสามารถลากมันจนถึง 6,000 รอบหรือมากกว่านั้น รอบปลายๆ กำลังออกมาแค่ไหลๆ ไม่กระชากจนสุดรอบเหมือน TTS ระบบห้ามล้อแสนจะธรรมดาของมันก็พอจะเอาอยู่ถ้ารู้จักการกะระยะเบรกให้ปลอดภัย แต่นักเลง TT ส่วนใหญ่ที่ชอบขับเร็วแล้วซื้อรุ่นธรรมดาก็มักจะเอาไปเปลี่ยนเป็นเบรกประสิทธิภาพสูงเพื่อความมั่นใจในการเบรก สำหรับเบรกจากโรงงานมันก็ดีในระดับหนึ่ง อย่างที่บอกว่าถ้าชอบขับเร็วก็ควรจะมีเบรกที่ดีสำหรับการหยุดฝูงม้าอย่างรวดเร็ว บางคันถึงกับเปลี่ยนไปใช้คาร์ลิปเปอร์เบรกแบบ 6 พอตหน้า 4 พอตหลัง แต่แบบหน้า 4 หลัง 2 ก็เหลือจะอยู่ หรือถ้าขับปกติไม่ได้ซิ่งหรือมุดอะไรมากมาย เบรกเดิมๆ จากโรงงานก็เอาอยู่แม้คาร์ลิปเปอร์จะดูไม่ค่อยเข้ากับราคาของรถแต่ก็เป็นเบรกที่มีประสิทธิภาพใช้ได้

ระบบส่ง จากที่เคยใช้เกียร์ 6 สปีด ซึ่งเป็นเกียร์ออโต้ที่มีคลัตซ์ 2 ชุด พอมาถึงรุ่นปรับปรุง มีการเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ S Tronic 7 สปีด พร้อมคลัตช์สองชุดเหมือนเดิม โดยมีการปรับอัตราทดมาอย่างลงตัวเพื่อให้เข้ากับแรงม้าที่เพิ่มขึ้น เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีด ตอบสนองเร็วในโหมด Dynamic มันจะคาเกียร์ 3-4 นานเป็นพิเศษ คล้ายการขับแบบขับลากรอบเพื่อสร้างอัตราเร่งและมีการเตรียมความพร้อมในการทดขึ้นสู่เกียร์สูงอย่างว่องไว Paddle Shift ใช้งานได้จริงและเร็วจากการปรับแต่ง ECU ที่คอยควบคุมการทำงานของชุดเกียร์ซึ่งต้องพ่วงต่อกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ระยะเวลาของการเปลี่ยนเกียร์ในตำแหน่ง D แต่ละจังหวะไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก ให้ความรู้สึกที่ลื่นไหล เกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 สปีดทำงาน 3 ระดับคือ D ขับแบบปกติเกียร์เปลี่ยนไปตามรอบเครื่องอย่างเนียน ส่วนตำแหน่ง S เมื่อดึงคันเกียร์เข้าหาตัวมันจะปรับให้มีการลากเกียร์นานขึ้น และเมื่อผลักคันเกียร์ไปทางซ้ายระบบเกียร์อัตโนมัติของ TT จะเข้าสู่โหมด Manual ที่ใช้การเปลี่ยนเกียร์ผ่านแป้น Paddle หรือใช้วิธีโยกคันเกียร์ในตำแหน่ง +/- มันสามารถชิฟเกียร์จาก 7 ลงไปที่เกียร์ 5 อย่างเร็วจนรอบเครื่องแทบจะทะลุขีดแดง! การตอบสนองของอัตราทดที่มี 7 เกียร์ บนเส้นทางภูเขาผสานไปกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะทำให้คุณเพลิดเพลิน เกียร์ใหม่ทำงานเรียบเนียน ในโหมดสูงสุดหรือ Dynamic ยังฉลาดพอที่จะช่วยลดเกียร์ให้เมื่อใช้เบรกหนักๆ

Quattro ทำงานได้ดีบนเส้นทางภูเขาที่มีโค้งวกไปวนมา ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสลับสับเปลี่ยนผกผันแรงบิดไปยังล้อแต่ละข้างของ Audi เป็นการทำงานสลับไปมาระหว่างการขับเคลื่อนล้อหน้าและการขับเคลื่อน 4 ล้อแค่เสี้ยววินาที มีกลไกที่สามารถปลด Differentail กลางออกเพื่อส่งกำลังไปที่ล้อหน้า ใช้ชุดคลัตช์หนึ่งคู่ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ที่สลับซับซ้อน เป้าหมายของมันก็คือการยึดเกาะที่มีประสิทธิภาพและการประหยัดเชื้อเพลิง กำลังที่ส่งไปทางล้อหลังจะถูกใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่น ขับเร็วบนถนนที่คดเคี้ยว การเลี้ยวโค้ง การเร่งความเร็วแบบฉับพลันทันที หรือการขับบนผิวถนนที่เปียกลื่น ส่วนใหญ่ Quattro จะส่งกำลังไปที่ล้อคู่หน้า การลดความสูญเสียของพลังงานจากแรงเสียดทานและแรงต้านทำให้ Quattro ประหยัดเชื้อเพลิง ขณะที่ทำการส่งกำลังไปที่ล้อหน้า ชุดอุปกรณ์ Decoupling จะปล่อย Differentail ไม่ให้ทำงาน ป้องกันแรงเสียดทานหรือแรงต้านที่ทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ลิ่มล็อกถูกดันด้วยสปริง เพื่อให้คลัตช์จับตัวอีกครั้งและส่งกำลังไปที่ล้อหลังเมื่อระบบตรวจพบว่ากำลังเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง Multi plate clutch ติดตั้งอยู่บริเวณปลายของชุดเกียร์ ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า คลัตช์ชุดหน้าจับตัวแล้วปล่อยเพลาขับเพื่อสลับไปมาระหว่าง 2WD และ 4WD กลไกในระบบขับสี่ Quattro สามารถเฉลี่ยแรงบิดแปรผันอัตราส่วนระหว่างล้อหน้าและล้อหลังในโหมด 4WD ระบบ Quattro ตอบสนองเร็วแค่ครึ่งวินาทีในการปรับเปลี่ยนจากขับสี่ไปเป็นขับสองหรือสลับกลับมาขับสี่อย่างรวดเร็วและเนียนจนคุณไม่รู้สึกเวลามันทำงาน มันใช้เซนเซอร์ที่มีเครือข่ายซับซ้อน ดึงข้อมูลมาประเมินทั้งตัวเลขความเร็ว องศาของพวงมาลัย การเอียงตัวของรถจากองศาของหน้ายาง ระบบจะตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรจะปล่อยแรงบิดไปที่ล้อหลัง สลับไปที่ล้อหน้าหรือเทแรงบิดลงไปที่ล้อทั้งสี่แบบพร้อมๆกัน ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง 0.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา และใช้เชื้อเพลิงน้อยลง 0.2 ลิตร เมื่อเทียบกับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า

TT ใหม่ เป็นรถที่เก็บเสียงพอใช้ได้ มันมีห้องโดยสารที่ค่อนข้างเงียบและเปิดโอกาสให้คนขับได้ฟังเสียงเครื่องยนต์ที่รอบสูง ผมทดสอบบนถนนที่มีเนินเขาทอดตัวยาวเหยียดสูงต่ำสลับกับโค้งยาวๆที่สามารถทำความเร็วได้บ้าง บางช่วงมีทางตรงให้ลากจนความเร็วเกือบจะทะลุ มีโค้งให้ลองเข้าหลายรูปแบบ ทั้งโค้งแคบที่ต้องลงไปถึงเกียร์สองกับโค้งยาวๆที่ดึงได้ด้วยเกียร์สี่และเร่งออกโค้งด้วยความมาดมั่นของชุดขับสี่ Quattro พื้นถนนก็ยังมีหลายแบบทั้งทางปูนและทางลาดยาง ล้อและยางแก้มเตี้ยพอจะรับมือกับสภาพถนนในประเทศไทยได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นล้อ 19 หรือ 20 นิ้ว ความกระด้างก็จะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากขนาดความสูงของแก้มยางจะลดลงเพราะยางมีขนาดใหญ่มากกว่ายางติดรถมาจากโรงาน 

TT ใหม่ ถูกปรับปรุงมาเป็นอย่างดี สอดรับกับช่วงเวลาสุดท้ายของอายุโมเดล แก้มยาง Series 40 กับล้อเดิม แม้จะเปลี่ยนลายให้ใหม่และดูสวยงามกว่ารุ่นที่แล้ว แต่ล้อจากโรงงาน ไม่เคยเป็นล้อที่ถูกใจนักขับที่ครอบครอง TT ล้อ 18 นิ้ว กับยาง 245/40R18 แข็งแรงทนทาน แก้มยางเหมาะกับการขับบนถนนเรียบๆ โช้คอัพและสปริงแบบสปอร์ตให้ความรู้สึกถึงอารมณ์และการควบคุมแบบสปอร์ต การปรับตั้งระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่าง เพื่อทำให้สามารถหักเลี้ยว เข้าโค้ง เบรกและเร่งได้อย่างเฉียบคม เมื่อล้อและช่วงล่างทำงานผสานไปกับพวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมกลไกของชุด Quattro คุณจะขับมันเร็วขึ้นเรื่อยๆ การหักเลี้ยวทำได้ไวตามสั่ง ฟังก์ชันควบคุมระดับการตอบสนอง เมื่อปรับไปที่ Dynamic Mode พวงมาลัยทำงานเร็วขึ้น น้ำหนักที่ปรับเพิ่มหรือลดไปตามความเร็วของพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Active Steering ทำให้สามารถควงเข้าโค้งได้มั่นใจกว่ารถขับเคลื่อนล้อหน้า ซัดโหดจัดหนักบนทางตรงยาว พวงมาลัยจะหนักตึงไม้ตึงมือทำให้ไม่ต้องมานั่งแต่งทิศทางเมื่อใช้ความเร็ว เป็นพวงมาลัยไฟฟ้าที่ไม่น้อยหน้า BMW M Servotronic หรือแม้แต่ Mercedes AMG Direct steer system บางอารมณ์เมื่อขับแบบโลดโผนโจนทะยาน พวงมาลัยของ TT มีการผ่อนสั้นผ่อนยาวดีกว่านิดๆ แต่บางคนก็ชอบความแน่นอนของพวงมาลัยใน BMW หรือชอบความนวลและคมของพวงมาลัย Mercedes-Benz ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของนักขับแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน

TT ใหม่ รุ่นปรับปรุงเป็นรถสปอร์ตฐานล้อสั้นที่คล่องแคล่วว่องไว ราคาไม่แพงเท่าคู่แข่งในตลาด รวมถึงความโดดเด่นที่ยังคงเป็นรอง BMW430i M Sport ชายกลางจมูกโต หรือ Mercedes-Benz E200 Coupe AMG Dynamic เสี่ยมาดหรูที่มาพร้อมกับความสุขุมนุ่มลึก Audi TT เป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งการขับและรูปทรงของรถที่แตกต่างไปจากรถสปอร์ตคันเล็กของคู่แข่ง พลังในรูปแบบของแรงบิดใน TT รุ่นมาตรฐาน ไม่ได้โดดเด่นเท่ากับ TTRS / AMG C43 หรือ BMW M2 แต่สไตล์เล็ก เบาและโหดรวมถึงความสนุกหลังพวงมาลัยในแบบฉบับของ Audi นั้นใช้ได้กับ TT ทุกรุ่น รูปทรงและสมรรถนะของรถ ทำให้มันเป็นสปอร์ตคันเล็กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะทาง มันมีให้คุณครบในเรื่องของความเร็ว เครื่องยนต์และเกียร์ใหม่สมบูรณ์แบบ ระบบอินโฟเทนเมนท์ครบ การปรับตั้งค่าต่างๆ ถูกออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน จุดเด่นของมันก็คือไดนามิกส์ที่ดี จากการเซ็ตอัพรถไล่จาก แชสซี ช่วงล่าง ชุดบังคับเลี้ยว ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ การยึดเกาะกับถนน กลายเป็นแนวคิดและหัวใจหลักของ Quattro รุ่น Coupe มีพื้นที่เก็บสัมภาระเพียงพอสำหรับคนสองคนเมื่อเดินทางไกล พับเบาะหลังก็จะได้พื้นที่ขนของมากขึ้น สรุปว่าเป็นรถสปอร์ตคันเล็กที่น่าใช้ ปราศจากข้อบกพร่อง หลังจากที่ผมได้ลองขับ TT ทั้งหมด 5 รุ่น ในระะยะเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา นี่คือรถรุ่นสุดท้ายที่ยังคงใช้เครื่องยนต์ หลังจากนั้น TT ใหม่ ในโลกแห่งอนาคต จะถูกปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนให้กลายเป็นไฟฟ้าทั้งหมด มันยังเป็นรถที่มีคาร์แลคเตอร์และคุณสมบัติที่ชัดเจนสุดๆ เสมือนตัวแทนของมนุษย์และจักรกลที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี. 

Audi TT Coupé Technical data

TT Coupé 45 TFSI

quattro S line

แบบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซินดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง

(direct injection) และ Turbocharge พร้อมระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ

จำนวนวาล์ว 16

ปริมาตรกระบอกสูบ 1984 ซีซี.

แรงม้าสูงสุด 180 กิโลวัตต์ 245 แรงม้า ที่ 5,000-6,200 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,300 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ

ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนสี่ล้อ (quattro)

อัตราเร่ง 0-100 กม. / ชม. 5.2 วินาที

ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม. / ชม.

ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Start/stop system) 

พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า

เบรกหน้า ดิสก์เบรก

เบรกหลัง ดิสก์เบรก

พื้นที่เก็บสัมภาระ 305 ลิตร 

ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร

ล้อ 18 นิ้ว ขนาด 8.5J x 18 พร้อมยาง ขนาด 245/40 R18 

ยางอะไหล่

Standard specifications

ระบบความปลอดภัย

TT Coupé 45 TFSI quattro S line

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 

ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง 

ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย 

ระบบเบรกมือไฟฟ้า 

ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist) 

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) 

ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution) 

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system) 

ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with

stabilization function)

เซ็นเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด 

กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด 

ชุดปฐมพยาบาล 

อุปกรณ์มาตรฐาน

ช่วงล่างแบบ Sports (Sports suspension) 

ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select) 

ชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line 

ไฟหน้าแบบ LED 

ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED 

ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light) 

กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ

อุปกรณ์มาตรฐาน

TT Coupé 45 TFSI

quattro S line

ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ 

กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า และไล่ฝ้า 

ความสะดวกสบาย

เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต 

เบาะนั่งหุ้มหนัง สลับ Alcantara 

เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 

ระบบปรับดันหลังเบาะนั่ง 4 ทิศทาง สำหรับเบาะนั่งคู่หน้า 

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ 

พวงมาลัยหนังมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน แบบสปอร์ตท้ายตัด

พร้อม Paddle shift

ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control) 

กุญแจแบบ Comfort key 

ระบบข้อมูลและความบันเทิง

จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว 

ระบบ MMI Navigation plus with MMI touch 

ระบบ Audi smartphone interface 

ระบบเครื่องเสียง Audi sound system 

รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 

รองรับ MP3 

ช่องเชื่อมต่อ AUX-IN และ USB 

ไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร (Ambient lighting with light package)

อาคม รวมสุวรรณ

[email protected]

Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/