สัมภาษณ์
โลดแล่นอยู่ในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตมากกว่า 40 ปี สำหรับประธานคณะกรรมการกีฬายานยนต์ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) หรือ RAAT คนล่าสุด “พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์” ทั้งในบทบาทของนักธุรกิจมากฝีมือ และนักแข่งที่หาตัวจับได้ยาก
วันนี้กับอีกหนึ่งบทบาท หลังจากได้รับความไว้วางใจให้นั่งแท่นประธานคณะกรรมการ ร.ย.ส.ท. ซึ่ง “พฤฒิรัตน์” พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย ให้เป็นที่แพร่หลายยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน และพัฒนานักกีฬาและวงการนี้ให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ด้วยการวางรากฐานใหม่ ภายใต้การพัฒนาความรู้และความเข้าใจ
ปีนี้เป็นปีที่ ร.ย.ส.ท.ครบรอบ 88 ปี แน่นอนว่า หลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่างหายไป แต่การแข่งขันรถยนต์ยังคงอยู่ เรามีหน้าที่ดูแลกีฬาแข่งรถทั้งหมดในประเทศไทย ในช่วงโควิด-19 ระบาด มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราวางแผนไว้ต้องชะลอออกไป และวันนี้เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เรากลับมาดำเนินการโดยเฉพาะในส่วนของ NCR (national competition rules) หรือกติกาการแข่งขันรถยนต์แห่งชาติใหม่ ให้มีความทันสมัย บังคับใช้ได้อย่างชัดเจนและเป็นระบบตามหลักเกณฑ์ กติกาสากลมากที่สุด เพราะของเดิมมีอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้วเรียกว่าที่ผ่านมา ต่างคนต่างจัด ดังนั้น ร.ย.ส.ท.ได้มีการปรับปรุง กฎระเบีบบ กติกา มารยาทใหม่ เพื่อให้รายการแข่งขันต่าง ๆ ได้นำหลักเกณฑ์ไปปรับใช้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนักแข่ง ทีมแข่ง กรรมการผู้ตัดสิน เปลี่ยนจากรูปแบบเดิมที่ผู้จัดเป็นคนเขียนกติกาเองมาอยู่ภายใต้กรอบมาตรฐานเดียวกัน ร.ย.ส.ท.พยายามจัดระบบมอเตอร์สปอร์ต ให้เป็นไปตาม FIA-Federation International de Automobile คล้าย ๆ กับวงการฟุตบอลที่มี FIFA เป็นผู้กำกับดูแลนั่นเอง
แน่นอนจะเห็นว่าตลอดช่วงระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งโควิดระบาดหนัก กิจกรรมต่าง ๆ เราแทบจะไม่ได้จัดเลย จนเข้าสู่ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ที่จะเห็นว่ารายการแข่งขันต่าง ๆ มีหนาแน่นมาก เพราะทุกคนอั้นมาจากรายการที่ ร.ย.ส.ท.และ กกท.ดูก็มียาวต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี จากปกติที่จะจบการแข่งขันภายในเดือนตุลาคมของทุกปี อย่างไรก็ตาม ทุกคนพยายามทำให้เกิดการแข่งขันให้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการใช้งบประมาณที่ได้มาแล้วอย่างต่อเนื่อง เพราะจะมีผลต่อปีถัดไป ดังนั้น ช่วงนี้จะมีรายการแข่งขันถี่หน่อย
ร.ย.ส.ท.ได้วางกรอบแนวทาง การพัฒนา ศักยภาพของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย สู่ความยั่งยืน สอดรับนโยบาย “sport tourism” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เนื่องจากกีฬาแข่งรถนั้นนอกจากจะเป็นอีกกิจกรรมที่สามารถสร้างเสน่ห์และเม็ดเงินรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้ในระดับสูงแล้วนั้น ยังมีความเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลกในปัจจุบันนี้ อนาคตเมื่อรูปแบบการแข่งขันมีความชัดเจน มีการพัฒนามากขึ้น ก็น่าจะเป็นปัจจัยที่กลุ่มบริษัทรถและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง จะหันมาให้ความสำคัญกับมอเตอร์สปอร์ต ที่เห็นชัดเจนในปัจจุบันคือโตโยต้าที่ยืนหนึ่งในด้านนี้ แต่เรายังหวังจะให้มีแบรนด์อื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา แน่นอนว่ามันก็เชื่อมโยงสู่การพัฒนาให้เกมกีฬานี้เดินหน้าสู่การเป็นกีฬาอาชีพนั่นเอง และสามารถสร้างผลผลิตสู่นักแข่งชั้นนำ เกิดเป็นนักกีฬาอาชีพ แล้วสร้างให้นักกีฬาเหล่านี้เติบโต ต่อยอดไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพของเขา และไปถึงระดับโลกได้
แน่นอน…ที่เห็นได้ชัดเจน คือ การแข่งขัน “แรลลี่” ที่ก่อนหน้าที่สามารถจัดในพื้นที่เปิดได้ แต่เมื่อบริบท สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไป ไลน์การขับที่ไม่ไปรบกวนผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณนั้น อีกทั้งจะต้องไม่ไปสร้างปัญหาหรือมลพิษ พอลลูชั่นให้คนท้องถิ่นนั้น เราจึงมีการเสนอทางออกสำหรับการแข่งขัน “แรลลี่” ในพื้นที่ปิด เพื่อยังคงให้รายการแข่งขันรูปแบบนี้สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้
แต่ต้องยอมรับว่าระยะทางในการแข่งขันนั้นต้องถูกลดลงอย่างชัดเจน ปีนี้ ร.ย.ส.ท.ได้นำร่องทดลองจัดแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์ประเทศไทย ในรายการ RAAT Thailand Rally Championship 2021 ชิงถ้วยพระราชทาน เพื่อนำร่องให้เป็นอีกตัวอย่างของการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ทางคณะทำงานจึงได้สำรวจพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่เพียงพอรองรับแนวคิดดังกล่าว ซึ่งมีทั้งพื้นที่ของเอกชนและหน่วยงานรัฐ โดยเบื้องต้นนั้นต้องมีระยะทางและรูปแบบที่เป็นไปตามกฎของ ร.ย.ส.ท. โดยจะมีทั้งสิ้น 3 ครั้ง เริ่มสนามแรกวันที่ 23-24 เดือนตุลาคมนี้ที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี สนามที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายนที่ จ.ราชบุรี และจบที่เดือนธันวาคมที่ จ.ฉะเชิงเทรา และอีกรายการการแข่งขันรายการยานยนต์ทางเรียบมาราธอน RAAT Thailand Endurance Championship International 2021 ซึ่งจะจัดที่สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต โดยสนามแรกจะจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน และสนามที่ 2-3 จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้อีกรายการ
ก่อนหน้านี้รายการแข่งขันฟอร์มูล่า อี เคยติดต่อมานานมาแล้ว เพื่อจะจัดแมตซ์การแข่งขันในบ้านเรา แต่ทุกอย่างก็เงียบไป แน่นอนว่า เป้าหมายของ ร.ย.ส.ท. การได้จัดการแข่งขันรายการใหญ่นั้นเป็นโอกาส ยิ่งรายการระดับโลกนั้น จะถือเป็นโอกาสและเรื่องดีที่ช่วยผลักดันวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย แต่ทั้งนี้รัฐบาลเองก็จะต้องเดินหน้าสนับสนุนเพื่อผลักดันให้กีฬาระดับโลกสามารถเกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้ ถ้าองค์กรของเราเข้มแข็ง กีฬาระดับโลกเข้ามาแน่นอนว่าจะทำประโยชน์มหาศาล เข้ามาพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยได้ด้วย
ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนภายในของ ร.ย.ส.ท. ในยุค “พฤฒิรัตน์” นั้น 3 แกนหลักที่เน้นย้ำ คือ 1.การพัฒนาบุคลากรในองค์กร 2.การพัฒนากรรมการตัดสิน สร้างกรรมการอาชีพ และ 3.การพัฒนานักแข่งให้สู่ระดับอาชีพมากขึ้น เรียกว่าจะเดินหน้าพัฒนาไปทั้งองคาพยพ ก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
Forty high school gi…
Learn about the impl…
This website uses cookies.