หากพูดถึงเกมแข่งรถที่หลายคนรอคอยและให้ความสนใจมากที่สุดในปีนี้ อย่างไรก็ไม่มีทางหนีพ้น Forza Horizon 5 ภาคต่อเกม Racing Open World ของ Xbox Game Studios ที่ภาคนี้เราจะได้ตะลุยในประเทศเม็กซิโก แล้วเกมดังกล่าวจะสนุกสนานมากน้อยแค่ไหน มาพบกับรีวิว Forza Horizon 5
เนื้อเรื่อง/การนำเสนอ
ไม่น่ามีอะไรให้พูดถึงมากเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของ Forza Horizon 5 เพราะเกมนี้แม้มีสตอรี่ที่เกี่ยวกับ “คุณ” ซึ่งเป็นนักซิ่งดาวเด่น Horizon Driver ได้กลับมามีส่วนร่วมในอีเวนต์การแข่งขัน Horizon Festival อีกครั้งที่ประเทศเม็กซิโก แต่โดยรวมแล้ว เกมดังกล่าวไม่ได้มีการนำเสนอเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งมากนัก เพราะเกมนี้จะเน้นการนำเสนอบรรยากาศที่คุณได้รู้สึกสนุกสนานกับการแข่งขันรถยนต์ เรียนรู้วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ในเม็กซิโกซะมากกว่า
ส่วนตัวคิดว่าการที่ทีมงานตัดสินใจทำเนื้อเรื่องธรรมดา ๆ โดยไม่ได้ข้อคิดอะไรกลับไป และไม่มีสอดแทรกประเด็นดราม่า มันไม่ใช่เป็นข้อเสียของเกมนี้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเชื่อว่าหลายคนไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่าเกม Racing เปิดโลกกว้างที่ให้ผู้เล่นผจญภัย และสนุกสนานกับแข่งรถทั่วดินแดนเม็กซิโก จะต้องมีเนื้อเรื่องมหากาพย์ แอ็กชันระเบิดภูเขาเผากระท่อม หรือล้ำลึกขนาดนั้น
ซึ่งแน่นอนว่าเนื้อเรื่องไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทีมงานอยากจะนำเสนอให้กับผู้เล่น แต่พวกเขาอยากโชว์แผนที่ประเทศเม็กซิโกในเกม ที่มีรายละเอียดสูง มีบรรยากาศหลากหลาย และมีความงดงามที่ผู้เล่นสามารถ Immersive หรืออินไปกับโลกของเกมได้ง่าย
แผนที่เม็กซิโกใน Forza Horizon 5 มีขนาดใหญ่กว่าภาค 4 เกือบ 50% (อ้างอิงจากทีมพัฒนาเกม) โดยแต่ละพื้นที่จะมีโซนหมู่บ้านชนบท, ป่าไม้ดิบชื้น, เมืองโบราณ, ภูเขาไฟ, โบราณสถาน, ถนนทางด่วนขนาดยาว และอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยตัวเกมที่มอบความอิสระให้กับเกมเมอร์อย่างเต็มที่ รวมถึงแต่ละพื้นที่มี Collectable เป็นป้ายเพิ่มค่าประสบการณ์ XP, ป้ายลดราคา Fast Travel และมีกิจกรรมให้ทำมากมายซึ่งล้วนมีความหมายต่อผู้เล่น ทำให้แผนที่เม็กซิโกในเกมมีความน่าค้นหาอย่างมาก
คล้ายกับเกมภาคก่อน ภาพอาร์ตโดยรวมของ Forza Horizon 5 จะเป็นแนว Photorealistic เน้นอ้างอิงจากภาพถ่าย ทำให้ภาพในเกมดูมีความเป็นธรรมชาติสมจริง ไม่มีการปรับแต่งสีมากจนเกินไป ก็ต้องบอกเลยว่าใครเอียนภาพยนตร์กับซีรีส์ที่ชอบนำเสนอภาพประเทศเม็กซิโกที่เต็มไปด้วยสีส้มชวนเวียนหัว เกมนี้ต้องทำให้คุณประทับใจแน่นอน
นอกจากนี้ ตัวเกมมีการนำเสนอเรื่องราว Car Culture กับวัฒนธรรมพื้นบ้านในประเทศเม็กซิโกที่สืบทอดกันมานานหลายปี ก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นได้ Immersive ไปกับโลกของเกมง่ายขึ้น เหมือนเรากำลังท่องเที่ยวเม็กซิโกบนโลกของวิดีโอเกมเลยก็ว่าได้
และที่สำคัญที่สุด เสียงเครื่องยนต์ที่เคยโดนวิจารณ์อย่างหนักจากภาค 4 ว่าขาดความเที่ยงตรง และออกแบบเสียงไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ในภาคนี้ เสียงรถได้มีการปรับปรุงอย่างก้าวกระโดด โดยเสียงจะมีทั้งความดุดัน พร้อมกับมีความถูกต้องตามต้นฉบับในชีวิตจริง ถ้าใครเป็นคนชื่นชอบรถเป็นชีวิตจิตใจ ก็อาจจะรู้สึกปลาบปลื้มต่อการปรับปรุงครั้งนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
เกมเพลย์
Forza Horizon 5 เป็นเกมแนวแข่งรถแบบ “Simcade” หรือเป็นการผสมผสานระหว่าง Simulation เน้นสมจริง และ Arcade เน้นเอามัน ซึ่งผลลัพธ์ออกมาทำให้การขับรถในเกมนี้ มีความรู้สึกสนุกสนานท้าทาย เล่นค่อนข้างง่ายสำหรับหลายคน แต่ตัวเกมจะยังคงทิ้งกลิ่นอายความสมจริงอยู่บ้าง เช่น ทุกการเลี้ยวโค้งต้องมีการกะจังหวะเบรก หรือหยุดเร่งความเร็วอยู่เสมอ, การดริฟต์จะไม่ง่ายเหมือนเกม Burnout หรือ Need For Speed รวมไปถึงน้ำหนักของรถ ระบบขับเคลื่อนของรถ ชนิดล้อรถที่ใช้ กับสภาพของถนนจะส่งผลกระทบต่อการขับรถด้วย
แม้เกม Forza Horizon 5 เข้าถึงได้ง่ายสำหรับหลายคน แต่ถ้าผู้เล่นไม่มีประสบการณ์เล่นเกมแนวแข่งรถมาก่อน ก็อาจจะพบว่าตัวเกมเล่นค่อนข้างยากพอสมควร แต่โชคดีที่เกมดังกล่าว มีตัวเลือกระดับความยาก และมีระบบช่วยเหลือ (Assist) ที่หลากหลายให้ผู้เล่นได้ปรับแต่ง หรือเปิด-ปิดออปชัน เพื่อเปลี่ยนระบบเกมเพลย์ไปตามความชื่นชอบ หรือสไตล์การเล่นของแต่ละคน
รถใน Forza Horizon 5 มีให้เลือกใช้มากกว่า 500 คัน โดยแต่ละคันมีแบ่งประเภทรถออกเป็นหลายหมวด เช่น รถกระบะ, รถ Hot hatch, รถคลาสสิก, รถซีดาน, รถสปอร์ต, ซูเปอร์คาร์, ไฮเปอร์คาร์, รถแข่ง, รถดริฟต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
แม้รถมีระดับความแรร์หายาก กับมูลค่าราคาขายที่แตกต่าง แต่รถเกือบทุกคันสามารถอัปเกรดจากรถธรรมดา ให้กลายเป็นรถประสิทธิภาพสูงได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถดัดแปลงรถครอบครัว Mini Cooper น่ารัก ๆ ให้กลายเป็นรถ Drag ที่มีอัตราเร่งราวกับปีศาจ หรือดัดแปลงกลายเป็นรถแข่ง Rally ได้
หรือผู้เล่นสามารถอัปเกรดรถสปอร์ตที่มีความเร็วสูงอยู่แล้ว ทำให้มันดีกว่าเดิม ด้วยการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เปลี่ยนระบบการขับเคลื่อนของรถ เปลี่ยนชนิดของล้อ และอื่น ๆ อีกมากมายจนกลายเป็นรถสปอร์ตดุดัน มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรถไฮเปอร์คาร์
สิ่งที่ปรับปรุงจากเกมภาคก่อน คือภาคนี้ผู้เล่นสามารถอัปเกรดรถได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลานั่งจิ้มเมนูอีกต่อไป เพราะเกมนี้มีตัวเลือก “Auto Upgrade” ให้ AI ช่วยอัปเกรดรถเองตามอัตโนมัติ แต่แน่นอนว่าระบบดังกล่าวเหมาะสำหรับเกมเมอร์สาย Casual ที่ต้องการความรวดเร็ว เพราะอย่างไรก็ตาม การเลือกอุปกรณ์แต่งรถด้วยตัวเอง ก็ยังคงดีกว่าการใช้ Auto Upgrade อยู่ดี
แต่อย่างไรก็ตาม บางอีเวนต์การแข่งขันจะมีการจำกัดตัวเลขค่า Performance รถยนต์ และจำกัดประเภทของรถยนต์ที่ใช้เข้าแข่งขันได้ เพราะฉะนั้นผู้เล่นต้องคอยเอารถคันใหม่ ๆ ที่ดองไว้ใน Garage มาปรับแต่ง ปรับจูนเพิ่มเติม เพื่อใช้สำหรับการแข่งขันรายการต่าง ๆ
ใน Forza Horizon 5 มีโหมดการแข่งขันมากมาย เช่น Road Racing การแข่งขันบนท้องถนน, Dirt Racing การแข่งขันบนถนนลูกรัง, Cross-Country Racing การแข่งขันแบบ Off-Road, PR การขับรถแบบ Stunt ผาดโผนกับเสี่ยงอันตราย, Drag การแข่งขันเส้นทางตรง และ Street Racing การแข่งขันบนท้องถนน โดยมีรถยนต์สัญจรไปมา ซึ่งทุกโหมดเกมที่กล่าวมา ผู้เล่นสามารถเลือกทำอะไรก่อนก็ได้ โดยไม่มีการปิดกั้นความคืบหน้าหรือบังคับผู้เล่น
ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ ใน Multiplayer ก็มีโหมดเกมหลากหลายเช่นกัน ตั้งแต่ Eliminator ซึ่งเป็นเปรียบเสมือนเป็นโหมด Battle Royale ในฉบับเกมแข่งรถ, Open Racing การแข่งขันรถยนต์กับคนอื่นทั่วไป, Playground โหมดการละเล่น ที่ไม่เน้นการประลองความเร็ว และโหมดการแข่งขันแบบ CO-OP ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าเกมนี้มีโหมดเกมให้เลือกเล่นหลากหลายมาก ๆ ที่เล่นติดต่อกันได้หลายชั่วโมงโดยไม่มีเบื่อ
และแน่นอน อีกฟีเจอร์เด็ดที่ควรกล่าวถึงในเกมนี้ คือ Forza Horizon 5 ยังคงมีระบบ Progression มากมาย (และมีเยอะกว่าเดิม) ที่ให้ผู้เล่นสามารถปลดล็อก เพื่อแลกเป็นของรางวัลต่าง ๆ เป็นไอเทมต่าง ๆ และไอเทมที่สำคัญที่สุดในเกม นั่นคือ “Horizon Wheelspin”
Horizon Wheelspin เปรียบเสมือนเป็น Lootbox ของเกมนี้ โดย Wheelspin จะเป็นการหมุนล้อนำโชค เพื่อสุ่มได้รับของรางวัลต่าง ๆ เป็นเงิน, เสียงแตรรถ, ท่า Emote, เครื่องแต่งกาย, รถยนต์ทุกระดับความแรร์ รวมไปถึงมีโอกาสได้รถ Forza Edition ซึ่งยานพาหนะที่มีความแรร์สูงสุด และไม่มีขายใน Showroom
โดยมีทางเลือกมากมายที่ผู้เล่นสามารถรับ Horizon Wheelspin ได้ เช่น การนำแต้ม Perk ไปปลดล็อก Wheelspin ในรถแต่ละคัน, ขึ้นเลเวล และทำภารกิจรายสัปดาห์ใน Horizon Playlist ซึ่งระบบนี้ช่วยให้ผู้เล่นได้ติดพันกับการเล่นเกมนานมากขึ้น
ส่วน Super Horizon Wheelspin หรือการหมุนล้อนำโชค 3 ครั้งในเวลาเดียวกัน (และเพิ่มโอกาสได้รับของแรร์ง่ายขึ้น) จะสามารถรับได้จากการปลดล็อก Perk ของรถบางคันเท่านั้น (ส่วนใหญ่เป็นรถระดับ Epic, Legendary และ Forza Edition) และได้จากการซื้อบ้าน หรือซื้อผ่านร้านค้า Forzathon Shop ด้วยเงินจริง
ข้อเสียในตอนนี้ คือระบบการเชื่อมต่อออนไลน์ยังขาดความเสถียร มีหลายครั้งที่ระหว่างเปิดเล่นโหมดออนไลน์ (ในเกมเรียกว่า Horizon Life) ตัวเกมมักจะชอบหลุด Disconnection แบบสุ่มค่อนข้างบ่อย รวมถึงบางครั้ง ตัวเกมใช้เวลาโหลดห้องนานจนผิดปกติ หรือร้ายแรงที่สุด หากเล่นเกมระหว่างเปิดโหมด Horizon Life นานสักราว 2 ชั่วโมง ตัวเกมจะเริ่มมีอาการเฟรมเรตตกลงจนเหลือเพียง 30-50 FPS โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
ปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขแบบเบื้องต้นได้ ด้วยการปิดโหมด Horizon Life แล้วหันกลับไปเล่นแบบ Solo แทน โดยถ้าหากต้องการเล่นโหมด Multiplayer ก็สามารถกดเลือกเข้าไปเล่นทันที แล้วตัวเกมจะทำการเชื่อมต่อออนไลน์เองอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวต้องรอได้รับการแก้ไขโดยทีมพัฒนาเกมจากการปล่อย Patch เวอร์ชันถัดไป หรือรอการ Hotfix
ประสิทธิภาพ
Forza Horizon ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมที่มีภาพสวยอันดับต้น ๆ ของวงการเกม จนหลายคนล้อเลียนว่านี่เป็นเกมถ่ายรูปมากกว่าเกมแข่งรถ
ซึ่งแน่นอนว่าเกมภาคนี้ ยังคงมีภาพกราฟิกที่สวยงามสมจริง ตามมาตรฐานเกม Forza นอกจากนี้ ตัวเกมมีการปรับปรุงตรงส่วนของหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ กับโมเดลทั้งนอกกับในรถยนต์ให้มีรายละเอียดที่คมชัดมากขึ้น รวมถึงตัวเกมสามารถแสดงความเร็ว (Sense of Speed) ออกมาได้อย่างเร้าใจ
อย่างไรก็ตาม เราพบว่าตัวเกมยังมีบั๊กประหลาด ๆ เช่น บั๊กที่จู่ ๆ เปลี่ยนจากท้องฟ้ากลางวัน กลายเป็นท้องฟ้ากลางคืนในชั่วพริบตา, รถลอยฟ้า, แอนิเมชันตัวละครไม่ทำงาน และบั๊กขับรถชนบ้านกับกำแพงแรงเกินไป จนรถของเราทะลุลงไปใต้ดิน แม้มันจะไม่ส่งผลต่อเกมการเล่นโดยรวมมากนัก (เพราะตัวเกมมีระบบ Rewind ให้สามารถย้อนเวลา แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดได้) แต่ก็เป็นการทำลาย Immersive ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ จากการเล่นเกมทั้งหมด 35 ชั่วโมงในระบบ PC ตัวเกมได้เกิดอาการ Crash ออกจากเกมเองเป็นจำนวน 3 ครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แม้มันอาจจะไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่หากเกิดขึ้นแล้ว มันสร้างความหงุดหงิดให้เหล่าเกมเมอร์หลายคนได้มากเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าปัญหานี้ต้องรอได้รับการแก้ไขโดยทีมพัฒนาเกมเพียงอย่างเดียว
สรุป
“ถ้าหากไม่พัง ก็ไม่ต้องไปซ่อมมัน” นี่คือคำอธิบายของเกม Forza Horizon 5 ที่ชัดเจนที่สุด เพราะเกมเพลย์ เสียง ภาพกราฟิก การออกแบบแผนที่ ซึ่งดีมากอยู่แล้วในเกมภาคก่อน ได้ทำให้มันดีขึ้นกว่าเกมภาคเก่า ถ้าหากเกมมีบั๊กน้อยกว่านี้ และระบบออนไลน์ที่เสถียรกว่านี้ Forza Horizon 5 อาจจะคว้าเกมแข่งรถที่สมบูรณ์แบบที่สุดในปีนี้ไปได้ไม่ยากเลย
ข้อดี
- แผนที่เม็กซิโกกว้างใหญ่ มีรายละเอียดสูง
- ระบบการขับรถออกแบบได้สนุกสนาน ไม่ยากหรือง่ายเกินไป
- มีโหมดเกม และกิจกรรมให้ทำมากมาย
- กราฟิกสวยงามสมจริงตามมาตรฐานเกม Forza
ข้อเสีย
- ตัวเกมมีบั๊กทั่วไปค่อนข้างเยอะ และปัญหาเกม Crash เอง
- การเชื่อมต่อออนไลน์ยังไม่เสถียร
คะแนน: 9.3