เรียกว่ารถยนต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในการดำรงชีวิตของเราในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน ออกทริปไปต่างจังหวัดต่าง ๆ เรียกว่ารถยนต์เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด และในวันนี้ตลาดของรถยนต์เองก็มีหลากหลายรูปแบบที่คอยตอบรับการใช้งานของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น EV, Sedan, Sport และ SUV (Sport Utility Vehicle) ที่เป็นที่นิยมมากขึ้นในตลาดบ้านเรา ในวันนี้ HELLO! จะพาไปส่องกับ 5 รถยนต์ SUV จากแบรนด์ดังสุดพรีเมียมที่มีดีทั้งสมรรถภาพและการใช้งานที่ทำได้ในทุก ๆ วัน
Lamborghini Urus
หากพูดถึงแบรนด์กระทิงดุแล้วคงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘Lamborghini’ ถือกำเนิดขึ้นในประเทศอิตาลี ปี 1963 เป็นคู่แข่งโดยตรงกับค่ายม้าลำพองอย่าง ‘Ferrari’ แม้เราจะรู้จักกันดีว่า ‘Lamborghini’ มีชื่อเสียงในด้านการทำรถสปอร์ต 2 ที่นั่ง แต่ด้วยความที่ตลาดโลกในปัจจุบัน รถ SUV มีขนาดตลาดที่กำลังเติบโตและรถสปอร์ตเองก็ไม่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้
Lamborghini จึงเริ่มมีไอเดียในการทำรถออกมาในซีรีส์ชื่อ Urus ที่ผสมผสาน DNA ความสปอร์ตของกระทิงดุลงไปในรถยนต์อเนกประสงค์คันใหญ่ที่ได้ทั้งสมรรถภาพและการใช้งานที่หลากหลายบนท้องถนน
‘Lamborghini Urus’ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร Bi-Turbo Twin-Scroll พร้อมด้วยแรงม้าถึง 659 แรงม้า แรงบิดที่ 850 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถทำอัตราเร็ว 0-100 km/h ได้ที่ 3.6 วินาที 0-200 km/h ที่ 12.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 305 km/h
Aston Martin DBX
‘Aston Martin’ แบรนด์ดังจากเกาะอังกฤษที่หลาย ๆ คนจดจำแบรนด์ได้จากการเป็นรถเอกในซีรีส์หนังสายลับชื่อดังอย่าง James Bond ถือกำเนิดในปี 1913 จากเมือง Buckinghamshire ที่ชื่อของแบรนด์มาจากเนินแอสตันและนามสกุลของผู้ก่อตั้งอย่าง Lionel Martin ผลิตรถยนต์ออกมาเรื่อย ๆ จนเริ่มเปลี่ยนแบรนด์ตัวเองให้เป็นรถหรูพรีเมียมก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จักสุดในสายตาคนทั้งโลกในภาพยนตร์ Goldfinger ที่เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ในซีรีส์ 007 ยุคนั้น ในรถรุ่น ‘Aston Martin DB5s’ สปอร์ตGT สุดคลาสสิค ที่ในภายหลังรถตระกูล DB จะกลายเป็นรถไอคอนของทางค่าย
DBX เป็นรถ SUV สุดพรีเมียมที่ทางค่ายผลิตออกมาเป็นครั้งแรกในรอบ 106 ปี และยังคงเอาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทั้งหมดของแบรนด์ไว้ในรถรุ่นนี้ ‘Aston Martin DBX’ มากับเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ พละกำลังสูงสุดที่ 550 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 700 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100 km/h ที่ 4.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 291 km/h
Bentley Bentayga V8
อีกหนึ่งแบรนด์รถหรูจากอังกฤษที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหรา ผู้ดีสไตล์อังกฤษ ก่อตั้งโดย Walter Owin Bentley ในปี 1919 ซึ่งเป็นเวลากว่า 1 ทศวรรษที่ ‘Bentley’ ตั้งใจรังสรรค์ออกแบบยานยนต์ของแบรนด์ด้วยวัสดุชั้นเลิศ การตัดเย็บอันปราณีต ผสมผสานกับนวัตกรรมยานยนต์ด้านสมรรถภาพและเทคโนโลยีใหม่ ๆ
โดยภาพลักษณ์ของแบรนด์จะให้ความรู้สึกของเศรษฐีที่รักในความเร็ว ขับขี่เอง และรถรุ่นยอดนิยมอย่าง ‘Bentley Continental GT’ สปอร์ตคูเป้ที่สร้างชื่อให้กับแบรนด์มาอย่างยาวนานก็ยังคงเป็นที่นิยมและเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับรถที่อยู่ในคลาสเดียวกัน
มาในวันนี้ ‘Bentley’ ได้เปิดตัวรถ SUV สู่ตลาดเพื่อมาแข่งขันกับแบรนด์อื่น ๆ รวมถึงขยายฐานลูกค้าให้คนมาสนใจตัวแบรนด์มากขึ้นกับ ‘Bentley Bentayga’ รถยนตร์อเนกประสงค์ 4 ที่นั่งยกสูง ที่มาพร้อมกับความหรูหราและพละกำลังของรถสปอร์ต กับเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ กับแรงม้าสูงถึง 550 แรงม้า แรงบิดที่ 770 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อันโตมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100 km/h ที่ 4.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 304 km/h
Porsche Cayenne Turbo GT
แบรนด์รถสปอร์ตชื่อดังจากเมืองชตุทการ์ท เยอรมนี ก่อตั้งโดย Dr. Ferdinand Porsche ในปี 1931 ที่ต้องบอกว่ามีความสำคัญตั้งแต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในการพัฒนายานยนต์ต่าง ๆ ให้กับนาซี จนกลายมาเป็นรถยนตร์ที่เรารู้จักกันในวันนี้ ‘Porsche’ ให้ความสำคัญในการออกแบบรถที่ขับสนุก ผู้ขับขี่และรถยนตร์ต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นั่นจึงทำให้หลาย ๆ คนยอมรับว่ารถยนตร์ของ ‘Porsche’ ขับดีแทบจะเป็นอันดับต้น ๆ ในโลกเลย
เอกลักษณ์ของรถ ‘Porsche’ คือสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูที่วางเครื่องไว้ด้านหลัง และการขับเคลื่อนล้อหลัง กลายมาเป็นรุ่นไอคอนิกอย่าง ‘Porsche 911’ ที่ได้รับความนิยมจากเหล่าผู้รักในความเร็วทุกท่าน
Porsche เล็งเห็นการขยายตลาดของรถยนตร์ของตัวเองมานานมาก และเป็นแบรนด์แรก ๆ ของรถหรูสุดพรีเมียมที่ทำตลาดรถ SUV มานานแล้ว โดยเฉพาะรุ่น ‘Cayenne’ ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก และมีรุ่นยิบย่อยมากมาย จนถึงวันนี้ที่ ‘Porsche Cayenne Turbo GT’ ที่พกมาทั้งความแรงและสบายในแบบ ‘Porsche’
กับเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ แรงม้าถึง 640 แรงม้า แรงบิดที่ 850 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ชื่อดังอย่าง Triptonic S อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 km/h ที่ 3.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 300 km/h
Ferrari Purosangue
แบรนด์หรูสุดพรีเมียมจะขาด ‘Ferrari’ หรือ ‘ม้าลำพอง’ ก็คงไม่ได้ ถือว่าเป็นแบรนด์รถสปอร์ตเก่าแก่จากอิตาลีที่ก่อตั้งโดย Enzo Ferrari ในปี 1939 กับเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตสีแดงที่โดดเด่นบนท้องถนน และโลดแล่นในวงการรถแข่งมาเป็นระยะเวลานาน รวมถึงทีมรถแข่งสูตร 1 หรือ Formula 1 ที่มีชื่อเสียงมาตลอด
และถ้ามีใครสักคนพูดถึง ‘ความเร็ว’ และ ‘ความหรูหรา’ ก็จะต้องนึกถึง Ferrari เป็นอันดับแรก ๆ กับรถสปอร์ตเครื่องวางกลางที่ทำออกมาสู่ตลาดอย่างยาวนาน เสียงเครื่องยนต์ที่หวานไพเราะ และการขับขี่ที่เร้าใจ ทำให้เหล่าเศรษฐีหลาย ๆ คนมี Ferrari เป็นรถในดวงใจ
ล่าสุดทาง Ferrari ก็เหมือนจะมีแผนที่จะต่อกรในตลาดรถ SUV ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและทำให้หลาย ๆ คนมีโอกาสที่จะซื้อรถจาก Ferrari มาใช้ อย่าง Ferrari Purosangue ที่มีรูปหลุดจากโรงงานของ Ferrari และมีการคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 หรือไม่ก็สืบสานตำนานของเครื่องยนต์ NA V12