กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3” เผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งชาวบ้าน ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง บันทึกได้จากโทรศัพท์มือถือ ปรากฏภาพรถกระบะโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง 2 คัน ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียนจอดปิดขวางถนน บริเวณตลาดลานปูน เพื่อไม่ให้รถยนต์คันอื่นขับผ่าน และยังเบิ้ลเครื่องยนต์เสียดัง ปล่อยควันดำ ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุชาวบ้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.มาบตาพุด แต่ไม่มีตำรวจเข้ามาที่เกิดเหตุ
ล่าสุดวันที่ 3 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านละแวกที่เกิดเหตุการณ์ โดยนายสมหวัง ผ่องสุวรรณ กล่าวว่า ตนนั่งอยู่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ จู่ ๆ ได้ยินเสียงดัง จึงวิ่งออกไปดู พบรถกระบะเสียหลักพุ่งชนป้ายบริเวณหน้าร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มีรถกระบะ 2 คัน ขับแข่งกันมา ทำให้อีกคันเกิดการเสียหลักพุ่งชนป้ายและถอยรถออกมาขวางกลางถนนเอาไว้ ทำให้รถที่สัญจรบนถนนผ่านไปไม่ได้ทั้ง 2 เลน
หลังจากนั้น ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ในพื้นที่ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จึงได้พูดคุยกับ นายเอ ผู้ขับรถกระบะสีบรอนซ์ และนายบี ผู้ขับกระบะสีเขียว เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกตนขับรถตามกันมาจะไปเติมน้ำมัน แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ก็มีรถฟอร์จูนเนอร์พุ่งออกมาจากซอย จากนั้นนายเอ จึงเบรกแล้วหักหลบทำให้รถเสียหลักไปพุ่งชนป้ายร้านค้าตรงบริเวณดังกล่าว สภาพรถจอดขวางถนนอยู่ ตนเห็นเพื่อนเกิดอุบัติเหตุ จึงต้องจอดข้างทางแล้วลงไปดู เรื่องก็มีเพียงแค่นี้จริง ๆ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ตนไปไล่ยิงใคร หรือลงไปด่าโวยวายใส่ใคร ตนจอดแป๊บเดียว เพื่อลงไปดูเพื่อนที่เกิดอุบัติเหตุว่าเป็นอะไรหรือไม่ ขณะที่ลงไปก็ยกมือไหว้ขอโทษ แต่ชาวบ้านก็รุมด่าตนว่า จอดรถขวางถนน คนโพสต์คลิปก็ควรจะนำคลิปตั้งแต่แรกออกมาโพสต์ด้วย
“ผมเลยโดนด่าเต็ม ๆ ยอมรับว่าตอนนั้นก็โมโหมาก ตอนจะขับรถออกไปเลยเบิ้ลเครื่องพ่นควันดำออกมา แล้วเร่งออกไป ถ้าผมทำอะไรผิด หรือจอดขวางก็ต้องขอโทษด้วย เพราะผมเป็นห่วงเพื่อน แต่ผมยืนยันว่าจอดแป๊บเดียว ไม่ได้ปิดถนนนา ไม่ใช่มาด่ากันแบบนี้ครับ” นายบี กล่าว
เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก.สภ.มาบตาพุด ได้สั่งการให้ พ.ต.ท วิเชียร พรหนองแสน สว.(สอบสวน) และพ.ต.ต พีระวัฒน์ วงศ์ทอง สว.สส.สภ.มาบตาพุด ให้ติดตามความคืบหน้า จึงได้เรียกตัวเจ้าของรถทั้ง 2 คันเข้ามาสอบปากคำ และจะต้องตรวจสภาพรถก่อน แล้วเรียกพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุมาให้ปากคำ จึงจะตั้งข้อกล่าวหาได้ นอกจากนี้ จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่าปริมาณของควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่