รถยนต์ไฟฟ้า 2022 มีรุ่นไหนน่าสนใจ ในเมืองไทย – kapook.com

รวมรถยนต์ไฟฟ้า 2022 ในเมืองไทย สเปกเป็นแบบไหน ราคาเท่าไหร่ ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้กี่กิโลเมตร เราคัดมาให้เลือกชมกันแล้ว !

ตลาดรถยนต์ในทุกวันนี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV (Electric Vehicle) เข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการยานยนต์เป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากปีที่ผ่านมากระแสรถยนต์ประเภทนี้เรียกได้ว่ากำลังตื่นตัว เพราะบรรดาค่ายรถเริ่มให้ความสนใจและพัฒนารถรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัวออกมากันอย่างต่อเนื่อง และในปี 2022 ก็คาดว่าจะเป็นปีที่รถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยนั้น มีความคึกคักไม่น้อยเช่นกัน

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นรถพลังงานทางเลือกใหม่ ที่ทุกวันนี้กำลังจะกลายเป็นเทรนด์หลักของโลก โดยแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮบริด, รถยนต์พลังงานไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด, รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงหรือรถ Fuel Cell และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่หรือที่เรียกกันว่า รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดนั้นจะมีความแตกต่างกันในระบบพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร ?

สำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียว ๆ 100% จะเป็นรถที่ไม่มีการปลดปล่อยมลพิษ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ไม่มีเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยได้พลังงานมาจากแบตเตอรี่ที่อัดประจุไฟฟ้าจากภายนอก นอกจากนั้นยังประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นการซ่อมบำรุง รวมถึงค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ต้องจ่าย อีกทั้งยังเป็นรถที่มีอัตราเร่งที่สั่งได้ดั่งใจเพราะไม่รอรอบเครื่องยนต์ 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รถยนต์ไฟฟ้าก็มีข้อเสียบางประการคือ มีราคาค่าตัวในปัจจุบันที่ค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าภาครัฐจะเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่ออกมาเป็นรูปธรรม อีกทั้งระยะทางในการขับขี่จำกัด ไม่สามารถเดินทางได้ระยะทางไกล ๆ  เพราะจะต้องชาร์จพลังงานไฟอยู่ตลอดเมื่อไฟหมด รวมถึงมีสถานีชาร์จไฟที่ยังไม่แพร่หลายในปัจจุบัน 

สำหรับใครที่กำลังอยากได้รถยนต์ไฟฟ้าไปใช้งาน เราได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว ไปดูกันว่าในปี 2022 มีรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ไหนที่มีจำหน่ายในตลาดเมืองไทยน่าใช้บ้าง ที่สำคัญคือชาร์จเต็มวิ่งไกลเท่าไหร่ พร้อมราคาค่าตัวแต่ละรุ่น

1. POCCO

POCCO รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น DD ตัวถังแบบ 5 ประตู และรุ่น MM ตัวถังแบบ 3 ประตู มากับรูปลักษณ์สุดน่ารัก ขนาดกะทัดรัด ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน Motor Expo 2021 

2. Ora Good Cat

ORA Good Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสไตล์คิกขุ ทรงน่ารัก จากทางค่าย GWM โดยในปี 2021 ที่ผ่านมา สร้างกระแสในโลกโซเชียลในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 105 kW หรือประมาณ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที 

ในด้านชุดแบตเตอรี่จะมีให้เลือก 2 ขนาด จะเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ขนาด 47.8 kWh ให้ระยะทางสูงสุด 400 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 8 ชม. และชาร์จเร็วกระแสตรง DC 0-80% ใน 45 นาที และ 30-80% ในเวลา 32 นาที 

ส่วนอีกรุ่นจะเป็นแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม Ternary ขนาด 63.139 kWh ที่ให้ระยะทางการวิ่ง 500 กม. ตามมาตรฐาน NEDC สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 10 ชม. มาพร้อมระบบชาร์จเร็วกระแสตรง DC ชาร์จไฟจาก 0-80% ใน 60 นาที และ 30-80% ใน 40 นาที

3. MG EP PLUS

MG EP PLUS รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ถูกต่อยอดมาจาก EP รุ่นสแตนดาร์ด รูปลักษณ์ยังคงเป็นรถแบบ Station Wagon ที่มากับพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวาง และที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ 1,456 ลิตร 

ตัวรถสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม. ในเวลา 8.8 วินาที มาพร้อมระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ แบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออนแบบโมดูลขนาดความจุ 50.3 kWh ขับขี่ได้ไกล 380 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง เมื่อชาร์จกับไฟบ้านผ่าน MG Home Charger จะใช้เวลาประมาณ 7 ชม. 15 นาที แต่หากชาร์จแบบ Quick Charge จาก 0-80% จะใช้เวลา 40 นาที 

4. Porsche Taycan Cross Turismo

Porsche Taycan Cross Turismo รถยนต์ไฟฟ้าในเวอร์ชั่นออฟโรด ที่ต่อยอดมาจาก Porsche Taycan ด้วยชุดแต่งสไตล์ออฟโรดรอบคัน อาทิ ซุ้มล้อ กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถรองรับการขับขี่ได้ทุกเส้นทางในด้านพละ จะมีให้เลือกถึง 3 รุ่น ได้แก่

5. Volvo XC40 Recharge Pure Electric

Volvo XC40 Recharge Pure Electric รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของวอลโว่ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าเป็นแบบยูนิบอดี้พร้อมโลโก้วอลโว่ขนาดใหญ่ เสริมด้วยพื้นที่ใต้ฝากระโปรงหน้า (Frunk) สามารถเก็บสัมภาระได้ 31 ลิตร ภายในห้องโดยสารตกแต่งเน้นความพรีเมียมหรูหรา ด้วยวัสดุหนังสีดำชาร์โคล

ด้านพละกำลังติดตั้งขุมพลัง P8 AWD ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ ที่วางอยู่ทั้งคู่ล้อหน้าและหลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 180 กม./ชม.

แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออนขนาด 78 kWh ชาร์จเต็มวิ่งได้ไกลราว 400 กม. ตามมาตรฐาน WLTP สามารถชาร์จผ่าน Wallbox ขนาด 11 kW จาก 0-100% ได้ในเวลาราว 6-8 ชั่วโมง และรองรับระบบชาร์จด่วนจาก 0- 80% ในเวลาประมาณ 40 นาที

6. Jaguar I-Pace

Jaguar I-Pace เป็นรถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% นำเข้าจากประเทศอังกฤษ รูปลักษณ์ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยฝากระโปรงที่ต่ำ เส้นขอบหลังคาที่แผ่กว้าง และท้ายรถทรงเหลี่ยม มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านเพียง 0.29

ด้านขุมพลังจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ถูกติดตั้งไว้ที่คู่ล้อหน้าและคู่ล้อหลังแบบ AWD ให้สมรรถนะสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตันเมตร แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออนขนาด 90 kWh ให้ระยะทางในการวิ่งได้ไกลสูงสุด 470 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 4.8 วินาที สำหรับการชาร์จไฟหากใช้เครื่องชาร์จปกติ (ไฟบ้าน) จะใช้เวลา 10 ชม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง  มาพร้อมกับระบบ Quick Charge ที่จะให้พลังงานจาก 0-80% โดยใช้เวลาเพียง 20-40 นาที

7. Lexus UX 300E

Lexus UX 300E 2021 เอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% มาพร้อมกับตัวถังแบบใหม่ GA-C ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ทรงตัวดี 

ในด้านระบบขับเคลื่อนมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไออนลิเธียมขนาด 54 kWh ให้ระยะทางการวิ่ง 360 กม.ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC

ส่วนการชาร์จไฟของ Lexus UX 300E นั้น รองรับทั้งหัวชาร์จแบบปกติ AC Type II และหัวชาร์จเร็ว DC CHAdeMO โดยในการชาร์จปกติ ขนาด 6.6 kW สามารถชาร์จไฟจาก 0-100% ได้ภายใน 6.5 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จแบบกระแสตรง หรือ Quick DC Charger ขนาด 50 kW จะให้กำลังไฟจาก 0-80% ภายในเวลา 50 นาที 

8. Audi e-Tron Sportback 55 quattro S line

Audi e-tron Sportback 55 quattro S line รถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบครอสโอเวอร์คูเป้ ที่มากับการออกแบบเน้นความล้ำสมัยเสริมความเท่ห์สปอร์ตด้วยชุดแต่ง S-line ทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมกับระบบช่วงล่าง Sport Air suspension 

ด้านขุมพลัง Audi e-Tron Sportback 55 quattro S line เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลัง 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 664 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ Single Gear และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro พร้อมระบบกระจายแรงบิด wheel-selective torque control อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 200 กม./ชม.

แบตเตอรี่เก็บประจุเป็นแบบลิเธียมไออน ความจุขนาด 95 kWh ให้ระยะทางมากกว่า 463 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC รองรับทั้งการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC หรือชาร์จเร็ว ขนาด 150 kW ใช้เวลาชาร์จจากประมาณ 30 นาที ให้กำลังไฟถึง 80% และชาร์จไฟกระแสสลับ AC ขนาด 11 kW จะใช้เวลา 9 ชม. ต่อการชาร์จเต็ม และถ้าใช้ไฟกระแสสลับ AC ขนาด 22 kW ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4 ชม. 30 นาที

9. Mini Cooper SE

MINI Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานจากรุ่น 3 ประตู มาพร้อมการตกแต่งด้วยสีเหลือง Energetic Yellow ตามส่วนต่าง ๆ บนตัวรถ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

ด้านพละติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล ในรูปทรงตัว T ติดตั้งอยู่บริเวณใต้พื้นรถขนาด 32.6 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทางสูงสุดราว 217 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

ในด้านการชาร์จไฟนั้นถ้าชาร์จจาก MINI ELECTRIC Wallbox ขนาด 11 kW ให้กำลังไฟ 80% ภายในเวลา 2.5 ชม. และชาร์จเต็ม 100% ภายใน 3.5 ชม. และถ้าชาร์จแบบ DC ขนาด 50 kW ชาร์จได้ถึง 80% ภายใน 36 นาที 

10. Kia Soul EV

Kia Soul EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบรถครอสโอเวอร์ขนาดซับคอมแพกต์ 5 ที่นั่ง มาพร้อมกับการออกแบบให้ดูเฉียบคมตามแบบฉบับของทางรถยนต์จากประเทศเกาหลีใต้ ด้วยเส้นสายที่โค้งมนและดุดัน

ในด้านพละกำลังของติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet AC Synchronous ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 395 นิวตันเมตร แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออนขนาด 64 kWh ให้ระยะทาง 452 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุด 167 กม./ชม. ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.9 วินาที

สำหรับการชาร์จไฟนั้นถ้าชาร์จไฟแบบกระแสตรง Quick Charge ขนาด 100 kW จะให้กำลังไฟจาก 0-80% ภายใน 54 นาที หรือถ้าชาร์จไฟแบบกระแสตรง Quick Charge ขนาด 50 kW จะให้กำลังไฟจาก 0-80% ภายใน 75 นาที นอกจากนี้ยังมีระบบการชาร์จไฟกระแสสลับ Wallbox AC ขนาด 7.2 kW จะชาร์จตเต็ม 100% ภายใน 9 ชม. 35 นาที 

11. Nissan Leaf

Nissan Leaf รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย โดยได้รับความนิยมเป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลก โดยในรุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดบ้านเราขณะนี้จะเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น 

ด้านขุมพลังจะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น EM 57 ให้กำลัง 110 kW หรือ 149 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.9 วินาที แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธี่ยมไอออนรุ่นใหม่ที่มีขนาด 40 kWh และเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 คั้ง สามารถขับได้ระยะทางสูงสุดถึง 311 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ด้านการชาร์จไฟนั้นถ้าชาร์จด้วยกำลังไฟขนาด 3.6 kW จะใช้เวลา 12 ชม. มาพร้อมระบบชาร์จด่วนที่จะให้กำลังไฟจาก 0-80 % ได้ในเวลา 40 นาที

12. Fomm ONE

Fomm ONE รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กแบบ 4 ที่นั่ง มีมิติตัวรถขนาดกระทัดรัด มีความยาวเพียง 2,585 มม. ความกว้าง 1,295 มม. ความสูง 1,560 มม. ระยะฐานล้อ 1,760 มม. ทำให้มีรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 1.8 เมตร และน้ำหนักตัวรถเพียง 450 กก. (ไม่รวมแบตเตอรี่) เมื่อรวมแบตเตอรี่จะมีน้ำหนัก 630 กก.

รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบให้ดูคล้ายหัวจรวด ด้านหน้าที่ยื่นยาว กระจกบานหน้าขนาดใหญ่ ด้านท้ายรถแบบตัดตรงภายในเน้นความเรียบง่าย พวงมาลัยออกแบบให้เหมือนกับรถแข่งในสนาม ด้านพละกำลังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 kW ไว้ที่ล้อคู่หน้า ให้พละกำลัง 13.5 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิดที่มากถึง 560 นิวตันเมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 80 กม./ชม. ด้านแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมแมงกานีขนาด 2.96 kWh ที่มี 4 แพค ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทางราว 160 กม. ใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียง 6 ชม.

13. Wuling MINI EV

Wuling รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋วดีไซน์น่ารักแบบ 4 ที่นั่ง นำเข้ามาจากประเทศจีน โดยรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยนี้จะเป็นแบบพวงมาลัยซ้าย กับราคาเริ่มต้น 369,000 บาท ด้านมิติตัวรถของ Wuling MINI EV มียาว 2,917 มม. กว้าง 1,493 มม. สูง 1,621 มม. และระยะฐานล้อ 1,940 มม. 

มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานประกอบด้วย มาตรวัดแบบดิจิทัล เระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กระจกหน้าต่างปรับด้วยไฟฟ้า เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระขึ้นเป็น 741 ลิตร เป็นต้น ในด้านพละกำลังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 20 kW หรือราว 27 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 85 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-50 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 100 กม./ชม. แบตเตอรี่มีขนาด 13.9 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งให้ระยะทางการวิ่งราว 170 กม. 

14. BYD

BYD เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายจากประเทศจีน ในเมืองไทยจะมีให้เลือกอยู่ 2 รุ่น 3 เกรด คือในรุ่น T3 จะเป็นแบบ 2 ที่นั่ง และ 5 ที่นั่ง และรุ่น BYD M3 ที่เป็นแบบ 7 ที่นั่ง  

ขุมพลังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า AC Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 70 kW หรือราว 94 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ BYD NCM Battery มีความจุ 50.3 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ไกลถึง 300 กม. สามารถรองรับการชาร์จไฟได้ทั้ง 2 ระบบ แบบ DC ขนาด 40 kw จะใช้เวลาเพียง 1 ชม. 30 นาที หากชาร์จไฟแบบ AC ขนาด 6.6 kW ใช้เวลาประมาณ 7 ชม. 

15. Takano TTE 500

Takano TTE 500 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบกระบะสัญชาติไทย ผลิตขึ้นในประเทศโดยฝีมือคนไทย เปิดครั้งแรกที่ในงาน Motor Show 2020 ที่ผ่านมา

Takano TTE 500 เป็นรถกระบะบรรทุกขนาดเล็ก ที่เน้นการขนส่งสินค้านํ้าหนักเบา มีมิติตัวรถยาว 3,250 กว้าง 1,480 สูง 1,490 มม. มีระยะฐานล้อ 2,150 มม. และมีน้ำหนักตัวรถเพียง 589 กก. ในด้านขุมพลัง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัววางไว้ที่คู่ล้อหน้า ให้กำลัง 5.5 kW หรือประมาณ 7.4 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 60 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 11 Kwh ที่ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ราว 100-120 กม. ใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 6-7 ชม. 

และทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีวางจำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งจะมีทั้งแบบไซซ์เล็กน่ารัก ๆ รถแฮทช์แบ็ก และรถเอสยูวีสำหรับครอบครัว ไปจนถึงรถสปอร์ตหรูระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ยังมีรถ EV อีกหลายรุ่นที่กำลังรอเวลาเปิดตัวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทาง Toyota ที่พร้อมจะส่ง Toyota bZ4X รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกของค่าย MG ZS EV และ MG EP  รถในรูปแบบสเตชั่นแวกอนจาก MG รวมถึงทาง GWM ที่ล่าสุดเตรียมส่ง ORA Black Cat และ ORA Good Cat GT ลงตลาดด้วยเช่นกัน