ข่าวแนะนำ
เครื่องยนต์เบนซินตัวเล็กแบบ 4 กระบอกสูบ ความจุ 1.5 ลิตร ปั่นเรี่ยวแรงได้ 93 กิโลวัตต์ 126 แรงม้า แรงบิด 153 นิวตันเมตรเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับ MINI Cooper ในยุคแรก จากผลงานของผู้ปรับแต่งเครื่องยนต์ขนาดเล็ก Oselli Engineering ซึ่งใช้เวลาในการทดสอบเพื่อความแข็งแกร่งของเครื่องยนต์ก่อนลงมือผลิตจริง ในขณะที่ตัวถังและงานสีที่สาดสีเขียวเข้ม หรือสีเทาที่กำลังฮิต เป็นของผู้สร้างจากสำนัก David Brown Automotive ชื่อย่อ DB ที่คุณอาจรู้จักและเคยมองเห็นจากส่วนท้ายของรถสปอร์ตอังกฤษที่ทำให้รถเหล่านั้นดูดี แถมยังมีคนไทยชอบเอาสติกเกอร์ DB มาแปะท้ายรถคลาสสิกของตัวเองเพื่อเพิ่มความเท่และครบ
60 ปีผ่านไป นับตั้งแต่ MINI รุ่นแรกถูกสร้างขึ้นและออกวิ่งบนถนน ดังนั้น DB Automotive จากสหราชอาณาจักร จึงคิดวิธีหากำไรผ่านงานเฉลิมฉลองบนตำนานรถเล็กขับสนุก ด้วยจุดมุ่งหมายก็คือ การสร้างรถยนต์ที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมากในอดีตอย่าง MINI Classic ให้หวนคืนมาอีกครั้ง ทุกชิ้นส่วนของมัน สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยพื้นฐานแล้ว MINI resto-mod Remastered ไม่ได้เป็นเพียงโครงการที่คิดกันขึ้นเล่นๆ การลงมือลงแรงอย่างจริงจังในจำนวนการผลิตแค่ 60 คัน จะทำให้มันมีราคาสูงกว่าเมื่อ 56 ปีก่อนหลายเท่า และน่าจะถูกจองหมดเรียบร้อยไปแล้ว จากความต้องการโหยหาอดีตของรถเล็กที่ยิ่งใหญ่
David Brown Automotive รับหน้าที่เฉพาะงานตัวถังและการตกแต่งภายใน ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์ ดังนั้น สำนัก Oselli Engineering จาก Milton Keynes จึงได้รับการว่าจ้างให้เป็นหัวหน้าฝ่ายระบบส่งกำลังของโครงการรื้อฟื้นความสนุกของ MINI ด้วยประสบการณ์หลายปี กับเครื่องยนต์ซีรีส์ A พวกเขาได้รับการปรับแต่งเครื่องยนต์ขนาดจิ๋วของ MINI มาตั้งแต่ปี 1960 Oselli ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกำลังของมันมากนัก หัวลูกสูบ เพลาข้อเหวี่ยง ถูกออกแบบและผลิตด้วยกรรมวิธีที่ช่วยเพิ่มแข็งแรง เพลาลูกเบี้ยวได้รับการปรับแต่งใหม่ ทำให้ส่งแรงบิดได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเชื้อเพลิง ใช้คาร์บูเรเตอร์คู่ หรือทวินคาร์บูเรเตอร์ SU ที่ถูกอกถูกใจนักเลง MINI รุ่นเก่า โดยเฉพาะกรองเปลือยและการจูนท่อไอเสีย เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป ระบบไอเสียแบบมีตัวกรองมลพิษ โช้คอัพและสปริงจาก Bilstein ชุดเบรก AP Racing เครื่องยนน์ที่ได้รับการปรับแต่งให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ผลลัพธ์คือ 93 กิโลวัตต์ หรือ 126 แรงม้า กับแรงบิดพอสนุกที่ 153 นิวตันเมตร ในย่าน 6,200 รอบต่อนาที และ 4,500 รอบต่อนาทีตามลำดับ ล้ออัลลอย ขนาด 13 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้น ระบบเกียร์ธรรมดาห้าสปีด ที่ออกแบบใหม่ หรือเกียร์อัตโนมัติสี่สปีดสำหรับพวกรักความสบาย อย่างไรก็ตาม ระบบเกียร์อัตโนมัติ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 ,400 ซีซี ที่ลดขนาดลง เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์มาตรฐาน 1,500 ซีซี ในเวอร์ชันเกียร์ธรรมดา DB Automotive ออกแบบถังเชื้อเพลิงเพื่อช่วยในเรื่องของการเพิ่มระยะทางในการขับใช้งาน หากลูกค้ามีความตั้งใจในการเดินทางระยะไกล หรือขับต่อเนื่องในสนามแข่งเป็นเวลานาน ด้วยการใช้ถังเชื้อเพลิงแบบสองถัง
ทุกอย่างของ MINI resto-mod ยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ทั้งหมดยกเว้นไฟหน้าที่ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ทุกสิ่งของมันยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกที่ยอดเยี่ยม แต่ทันสมัย สำหรับ Mini รุ่นย้อนอดีต ไฟหน้าแบบ LED ใหม่ เปลี่ยนโครเมียมด้วยโครเมียมสีดำ ตัดกับชุดแต่งลายรถแข่งแบบคลาสสิก สีตัวถัง มีให้เลือก เช่นสีแดง Competition Red, สีฟ้า Royal Blue และสีเขียวรถแข่งอังกฤษ Heritage Green เพื่อให้เข้ากับ Carbon Grey หรือ Old English White David Brown Automotive กระจังหน้าติดตั้งสัญลักษณ์ “60” ที่บ่งบอกถึงกาลเวลาในการดำรงอยู่บนโลกใบนี้
ภายในสามารถออกแบบโทนสีและเลือกใช้หนังได้ตามใจชอบ โดยจะมีที่นั่งสองหรือสี่ที่นั่งก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ในกรณีที่ต้องการที่นั่งเพียงสองที่นั่ง รถจะมาพร้อมโรบาร์แบบรถแข่ง หนังที่ใช้ในการตกแต่งภายใน สำหรับรถรุ่นสองที่นั่งจะใช้พวงมาลัยหุ้มหนังกลับ Alcantara แนวรถแข่ง หรือเลือกหนังและโทนสีตกแต่งได้ตามใจชอบ มาพร้อมเบาะแบบแข่งที่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยสี่จุดยึด ถังดับเพลิง แป้นเหยียบอะลูมิเนียม รวมถึงการแถมหมวกกันน็อกและกระเป๋าเดินทางอีกด้วย ระบบอินโฟเทนเมนต์ เชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอกได้คล้าย MINI รุ่นใหม่
Mini Remastered, Oselli Edition พร้อมเปิดรับจอง และจะส่งรถให้ภายในต้นปี 2022 ในรูปแบบพวงมาลัยที่มีให้เลือกทั้งซ้ายและขวา โดยผลิตในจำนวนจำกัดแค่ 60 คันเท่านั้น ในราคา 108,000 ปอนด์ หรือประมาณ 4.6 ล้านบาท (ยังไม่รวมอัตราภาษีนำเข้า).
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/