โดยฤดูกาลแข่งขัน 2023 จะเริ่มที่บาห์เรน รายการ บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 5 มีนาคม และสิ้นสุดที่ อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน โดยลาสเวกัสจะเป็นสนามในการแข่งขันรอบสุดท้าย เนื่องจาก ฟอร์มูล่า วัน ได้เพิ่มการแข่งขันสนามที่ 3 ในสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ไมอามีเข้าร่วมตารางการในฤดูกาลนี้ สำนักข่าวต่างประเทศ เอเอฟพี รายงาน
การแข่งขันในลาสเวกัสอยู่ภายใต้ “การรับรองมาตรฐาน” หรือการอนุมัติอย่างเป็นทางการของสนามแข่งโดย FIA หรือ สหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่พัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก รวมถึงการกำกับดูแลกำหนด กฎ ระเบียบ และความปลอดภัยต่าง ๆ ให้กีฬาแข่งรถเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ไชนีส กรังด์ ปรีซ์ ที่ได้ทำการแข่งขันครั้งสุดท้ายในปี 2019 กลับมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับ กาตาร์ กรังปรีซ์ ณ สนาม Losail International Circuit ซึ่งเปิดตัวในปี 2021 แต่จะไม่มีการแข่งขันในปีนี้
การแข่งขัน เฟรนช์ กรังด์ ปรีซ์ ซึ่งจัดแข่งครั้งแรกในปี 1906 ที่ได้รับการทำให้เป็นกรังด์ปรีซ์ที่เก่าแก่ที่สุด ได้ถูกยกเลิกไป โดยก่อนหน้านี้สนามแห่งนี้เคยถูกปัดตกไปในระหว่างปี 2009 และ 2017 ก่อนที่จะกลับมาทำการแข่งขันที่ Le Castellet
แต่สำหรับการแข่งขัน โซชี กรังปรีซ์ ในปีนี้ จะไม่หวนกลับคืนมา ภายหลังการยกเลิกสัญญา จากสถานการณ์การรุกรานยูเครนของรัสเซีย สำหรับการแข่งขันสองรายการที่ได้รับการพิจารณาว่าอยู่ภายใต้การคุกคาม อย่างเบลเยียมและโมนาโกจะยังคงอยู่
ทั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงของการกระจายสนามแข่งขันในศึกการดวลความเร็วยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการแข่งขัน 9 สนามในยุโรป, เอเชีย 8 สนาม, อเมริกาเหนือ 4 สนาม รวมถึงสนามการแข่งขันใน อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง
“การจัดการแข่งขัน 24 รายการในปฏิทิน “FIA Formula One World Championship” ปี 2023 ถือเป็นการพิสูจน์ที่ได้ถูกเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อเป็นหลักฐานของการเติบโตและความน่าสนใจของกีฬาประเภทนี้ในระดับโลก” โมฮัมเหม็ด เบน ซูลาเยม ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ FIA กล่าว