พี่ชายเสี่ย Z4 โวย! ไม่เคยพูดจะรับผิดชอบแทน ลั่นน้องไม่ใช่คนรวย-เศรษฐีร้อยล้าน – ข่าวสด

พี่ชายเสี่ย Z4 โวย! ไม่เคยพูดจะรับผิดชอบแทน ลั่นน้องไม่ใช่คนรวย-เศรษฐีร้อยล้าน เคลียร์เรื่องประกัน รอเพื่อนน้องชายที่ทำงานบริษัทเดียวกันช่วยดู

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เพิ่มเพื่อน

จากกรณีรถ BMW Z4 ขับซิ่งท่ามกลางสายฝนแซงรถคันอื่นไป-มา ก่อนจะเสียหลักข้ามเกาะกลางพุ่งมาชน รถซูซูกิ สวิฟท์ สีบรอนซ์ทองอย่างจัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย

รายการโหนกระแสวันที่ 16 มิ.ย. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล” รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ เรื่องข้อกฎหมาย และเรื่องการขับรถโดย “พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ” สื่อสารมวลชนด้านยานยนต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์

ดูสภาพแล้ว หลังรถข้ามไปชน ไมค์ไปอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชม. ซึ่งน่าจะทำความเร็วได้มากกว่านั้น มองยังไง?

พัฒนเดช : รถที่เกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง หลังผ่านการเกิดอุบัติเหตุแล้ว เท่าที่ทราบ เข็มไมค์จะไปอยู่ที่เลขเท่าไหร่ ไม่ได้หมายความว่ารถคันนั้นมาที่ความเร็วเท่านั้น สมมติเราขับรถที่ 150 ทันทีที่หมาตัดหน้า เราปั้งแล้วชนหมา เข็มไมค์ตอนนั้นสมมุติอยู่ที่ 60 นั่นไม่ได้แปลว่าเรามา 60 แล้วชนหมา ตรงนั้นเป็นอิมแพ็กไทม์เท่านั้นเอง คือเวลาที่ปะทะ แต่ก่อนหน้านั้นอีก 2-3 เมตร เรามาเร็วกว่านั้น ฉะนั้นมันจะอยู่ที่ 80 ก็ช่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ชี้ชัดว่ารถคันนี้น่าจะมาเร็วกว่า 80 กิโลเมตรต่อชม.คือ เขาเปิดประทุนวิ่ง รถที่เปิดประทุนวิ่ง เวลาฝนตกความเร็วถ้าขับด้วยความเร็วต่ำๆ ฝนจะตกลงมาในห้องโดยสาร ถ้าขับความเร็วสูงสักหน่อย เอาเป็นว่าเกิน 80 ลมที่พัดผ่านกระจกจะพัดผ่านเม็ดฝนข้ามไปหมด มันปลิวข้ามหัวไปหมด มันต้องใช้กระแสลม ฉะนั้นรถคันนี้อย่างน้อยๆ น่าจะเกิน 80

ขึ้นหลักร้อยมั้ย?

พัฒนเดช : ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ดูจากคลิปที่เขาแซงดูจากน้ำที่ฟุ้งบนถนน รถยิ่งเร็ว น้ำจะยิ่งฟุ้งเป็นละอองเม็ดเล็กฝอยขึ้นมาเรื่อย น่าจะใช้ความเร็วพอสมควร

ประกอบกับรถกระบะที่เขาถ่ายคลิปไว้ได้ เขาขับ 90 กม.ต่อชม. บีเอ็มถ้าเทียบความเร็วคู่กระบะแล้ว ถ้า 90 จะอยู่คู่กันมั้ย?

พัฒนเดช : เวลาอธิบายคนขับรถไม่ว่าจะการจราจรติดขัด ถ้าขับไป รถคันหน้าวิ่งด้วยความเร็ว 90 คุณจะแซง คุณออกมา 95 กว่าจะแซงกันได้เป็นสิบกิโล เพราะส่วนต่าง 5 กิโลเมตรต่อชม. มันอืด ฉะนั้นถ้าคุณจะแซงให้เร็ว ถ้าคันหน้า 90 คุณต้อง 110 ต้องต้องชาร์ตเทคออฟออกปรื๊ดไป ฉะนั้นถ้ากระบะมา 90 จากสภาพการแซง เขาน่าจะอยู่เกิน 110 โดยประมาณ เทียบจากเวลาที่เขาออกไป ซึ่งจะมีคลิปนึงที่เขาแซงออกขวา มีรถบรรทุกอยู่ขวา เขาตบเข้าซ้ายและปรื๊ดไป น่าจะไปเร็วพอสมควร จากคลิปเขาไม่น่าจะมาช้า ช่วงเริ่มแซงน้ำยังไม่บาน แต่พอไปครึ่งคัน เขากดคันเร่งเพื่อให้ผ่านให้เร็วที่สุด ก็เป็นหลักการแซงรถที่ถูกต้อง ต้องผ่านคันที่เราจะแซงไปให้เร็วที่สุด ถ้าไม่คิดว่าเขาแซงซ้ายนะ

กำลังบอกให้ดูลักษณะน้ำที่เวลาทำความเร็วขึ้นไป น้ำกระฉอกบานออกมา?

พัฒนเดช : ถ้าดูตามคลิปไม่มีน้ำขังบนถนนนะ เป็นถนนเปียกธรรมดา แต่น้ำเป็นละอองเล็กมากก็ต่อเมื่อมันไปเร็ว ล้อสะบัดน้ำเร็วขึ้น ทำให้เห็นเป็นน้ำกระจายมากขึ้น

ถ้ามองในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ มีคนตั้งประเด็นว่าขับด้วยความคึกคะนอง สองรถเปิดประทุน ถ้าขับช้าฝนจะเข้าไปในรถได้ ถ้าขับไปแล้วเปิดประทุนทำให้ลมตีผ่านไปข้างหลังเพื่อหลบฝน หรือมองอีกมุม ถ้าสังเกตเห็นมีรถเก๋งคันนึง คันสีเทา มาคู่กันเลย รถฮอนด้าซิตี้ มาเร็วแล้วบีเอ็มไล่บี้มา จนไปเกิดอุบัติเหตุ รถซิตี้คันนั้นจอดข้างซ้าย สักพักเขาไปเลย มันผิดวิสัยคนที่ต้องลงไปดูมั้ย?

ทนาย : แสดงให้เห็นว่ามีการเชื่อมโยงอะไรกันมาหรือเปล่า

เขามาเร็วทั้งคู่นะ อาจารย์มองยังไง?

พัฒนเดช : มาเร็วด้วยกันทั้งคู่ จะเห็นว่าบีเอ็มคันนี้แซงซ้ายบ่อยมาก เมื่อตอนแซงรถบรรทุกก็แซงซ้าย ไปด้วยความเร็วไม่อยากชะลอ ไม่อยากแตะเบรก อย่างที่บอกอาจไม่อยากให้ฝนตกลงมาในห้องโดยสารก็ได้

เชื่อว่าตอนรถบีเอ็มข้ามเกาะไป แสดงว่าเขาต้องแซงฮอนด้าคันนี้ได้แล้ว ?

พัฒนเดช : ถ้าจากภาพน่าจะแซงรถคันนี้มานานพอสมควร เพราะรถบีเอ็มข้ามไปแล้ว จะเห็นว่าฝั่งโน้นการจราจรติดขัดอยู่ 7-8 คัน น่าจะเห็นว่ากระจายแล้วจอด น่าจะแซงไปอย่างน้อยก็ 3-4 นาที ดูจากสภาพการณ์นะ ถ้าเขาตีคู่กันมาแล้วไป เขาจอดไม่ทันหรอก นี่จอดตรงที่เกิดเหตุพอดี ตรงที่มีชิ้นส่วนกระจายพอดี บีเอ็มน่าจะแซงไปไกลแล้วครับ เพราะรถฝั่งโน้นติดขัดแล้ว

น่าจะหายสงสัยในจุดนี้ได้ ตอนนี้อยู่ในสายกับพี่ชายคนขับรถบีเอ็ม “คุณภูริทัต ภูร์ไชยแสง” อยู่ในสาย กรณีที่เกิดขึ้นเห็นว่าจะรับผิดชอบทางผู้สูญเสีย?

ภูริทัต : ใครรับผิดชอบดูแลครับ

ออกข่าวหรือเปล่าว่าจะรับผิดชอบ?

ภูริทัต : ผมยังไม่เคยพูดนะครับ ตอนนี้กำลังหาว่าใครไปลงว่าผมจะรับผิดชอบ เพียงแต่ผมจะพยายามติดตาม สอบถาม แล้วก็ดูแลผู้สูญเสียด้วยมนุษยธรรม เพราะงานนี้มีแต่คนสูญเสีย และผมไม่มีข้อมูลของน้องว่าเขาทำอะไรไว้บ้าง ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุมีอะไรบ้างที่จะมาดูแล ในส่วนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งผมยังไม่มีข้อมูล ผมขอเวลาทำศพน้องชายก่อน

ยืนยันว่าไม่ได้พูดว่าจะเข้าไปดูแล ?

ภูริทัต : ไม่เคยพูดแม้แต่คำเดียว มีแต่พูดว่าเราสูญเสียกันทุกฝ่าย ผมพยายามทำดีที่สุดเพื่อคนที่เรารัก แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าผมทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากผมไม่มีข้อมูลสำหรับน้องเลย แต่รับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ตามสิทธิ์น้องที่มี เพราะน้องผมไม่ใช่คนร่ำรวย เศรษฐีร้อยล้าน ดังที่สังคมกล่าวขาน และครอบครัวผมไม่ได้มีสมบัติมากมายมหาศาลแบบนั้น ครอบครัวผมเป็นชาวบ้านธรรมดา ทำมาหากินตามอัตภาพ เป็นข้าราชการบ้านนอก ซึ่งพอมีพอกิน ไม่ได้เป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้าน และน้องชายผมเขาก็หาเงินใช้จ่ายแม้จะฟุ่มเฟือยหรูหราแต่เป็นวิถีชีวิต เป็นสไตล์ในการทำงาน การดำเนินชีวิตของน้องเขา

เป็นสไตล์นการทำงานที่ต้องใช้ชีวิตหรูหรา?

ภูริทัต : ก็เขาเป็นคนโสด เขาไม่มีพันธะผูกพัน พันธะอย่างเดียวที่เขามีคือแม่แต้มคนเดียว ที่กำลังชรา เขาเป็นลูกชายคนเล็ก ความหวังของแกคือแม่ แกติดค้างอย่างเดียวคือการปรับปรุงบ้านหลังเก่า 3-4 ล้านให้แม่อยู่ก่อนเสียชีวิต และเขาอาจมาอยู่ตอนเขาเกษียณ ทำงานไม่ได้ก็แค่นั้น แต่เขาซื้อบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วแค่นั้นเองครับ

ทนาย : เบื้องต้นรถคันนี้มีประกันมั้ย

ภูริทัต : ผมเช็กได้แค่เรื่องพ.ร.บ. ส่วนประกันอย่างอื่นเนื่องจากเอกสารในรถมันชำรุดเสียหายหมด เปียดหมด รถก็ไม่รู้จะซ่อมได้หรือเปล่า

ได้ติดต่อสอบถามไฟแนนซ์มั้ย เห็นว่ายังผ่อนอยู่?

ภูริทัต : ยังไม่ได้โอน แต่เป็นชื่อเขาครับ เรื่องประกันกำลังเคลียร์อยู่ ตอนนี้รอเพื่อนน้องชายที่ทำงานบริษัทเดียวกัน อยู่คอนโดใกล้กัน ทนายประจำตัวคู่ทุกข์คู่ยากที่ดูแลทรัพย์สินเขา ดูแลธุรกิจในขณะที่เขาไปทำสัญญา เพราะน้องชายเขาทำลักษณะฟรีแลนซ์ เปิดบริษัท ประมูลงานเล็กๆ น้อยๆ หรือไปไปซัปกับองค์กรใหญ่ๆ เพราะเขาทำเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ เป็นผู้ดูแลระบบ ทำดาต้าเบทส์ครับ

ทนาย : พูดง่ายๆ ว่าทรัพย์สินผู้ตายพี่ไม่ทราบเลย

ภูริทัต : ไม่ทราบครับ ปกติน้องชายผมจะไม่ค่อยมีเงินสดติดตัว ถ้ามีจะใช้ มีล้านใช้ล้าน มีแสนใช้แสนครับ

ทนาย : มีการเยียวยาน้องๆ ซูซุกิบ้างมั้ย

ภูริทัต : ยังเลยครับ แต่ตอนนี้ลูกสาวส่งหรีดไปคารวะศพ ไลน์ไปหาพี่สาวที่อยู่เพชรบูรณ์ ตัวผมก็โทรศัพท์คุยกับคุณแม่น้องกรกฎ ก็แสดงความเสียใจและปรับทุกข์กันแล้ว แต่เรื่องค่าใช้จ่าย ค่าเสียหายต่างๆ ผมก็ยังรับปากไม่ได้ ขอให้ผมใช้เวลา ขอเคลียร์ทีหลัง ตอนนี้ผมใช้เวลาเร่งรีบทำบุญให้น้อง ปลงศพเสียก่อน

เรื่องนี้มองยังไง?

ทนาย : กรณีนี้การสรุปคดีตั้งข้อกล่าวหาได้ต้องดูพยานหลักฐาน กรณีนี้จากคลิปหรือหลักฐานต่างๆ แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ว่าคนขับรถ Z4 ยังไงก็ประมาท การประมาทของเขาคือวิญญูชนทั่วไปเขาไม่ขับแบบนี้กัน เมื่อเกิดความตายขึ้นมา แน่นอนประมาทเป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตาย ส่วนคดีอีกฐานพ.ร.บ.จราจรทางบก มีการกำหนดชัดเจนขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ความเดือดร้อนของผู้อื่น ในส่วนนี้มีโทษจำคุก 3 เดือน เบื้องต้นจะมองว่ารถเก๋งซิตี้จี้มา การกระทำตรงนั้นเกิดจากการยั่วยุ การที่จะอ้างว่าเหตุนี้เกิดจากรถซิตี้ ในความเห็นนักกฎหมาย มันยังไกลเกินไป เพราะรถบีเอ็มก็สามารถไม่แข่งได้ จากพยานหลักฐานก็ยังไกลไปที่จะตั้งว่าซิตี้ผิด ผมมองว่าการกระทำความผิดหลักๆ น่าจะเกิดจากบีเอ็มก่อน

กรณีรถเหินน้ำไปชนฝั่งโน้นมันจะเกิดขึ้นได้มั้ย?

พัฒนเดช : มีครับ ขึ้นอยู่กับระดับน้ำที่ฉาบอยู่บนผิวถนน ขึ้นอยู่กับความเร็วรถที่มา องศาล้อที่ไปกับน้ำ เหมือนเราเอากระเบื้องไปแฉลบกับน้ำ ถ้าองศาดีก็ไป แต่ถ้าไม่ดีก็จม อาการเหินน้ำของรถก็คล้ายๆ กัน หนึ่งขึ้นอยู่กับระดับน้ำ สองล้อที่เข้าไปทำมุมถูกต้องมั้ยกับความเร็ว

เรื่องยาง เป็นปี 2018 ถือว่าไม่ได้เตรียมพร้อมมั้ย?

พัฒนเดช : ยางมีหลายอย่าง หนึ่งอายุ ถ้าอายุ 2018 ปีนี้ 2021 ยังเด็กๆ สบายมาก สองระยะไมล์ที่มา แม้ 2 ปีเศษ แต่เขาวิ่งมา 8 หมื่น แสนกิโลแล้ว การสึกหรอจะเยอะขึ้น สามสภาพยางส่วนใหญ่เราจะดูดอกยางว่าหัวโล้นหรือเปล่า อันนี้ถือว่าดอกอยู่ในระดับใช้ได้ ยางทุกยี่ห้อในร่องดอกยาง จะมีอินดิเคเตอร์ ตัวเหมือนตัวกั้นเล็กๆ ในร่องดอกยาง ถ้าสึกไปยังไม่ถึงตัวนั้น โดยทางหลักบริษัทยาง เขาถือว่าร่องดอกยาง ยังมีความลึกพอ ตรงนั้นเป็นตัวชี้วัดว่าหัวโล้นหรือยัง พูดแบบชาวบ้าน

ทนาย : รถบีเอ็ม น้ำหนักมันเท่าไหร่

พัฒนเดช : Z4 มีเครื่อง 2 เครื่อง เครื่อง 2 พันซีซี กับเครื่อง 3 พัน นี่พูดแบบชาวบ้าน น้ำหนัก 2 พันก็อยู่ที่ประมาณ 1,500 กิโลกรัม เครื่อง 3 พันก็หนักกว่าร้อยสองร้อย ตันครึ่ง ประมาณ 1,600 กิโลกรัมบวกลบ

ในมุมการปะทะ สุดท้ายรถเหินไปชนรถอีกฝั่งที่ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่เลย?

พัฒนเดช : ลองนึกถึงข่าวที่ว่าเวลามีบวชนาค ปีใหม่ เรายิงปืนขึ้นฟ้า ลูกกระสุนเท่าปลายนิ้วก้อยตกลงมาเจาะกระเบื้องแตก นี่น้ำหนักตันครึ่งเหินขึ้นไปแล้วลงมา น้ำหนักของรถส่วนใหญ่อยู่ด้านหน้าอยู่แล้วเพราะเครื่องยนต์อยู่ตรงนั้น อย่างน้อยด้านหน้าต้องมี 800 กิโลกรัม ที่พุ่งเข้ากระแทก มันแรงมากนะครับ ความเสียหายมันเยอะมาก ต้องไปดูว่าสุภาพสตรีที่เสียชีวิตในรถคันนั้นเสียชีวิตด้วยอะไรเพราะเข้าด้านข้าง ถ้าเข้าด้านหน้ารถสมัยนี้เบาะนั่งมีพนักพิงที่ศีรษะเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกคอเสียอยู่แล้ว ถ้าเข้าด้านข้างต้องให้แพทย์ดูแล้ว

ผู้บังคับการตร.ภูธรจ.เพชรบูรณ์เผยว่าจากกล้องตรวจจับความเร็ว พบว่าก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร กล้องจับรถบีเอ็มคันนี้ได้ ใช้ความเร็วอยู่ที่ 133 กิโลเมตรต่อชม. ท่านยังบอกอีกว่าแทบเป็นไปไม่ได้ถ้าขับมาแล้วชะลอรถในจุดที่ห่างกันไปไม่กี่นาที น่าจะต่อเนื่องกันมา ตรงนั้นที่ไปชนน่าจะ 130 มองอย่างนั้นมั้ย?

พัฒนเดช : ความเร็ว 2-3 กิโลเมตรคงไม่มีเหตุอะไรให้ลดความเร็วลงไปมากกว่านั้น นี่ดูเหมือนขับโดยไม่รอ แซงได้แซง ขวาได้ขวา น่าจะตั้วสมมุติฐานว่าเขาไปด้วยความเร็วที่เขาไป

เราจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ครอบครัวน้องสองคนได้ยังไงบ้าง?

ทนาย : กรณีเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นแล้ว แน่นอนต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหา ตอนนี้ตร.กำลังแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นน่าจะไม่พ้นมาตรา 291 ประมาททำให้บุคคลถึงแก่ความตาย พนักงานอัยการก็ต้องมีการสั่งฟ้องพร้อมเรียกค่าเสียหายให้ ค่าปลงศพ ค่าซ่อมรถ ค่าทดแทนต่างๆ ตรงนี้เป็นหน้าที่ญาติผู้เสียชีวิต น้องทั้งสองท่านที่ต้องหาพยานหลักฐานส่งเข้ามาให้ การเข้ามาเป็นคดียังไงญาติผู้เสียชีวิตเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมได้ นี่คือคดีอาญา ถ้าเรียกร้องเพิ่มเติมเราต้องไปฟ้องในกองมรดก ผู้ตายเมื่อขับรถบีเอ็มต้องร้องจัดการมรดกขึ้นมา ส่วนรถซูซุกิ ก็สามารถฟ้องเรียกร้องทรัพย์สินที่เป็นกองมรดกคนขับรถบีเอ็ม

ตอนนี้อยู่ในสายกับ “นิตยา หิรัญ” แม่น้องโฟน หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่อยู่ในรถซูซุกิ ตอนนี้เขาติดต่อกลับมาหาแม่ยังไงบ้าง?

นิตยา : เมื่อวานส่งพวงหรีดมา เมื่อเช้าน่าจะญาติหรือพี่ชายหรือใครไม่ทราบ โทรมาแสดงความเสียใจ ก็แค่นั้น เรื่องรับผิดชอบยังไม่พูดถึงค่ะ เขาบอกว่าเขารอเวลารอจัดการศพให้เรียบร้อยก่อน

คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง?

นิตยา : ทั้งสองคนช็อกมากนะคะ เพราะมีลูกคนเดียวและเป็นคนมีลูกยาก ที่ได้ลูกคนนี้มาก็ทำกิ๊ฟต์ เป็นอะไรที่บอกไม่ถูกเลย ลูกก็น่ารัก พี่ก็ฝากความหวังไว้กับเขา เพราะเรามีลูกคนเดียว ลูกคนที่สองเราทำกิ๊ฟต์ไม่ได้ เพราะมดลูกรังไข่พี่พังหมดเลย เนื่องจากเราได้ฮอร์โมนไปเยอะจากการเร่งไข่ให้มีไข่มาผสม กลายเป็นมดลูก – รังไข่ก็พัง พี่ก็โดนตัดมดลูก-รังไข่ตั้งแต่น้องได้ 3 ขวบ (ถอนใจ)

ปกติน้องโฟนเป็นคนยังไง?

นิตยา : น้องน่ารัก จิตใจอ่อนโยน ไม่เอาเปรียบคน เป็นคนขี้สงสาร เจอแมวอยู่ข้างถังขยะข้างถนน หมาจะตะครุบเขาก็เอาแมวไปเลี้ยงไปรักษา มีเงินไม่พอ ไม่อยากขอคุณพ่อ ก็เอาแหวนที่คุณแม่ซื้อให้วงนึงไปขายรักษาแมว จนกระทั่งสุดท้ายแมวตาย กลับมาบ้านเราถามถึงแหวน เขาบอกว่าเขาไปเจอแมวกำลังจะโดนหมาขย้ำ เขาเอาไปรักษา เงินไม่พอก็เอาแหวนไปขาย ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาจะซื้อใหม่นะคุณแม่ (เสียงสั่น) เรารู้ว่าพื้นฐานลูกเราเป็นคนจิตใจดี แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แม้แต่หัวหน้างานเขาก็พูดว่าน้องโฟนน่ารัก รับผิดชอบงาน ไม่เรื่องมาก ไม่พูดหยาบ ไม่เอาเปรียบคน ไม่ว่าใคร แม้แต่คุณพ่อน้องอุ้ยที่เสียชีวิตด้วยกัน ก็พูดว่าลูกคุณแม่น่ารัก ขอมาจัดงานศพพร้อมกันได้มั้ย ก็บอกว่าไม่ได้หรอก (ร้องไห้) เขาเป็นเกาะสมุย พี่น้องญาติเขาเห็นตั้งแต่เล็กๆ คุณแม่เลยต้องเอามาที่นี่

งานเสร็จเรียบร้อยมั้ย?

นิตยา : ยังค่ะ ศพน้องมาถึงเมื่อวานตอน 8 โมง สวดคืนนี้คืนแรก ก็จะสวดถึงวันศุกร์ ฌาปนกิจวันเสาร์ค่ะ

แม่จะดำเนินการตามกฎหมาย?

นิตยา : อาเขาบอกว่าโฟนหรือน้ำฝนเป็นหลานรักของเขา แล้วหลานเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย มาเกิดเรื่องแบบนี้เขาก็ไม่ยอม ลูกพี่กำลังทำงาน มีลูกคนเดียว เขาบอกว่าไม่ต้องห่วง ตอนคุณพ่อกับคุณแม่อายุมาก เขาจะดูแลแม่เอง (ร้องไห้) เพราะลูกเห็นเราดูแลคุณปู่คุณย่าจนเขาเสียชีวิต เขาก็ทำกับคุณปู่คุณย่าได้ทุกอย่าง ล้างก้น เช็ดอึ เปลี่ยนเสื้อผ้า

เรื่องทั้งหมดถ้าจะบอกคนใช้รถใช้ถนน อยากบอกยังไง?

พัฒนเดช : อย่าคึกคะนอง อย่าคิดว่าตัวเองเก่งเกินรถ คนร่วมรถเป็นส่วนสำคัญทำให้คนขับรถขับดีหรือไม่ดี เช่นเพื่อนนั่งไปด้วยกัน แล้วมีรถคันนึงแซงบอกว่าเฮ้ย ไล่แซงมันเลย ถ้าในทางขึ้นเขาแล้วไปชี้ชวนชมนกชมไม้ สมาธิเขาเสียหรือไปบ่นทำให้สมาธิเสีย คนนั่งในรถมีส่วนสำคัญกับการขับรถดีหรือไม่ดี ต้องช่วยกัน

ทนายแก้วจะไปดูแลฝั่งน้องอุ้ย?

ทนาย : ใช่ครับ แน่นอนว่าตอนนี้น้องเสียชีวิตไปแล้ว สิ่งที่ทำได้คงเรียกร้อง ฟ้องร้องค่าทดแทนต่างๆ ตอนนี้กำลังติดต่อกันอยู่ ผมพร้อมทำให้ครับ