พบโฆษณา “แข่งสูบแลกกัญชา” ยันผิด กม. จ่อตรวจเพิ่มย่านสุขุมวิท “อนุทิน” ชูไฟเบอร์กัญชงผลิตโครงรถ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนุทิน” เปิดงานนวัตกรรม “กัญชง” ชูทำไฟเบอร์ผลิตโครงรถ ตอบโจทย์อุตสาหกรรม สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ ย้ำมีกฎหมายคุมห้ามสูบในร้าน ที่สาธารณะ ด้านกรมแผนไทยรับกฎหมายยังเอื้อมไม่ถึงเปิดพื้นที่สูบนอกร้าน ต้องใช้กฎหมายอื่นคุมเพิ่ม ทั้งสุขลักษณะและเหตุรำคาญ พบบางร้านโฆษณาชวนแข่งสูบแลกรางวัลกัญชา ย้ำผิดกฎหมาย จ่อตรวจเพิ่มย่านสุขุมวิท

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดงาน Asia International Hemp Expo 2022 งานแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชงนานาชาติครั้งแรกของไทย ว่า เรานำกัญชงมาใช้ ไม่มีเรื่องสูบเสพเป็นยาเสพติด เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ งานนี้แสดงให้เห็นว่ากัญชงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทั้งผู้ประกอบการทำในเรื่องของอุตสาหกรรม เกษตรกรที่ปลูกเพื่อเป็นวัตถุดิบคุณภาพตามมาตรฐาน ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องภูมิปัญญาทำเป็นอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตอุตสาหกรรมหนักทั่วโลก อย่างในงานมีการแสดงถึงการนำมาทำเส้นใยไฟเบอร์เป็นโครงของรถยนต์ ที่ให้น้ำหนักเบาและคงทนแข็งแรง ทำเป็นเสื้อเกราะกันกระสุนก็ได้ รวมไปถึงยารักษาโรค ก็จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถ้าใครมีความกังวลหรือข้องใจเรื่องการใช้กัญชงกัญชาไปในทางที่ผิดเป็นอันตรายต่อประชาชน ขอให้มาดูในงานนี้ ซึ่งจะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2565 จะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จะเห็นว่าเป็นทางเลือกให้กับคนไทยในการสร้างรายได้

ด้านนายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย กล่าวว่า กัญชงเป็นพืชสำหรับทุกคนและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนในทุกมิติ สอดคล้องกับแนวคิดการเป็นมิตรต่อโลก เป็นทางเลือกสำคัญของภาคอุตสาหกรรม ภายในงานมีการนำเอานวัตกรรมอุตสาหกรรมกัญชงมาจัดแสดง เช่น วัสดุทางการแพทย์จากกัญชง รถไฟฟ้าจากไฟเบอร์กัญชงคันแรกของไทย ส่วนประกอบอากาศยานและยานยนต์ รวมไปถึงยา อาหารแห่งอนาคต มีผู้ประกอบการร่วมออกบูธจากทั่วโลกกว่า 300 รายในอุตสาหกรรมกัญชงตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้เห็นว่าไทยเป็นที่น่าจับตามองอย่างมากของผู้ประกอบการทั่วโลก คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะสร้างรายได้หมุนเวียนในอุตสาหกรรมกัญชงไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท และคาดว่ามูลค่าตลาดกัญชง กัญชา กระท่อมของไทย จะเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 25 ต่อปี



เมื่อถามถึงกรณีการตรวจสอบร้านจำหน่ายช่อดอกกัญชาที่ถนนข้าวสาร ซึ่งพบว่ายังมีการโฆษณาชักชวนสันทนาการ จัดพื้นที่ให้สูบ นายอนุทินกล่าวว่า สูบในพื้นที่สาธารณะ สถานประกอบการ และในร้านไม่ได้ ต้องใช้ในทางการแพทย์ ส่วนที่บอกมีแพทย์แผนไทยเฝ้าร้านแล้วให้สูบได้ ก็ไม่ถูกต้อง ทำไม่ได้ ขอให้เลิกเสีย ทางที่ดีที่สุด คือ ออก พ.ร.บ.กัญชง กัญชา ออกมาโดยเร็ว จะได้ลดความวิตกกังวลของประชาชน แม้กฎหมายจะไม่ออกก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขในการควบคุมการใช้กัญชากัญชงอย่างถูกวิธี อย่างมาวันนี้เป็นการใช้กัญชงอย่างถูกวิธี ใช้โมเดลแบบนี้ เป็นพืชแห่งโอกาสสร้างรายได้แก่ประชาชนผู้ประกอบการ สร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

ด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ประกาศควบคุมช่อดอกก็ถือว่ามีความครอบคลุมอยู่ การลงพื้นที่เมื่อวานเราไปดูว่าออกประกาศแล้วดำเนินการถูกต้องหรือไม่อย่างไร หรือมีจุดที่ต้องพัฒนา เราพบว่าบางร้านขออนุญาตจากต่างจังหวัดแต่มาประกอบการใน กทม.ก็ให้กลับไป หรือมีร้านหนึ่งที่มีการโฆษณา ซึ่งเป็นข้อความเชิญสูบแข่งขันมีค่าแรกเข้า 4 พันบาท ใครชนะก้มีกัญชาให้ ซึ่งตรงนี้ทำไม่ได้ก้ให้เขาเอาออก ย้ำว่าไม่สามารถโฆษณาได้ทุกรูปแบบ ทั้งการเชิญชวน ลดแลกแจกแถมไม่ได้ทั้งสิ้น ที่ทำได้คือการติดแค่ราคาบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งคนก้จะรู้อยู่แล้ว บางเรื่องไม่ต้องทำให้มันโจ่งแจ้ง เพราะก็ไม่ได้ทำให้ขายมากขึ้น แต่กลับทำให้เกิดประเด็น ทั้งนี้ จะไปมีการลงดูจุดอื่นๆ ที่มีร้านจำหน่ายหลายแห่งแถวสุขุมวิท ก็จะทยอยไปให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนข้อมูลให้รับทราบถึงการบังคับใช้กฎหมาย

ถามถึงกรณีการจัดพื้นที่สูบนอกร้านแต่กฎหมายยังเอาผิดไม่ได้ นพ.ธงชัยกล่าวว่า หากเอาเฉพาะกฎหมายของกรมคือ ประกาศควบคุมช่อดอก เราจะดูว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเจ้าของเดียวกันก็เอาผิดได้ แต่จากที่เราลงไปดูพบว่าเจ้าของพื้นที่เป็นคนละส่วนกัน เจ้าของฮอล์นั้นเขาเป็นคนทำ และแยกกันกับทางร้าน แต่เชื่อว่าก็คงมีการพูดคุยกัน เพราะแม้ร้านจะเว้นช่วงห่างจากกัน แต่เมื่อซื้อเสร็จก็สามารถชี้บอกให้ข้ามไปตรงนั้นได้ ซึ่งลักษณะแบบนี้กฎหมายของกรมเราไปไม่ถึง ก็คงต้องใช้กฎหมายอื่น เช่น กฎหมายของท้องถิ่นมาดูว่าสุขลักษณะที่ทำอย่างนี้ถูกต้องไหม ให้กรมอนามัยมาช่วยดูอีกอย่างเรื่องของกลิ่นและควันเป็นเหตุรำคาญ ก็ต้องเอากฎหมายอื่นๆ มาประกอบด้วย เราก็บอกและแนะนำว่า อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่ดี ถ้าเราทำอย่างนี้กันเยอะๆ แล้วสังคมกังวลกันมาก หากจะถูกเปลี่ยนกลับไปเป็นอะไรที่ยุ่งยากมากขึ้น ก็จะลำบากในการทำธุรกิจ