“ผบ.ตร.” สั่งทุกหน่วยต้องใช้ 18 กฏเหล็กแต่งตั้งฯ ระดับ สว. ถึง รอง ผบก. วาระประจำปี 65

ขีดเส้นตาย ทุก บช.ต้องเสร็จภายใน 29 ธ.ค.นี้ -รอลุ้น สกพ.มีคำสั่งให้มีผล.?

วันที่ 7 ธันวาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้มีคำสั่ง เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว. ถึง รอง ผบก. วาระประจำปี 2565 ถึงผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่าผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่าโดยหนังสือคำสั่งดังกล่าวระบุว่าด้วยขณะนี้อยู่ในห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ สว.ถึง รอง ผบก. วาระประจำปี 2565 ซึ่งจะต้องดำเนินการตามมาตรา 178 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2565 ประกอบกับมาตรา 54 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลง 25 ก.ค.61 เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2561กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2562 และระเบียบกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้

1.) การจัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2561 ข้อ 23 (2 ) (3 ) และข้อ 24 พร้อมทั้งให้ข้าราชการตำรวจที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นจัดทำสรุปผลการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นรูปธรรมและเป็นที่ยอมรับว่าเป็นประโยชน์ต่อ ตร. ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง โดยเป็นผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติด้วยตนเอง จำนวนไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ (ขนาด A4) และรับรองความถูกต้อง โดยให้ดำเนินการ ดังนี้- เลื่อนเป็นระดับ ผกก. และ รอง ผบก. ให้ บช. รวบรวมข้อมูลแล้วเสนอ ตร.(ผ่าน ทพ.)ใน 12 ธ.ค.65 -เลื่อนเป็นระดับ สว. และ รอง ผกก. ให้ บช. รวบรวมข้อมูลใน 19 ธ.ค.65 สำหรับหน่วยงานระดับ บก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. ให้ บก. รวบรวมส่งข้อมูลแต่ละระดับมายัง ทพ. ตามกำหนดวัน

2.) การจัดทำบัญชีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงความอาวุโส ประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ ความรู้ความสามารถประกอบกัน และให้ดำเนินการ ดังนี้ บช. และ บก.ขึ้นตรง ในสังกัด สง.ผบ.ตร.-ระดับ ผกก. และ รอง ผบก. ให้ดำเนินการจัดส่งบัญชีข้อมูลเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ไปยัง ตร.(ผ่าน ทพ.) ใน 20 ธ.ค.65 ตามรูปแบบผนวก ข-ระดับ สว. และ รอง ผกก. ให้ดำเนินการจัดส่งบัญชีข้อมูลเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ไปยัง ตร.(ผ่าน ทพ.) ใน 26 ธ.ค., บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. ระดับ ผกก. และ รอง ผบก. ให้ดำเนินการจัดส่งบัญชีข้อมูลเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจไปยัง ตร.(ผ่าน ทพ.) ใน 20 ธ.ค.65 -ระดับ สว. และ รอง ผกก. ซึ่งเป็นอำนาจของ ผบช. ให้ดำเนินการจัดทำบัญชีการแต่งตั้งให้เสร็จสิ้นใน 28 ธ.ค.65 แล้วให้ทุกหน่วยส่งบัญชีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจไปยังตร.(ผ่าน ทพ. ใน 29 ธ.ค.65 เพื่อตรวจความช้ำซ้อนของตัวยุคคลกับตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้ง สำหรับวันที่มีคำสั่งแต่งตั้งและวันมีผลใช้บังคับมอบหมายให้ สกพ. แจ้งให้หน่วยทราบเพื่อดำเนินการต่อไป

3.) ข้าราชการตำรวจที่อยู่ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 33 ให้พิจารณาเสนอหรือดำเนินการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นทุกราย, 4.) ข้าราชการตำรวจที่ได้ผ่านการคัดเลือกสถานีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นให้หน่วยพิจารณาหากเห็นว่ามีความเหมาะสม ให้เสนอ ตร. เพื่อเสนอแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แต่หากข้าราชการตำรวจดังกล่าวยังมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาเสนอแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งในสถานีตำรวจที่มีปริมาณและคุณภาพงานสูงขึ้นอย่างชัดเจน หรือหากข้าราชการตำรวจดังกล่าวมีความสมัครใจจะดำรงตำแหน่งเดิมต่อไปก็ให้พิจารณาไปตามนั้น หรือพิจารณาตอบแทนในรูปแบบอื่นตามสมควร

5.) การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งระดับ ผกก. ในส่วนที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ให้คำนึงถึงการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเป็นสำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ด้านยาเสพติด ให้สามารถปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่ องได้ทันที เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด, 6.) ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจระดับ ผกก. เมื่อดำรงตำแหน่งเดียวติดต่อกันครบ 4 ปี ให้เสนอแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งอื่นทุกราย, 7.) ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจระดับ ผกก. เป็นครั้งแรก ไม่ควรพิจารณาเสนอแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งในสถานีตำรวจที่มีปริมาณและคุณภาพงานสูง

8.) การพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นสำหรับข้าราชการตำรวจที่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งในสายงานสอบสวนครบถ้วนตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกลุ่มสายงานป้องกันปราบปรามพ.ศ.2561 ให้พิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในสายงานสอบสวนก่อนเป็นอันดับแรก สำหรับการรับรองการอยู่ปฏิบัติหน้าที่จริงในสายงานสอบสวนให้หน่วยต่าง ๆ ดำเนินการตามระเบียบ ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การรับรองการอยู่ปฏิบัติหน้าที่จริงในสายงานสอบสวน พ.ศ.2565 โดยเคร่งครัด, 9.) การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่อยู่ในบังคับตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกลุ่มสายงานป้องกันปราบปราม พ.ศ.2561 แต่มีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในสายงานสอบสวนไม่ครบถ้วนในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในกลุ่มสายงานป้องกันปราบปรามตามบทเฉพาะกาลมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกลุ่มสายงานป้องกันปราบปราม พ.ศ.2565 กรณีที่จะต้องเก็บประสบการณ์งนสอบสวนเพิ่มเติมในระดับถัดไปให้ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ หากได้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในกลุ่มสายงานป้องกันปราบปรามตามที่บทเฉพาะกาลกำหนด ให้มีเงื่อนไขท้ายคำสั่งแต่งตั้ง

10.) สำหรับตำแหน่งสายงานสอบสวนที่ทำหน้าที่สอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กำหนดขึ้นตามมติ อ.ก.ตร. เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลในการประชุมครั้งที่ 5/2563 เมื่อ 22 พ.ค.63 ให้พิจารณาข้าราชการตำรวจที่มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ หรือเคยปฏิบัติหน้าที่สอบสวนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อน, 11.) ให้ ศฝร. ถือเป็นหน่วยงานสำคัญ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพบุคลากร โดยทำหน้าที่ในการฝึกอบรม เพิ่มพูนความรู้และทักษะการปฏิบัติงานให้กับข้าราชการตำรวจ ดังนั้นข้าราชการตำรวจที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสังกัด ศฝร. จึงควรพิจารณาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีความกระตือรือร้น มีบุคลิกลักษณะที่เหมาะสม มีภาวะผู้นำเป็นแบบอย่างที่ดีในการประพฤติปฏิบัติให้กับผู้เข้ารับการอบรม หน่วยจึงควรคำนึงถึงคุณลักษณะดังกล่าวเป็นสำคัญในการพิจารณาแต่งตั้งซึ่งจะทำให้การปฏิบัติภารกิจด้านการพัฒนาคุณภาพบุคลากรของ ตร. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล สำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันหากหน่วยพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอหรือไม่มีความเหมาะสมที่จะปฏิบัติงานใน ศฝร. ก็ให้หน่วยพิจารณาแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมต่อไป

12.) ให้ทุกหน่วยดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามที่ อ.ก.ตร.ร้องทุกข์ มีมติให้เยียวยาหรือแก้ไขให้กับผู้ร้องทุกข์ทุกราย ทั้งนี้ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข้าราชการตำรวจที่ได้รับการเยียวยากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, 13.) ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่ เปิดให้บริการในลักษณะที่ คล้ายสถานบริการการป้องกันและปราบปรามอบายมุข ความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการค้ามนุษย์ ตลอดจนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ให้พิจารณาเสนอแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งในปริมาณและคุณภาพงานน้อยลงหรือไม่สัมผัสประชาชน, 14.) ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งในวาระประจำปี 2564 ให้ดำเนินการได้เฉพาะเท่าที่จำเป็นอย่างแท้จริง, 15.) ภ.1ภ.2 และ ภ.8 ที่ยังคงมีจำนวนตำแหน่ง สวป. ในสถานีตำรวจเกินกรอบตำแหน่งที่ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 12/2561 เมื่อ 27 พ.ย.61 กำหนดไว้ ให้ปรับเกลี่ยให้เป็นไปตามกรอบตำแหน่งที่ ก.ตร. กำหนด โดยพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวไปดำรงตำแหน่งอื่นทุกราย

16.) ให้ทุกหน่วยจัดส่งบัญชีตำแหน่งว่างรวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ก่อนการประชุมไม่น้อยกว่า 3 วัน เพื่อศึกษาเป็นข้อมูลก่อนการพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้ง, 17.) ให้หน่วยเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของข้าราชการตำรวจที่จะแต่งตั้ง ยศ ชื่อ ชื่อสกุล ตำแหน่ง เลขตำแหน่ง สถานภาพข้าราชการตำรวจและรายละเอียดอื่น ๆ ด้านธุรการให้ถูกต้อง โดยเฉพาะการแต่งตั้งเข้าสู่ตำแหน่งในกลุ่มสายงานป้องกันปราบปรามจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกลุ่มสายงานป้องกันปราบปรามพ.ศ.2561 และบทเฉพาะกาล ตามมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อ 27 ก.ย.64, 18.) ให้ บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. รวบรวมสำเนาคำสั่งแต่งตั้ง รวมทั้งสรุปจำนวนคำสั่งที่แต่งตั้งและรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งระหว่างส่วนราชการแล้วจัดส่งไปยังตร.(ผ่าน ทพ.) ภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่คำสั่งแต่งตั้งมีผลใช้บังคับ

ทั้งนี้ การจัดส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น บัญชีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งไปยัง ตร.(ผ่าน ทพ.) นั้น ให้ทุกหน่วยจัดส่งทั้งในรูปแบบเอกสารและไฟล์ Excel ผ่านทาง e-mail address ที่ [email protected] และให้ดำเนินการตามระเบียบ ตร.ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 29 ความลับ โดยเคร่งครัดจึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการโดยเคร่งครัด “คำสั่งดังกล่าว ระบุ”