ทำไม SKYLINE มือ 2 คันนี้ถึงราคา 16 ล้านบาท? – Sanook

     ต้นเดือนเมษายน 2021 มีข่าวที่ทำให้เหล่าคนรักรถถึงกับอึ้ง เมื่อการประมูลรถยนต์ที่ประเทศญี่ปุ่น นำมาซึ่งราคาเคาะขายสุดเหลือเชื่อ

     Nissan Skyline โฉมปี 1989 อายุมากกว่า 30 ปี ถูกนำออกประมูล และปิดราคาขายสุดท้ายสูงถึง 16 ล้านบาท แพงกว่ารถใหม่อย่าง Toyota GR Supra, Nissan GT-R หรือแม้กระทั่ง BMW M4 ที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ตั้งราคาไว้ที่ 5.199 ล้านบาท, 13.5 ล้านบาท และ 9.999 ล้านบาท เสียอีก

     เหตุใด รถญี่ปุ่นที่อายุอาจจะมากกว่าใครหลายคนที่ได้อ่านบทความนี้ ถึงมีราคาแพงบ้าคลั่งยิ่งกว่ารถใหม่ไปได้?

IT’S NOT A SKYLINE, IT’S GT-R!

     ก่อนอื่นเลย ถึงจะบอกว่า Nissan Skyline แต่รถที่ถูกนำมาประมูลในครั้งที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่ Skyline ธรรมดา …

     เพราะนี่คือตัวท็อปของตระกูลเส้นขอบฟ้า ที่เหล่าคนรักรถมากมาย (รวมถึงตัวผู้เขียน) อยากที่จะเป็นเจ้าของ หรือแม้กระทั่งได้ขับสักครั้ง กับชื่อต่อท้าย GT-R… หนึ่งในรถซิ่งระดับตำนานของประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกสร้างมาเพื่อคว้าชัยชนะในสนามแข่ง และเป็นเจ้าความเร็วบนท้องถนน

mainstand_03skylinegtrhistory.neocities.org

     จุดเริ่มต้นของ GT-R ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1969 กับการเป็นตัวท็อปของ Skyline รหัสตัวถัง C10 ฉายา “Hakosuka” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในสนามแข่งขันที่บ้านเกิด ประเทศญี่ปุ่น ทว่าวิกฤติการณ์ราคาน้ำมันแพงช่วงต้นยุค 1970s ทำให้ตำนาน GT-R ต้องสิ้นสุด เมื่อรถสปอร์ตสมรรถนะสูงไม่เป็นที่ต้องการของตลาด โมเดลที่สองของ GT-R ใน Skyline รหัสตัวถัง C110 ฉายา “Kenmari” ขายได้ไม่ถึง 200 คันด้วยซ้ำ

     กระทั่งปี 1989 Nissan ตัดสินใจปัดฝุ่นนำชื่อ GT-R มาใช้อีกครั้ง ในการเป็นตัวท็อปของ Skyline รหัสตัวถัง R32 และด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ RB26DETT รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เหลือจากนั้นคือ “ประวัติศาสตร์” … แชมป์ All Japan Touring Car Championship 4 ปีซ้อน ระหว่างปี 1990-1993 แบบกวาดแชมป์หมดทุกสนามที่ลงแข่งขัน, แชมป์เอ็นดูรานซ์ Spa 24 Hours ปี 1991 รวมถึงแชมป์ Australian Touring Car Championship ปี 1990-1992 ที่ R32 GT-R บุกไปตบรถซิ่งเจ้าถิ่นคว่ำไม่เป็นท่า จนถูกสั่งแบนห้ามลงแข่งในที่สุด

     นี่คือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ทั้ง GT-R รหัสตัวถัง R32 รวมถึงเจเนอเรชั่นต่อ ๆ มา ทั้งสมัยที่เป็นตัวท็อปของรุ่น Skyline ในรหัสตัวถัง R33, R34 และการแยกชื่อ GT-R มาทำตลาดเพียว ๆ ไม่เกี่ยวรุ่นไหน กับรหัสตัวถัง R35 ถูกขนานนามว่า “ก็อดซิลล่า” มาจนถึงทุกวันนี้

กลับสู่สภาพใหม่โดย NISMO

     ผลงานทั้งในสนามและบนถนน คือเหตุผลที่ทำให้ GT-R เป็นตำนาน แต่ไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เท่านั้น ที่ทำให้ R32 GT-R ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1989 และมีอายุมากกว่า 30 ปีในปัจจุบัน มีคนประมูลไปด้วยราคามหาศาลขนาดนี้

     สาเหตุก็เพราะ R32 GT-R ที่ถูกนำมาประมูล ไม่ใช่ R32 GT-R ปกติทั่วไป แต่เป็น R32 GT-R ที่ถูกเจาะเวลาหาอดีต กลับไปสู่ปี 1989 ตอนที่รถรุ่นดังกล่าวเปิดตัวอีกครั้ง

mainstand_02www.supercars.net

     สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ รถ ก็เหมือนกับมนุษย์ ที่เมื่ออายุมากขึ้น ความสึกหรอ เสื่อมถอยต่าง ๆ ย่อมเกิดเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นรถซิ่งอย่าง GT-R ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การเหยียบมิดคันเร่ง ออกตัวล้อฟรี กระทืบเบรกแทบทะลุแป้น สาดโค้งด้วยความเร็ว ทำให้รถยิ่งเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

     ซึ่ง R32 GT-R คันนี้ ไม่ได้ผ่านเพียงการซ่อมแซมธรรมดา แต่เป็นการ “ฟื้นฟู” (Restoration) เพื่อให้กลับมามีสภาพเหมือนรถใหม่ออกจากสายพานการผลิตอีกครั้ง

     มิหนำซ้ำ ผู้ที่ลงมือฟื้นฟูในครั้งนี้ ก็ไม่ใช่อู่บ้าน ๆ ธรรมดา เหมือนในมังงะ Restore Garage 251 แต่อย่างใด แต่เป็น NISMO สำนักแต่งรถคู่บุญของ Nissan ที่ผ่านการทำ R32 GT-R มานับคันไม่ถ้วน จนรู้รายละเอียดทุกซอกทุกมุมดีอยู่แล้ว

     ส่วนเรื่องอะไหล่ต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีอยู่ในคลังแล้ว ด้วยฐานข้อมูลและความพร้อมที่มีอย่างเต็มเปี่ยม R32 GT-R คันนี้จึง “ใหม่หมดจด” ราวกับเพิ่งออกจากสายพานการผลิตเลยทีเดียว

     นี่คือผลลัพธ์ขั้นสุดยอดของโครงการ NISMO Heritage Parts ที่ผลิตอะไหล่รถยนต์รุ่นตำนานต่าง ๆ ของ Nissan เป็นสต็อกให้กับเจ้าของรถซึ่งต้องการอะไหล่หายากมาตั้งแต่ปี 2017 และนับวัน ชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ ที่โครงการนี้ผลิตก็ยิ่งมีจำนวนมากขึ้น พร้อมสำหรับรถยนต์รุ่นต่าง ๆ มากขึ้น

     อาจจะยังไม่ครบทุกชิ้นส่วน แต่ก็มากพอที่จะฟื้นฟูรถได้แล้ว ที่สำคัญ หากเจ้าของต้องการ ก็สามารถส่งรถมาให้ NISMO ฟื้นฟูสภาพได้อีกด้วย

ไม่ใช่แค่รถ แต่คือความโหยหา และการลงทุน

     สตอรี่ของรุ่น ที่เป็นรถซิ่งในตำนานแห่งยุค 90s รวมถึงสตอรี่เฉพาะของรถคันนี้ ซึ่งได้รับการฟื้นฟูโดย NISMO ที่ไม่ต่างอะไรกับการให้โรงงาน Nissan ลงมือเอง จนสวยงามราวกับเป็นรถใหม่ ทำให้ R32 GT-R คันนี้ ที่เมื่อได้รับการฟื้นฟูเสร็จสิ้น ก็ถูกส่งเข้าลานประมูลของ BH Auction บริษัทจัดการประมูลรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ได้รับความสนใจจากคนรักรถอย่างล้นหลาม

mainstand_01bhauction.com

     ไม่แปลก ที่การชิงยกป้ายราคาระหว่างผู้ร่วมประมูลจะเป็นไปอย่างดุเดือด แต่ด้วยราคาสุดท้ายที่จบระหว่าง 45-55 ล้านเยน (BH Auction ระบุเป็นช่วงราคา) หรือราว 13-16 ล้านบาท มันก็ดูจะเกินความคาดหมายสำหรับใครหลายคน … ซึ่งอันที่จริง อาจจะไม่เกินความคาดหมายอย่างที่คิด

     เพราะต้องไม่ลืมว่า R32 GT-R ได้ยุติสายพานการผลิตไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 1994 ด้วยยอดขายเกือบ 50,000 คัน นั่นเท่ากับว่า “ไม่มีรถใหม่ออกมาแล้ว” ยิ่งเมื่อหักรถที่ประสบอุบัติเหตุ จำนวนที่เหลืออยู่ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก

     อุปทานที่มีน้อยลง ทว่าอุปสงค์กลับเพิ่มขึ้น เพราะคนที่อยากได้ GT-R มาขับ ไม่ได้มีแค่คนญี่ปุ่นเท่านั้น ชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นในทวีปยุโรป, ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ สหรัฐอเมริกา ที่สามารถครอบครอง R32 GT-R ได้อย่างถูกกฎหมาย เนื่องจากอายุของรถรุ่นนี้เกิน 25 ปีไปตั้งแต่ปี 2014 สามารถนำเข้ามาในประเทศได้ ต่างพยายามหารถกันให้ควั่ก … เหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา จึงทำให้ Skyline GT-R อายุกว่า 30 ปี สามารถทำราคาจากการประมูลได้ถึงหลักสิบล้านบาท และหากมีรถซึ่งมีสตอรี่แบบนี้เข้าสู่การประมูลอีกในอนาคต ราคาอาจพุ่งทะยานยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้

     ตัดกลับมาที่แดนสยาม R32 GT-R กลายเป็นหนึ่งในรถซิ่งคลาสสิกไปแล้วเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น กฎหมายของประเทศไทย ที่ไม่อนุญาตให้มีการนำเข้ารถมือสองตั้งแต่เมื่อปลายปี 2019 ได้ทำให้รถซิ่งตัวเก๋า ๆ ทั้งหลาย กลายเป็นของหายากยิ่งขึ้น

     อุปทานที่ไม่มีเพิ่ม ทำให้ราคาของ R32 GT-R ในประเทศไทยยิ่งพุ่งทะยาน ณ เวลาที่เขียน ราคารถที่ลงประกาศขายบนโลกออนไลน์ ทะลุหลัก 5 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย ถือว่าพุ่งจากเมื่อไม่กี่ปีก่อนเป็นเท่าตัว และไม่ต้องสงสัยว่า ราคามันจะขึ้นไปอีกกว่านี้แน่ในอนาคต

     “รถ” ไม่จำเป็นต้อง “ลด” มูลค่าเสมอไป บางครั้งมันก็เหมือนการลงทุน … หากเลือกถูกคัน และกาลเวลาผ่านไปนานพอให้คนโหยหา ราคามือสอง อาจพุ่งทะยานยิ่งกว่าตอนเป็นรถใหม่ป้ายแดงเสียอีก