ตลาดรถยนต์คลาสสิกขยายตัว เบนซ์ทุบเฟอร์รารี่ครองแชมป์รถประมูลแพงสุดในโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

300SLR Uhlenhaut Coupe ของแรร์จาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ถูกนำมาประมูล

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของตลาดรถยนต์ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่าการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้านั้นจะใช้เวลานานขนาดไหน แต่สำหรับตลาดนักสะสมรถยนต์คลาสสิคแทบจะไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย และล่าสุดเพิ่งมีการทุบสถิติใหม่ ด้วยตัวเลขการประมูลที่ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในระดับที่เกิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรก และนั่นทำให้สถิติตลอดกาลของเฟอร์รารี่ 250GTO ที่ว่ากันว่าไม่น่าจะมีใครทุบลงได้นั้นได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว

สถิติที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว

บนเวทีในการประมูลที่ผ่านมา รถสปอร์ตของเฟอร์รารี่ อย่าง 250GTO รุ่นปี 1963 คือ เจ้าของรถยนต์คลาสสิกที่สร้างมูลค่าเมื่อมีการเปลี่ยนมือเจ้าของ ด้วยตัวเลข 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการซื้อขายแบบส่วนตัวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2018 และเป็นการลบสถิติของรถยนต์คลาสสิกรุ่นเดียวกันแต่ต่างปี ซึ่งในตอนนั้นเป็นเฟอร์รารี่ 250GTO รุ่นปี 1962 ทำเอาไว้ในปี 2018 ด้วยตัวเลข 48.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการประมูลของ RM Sotheby

สถิตินี้คงอยู่มานานถึง 4 ปี และยังไม่มีรถยนต์คลาสสิกรุ่นไหนสามารถล้มลงไปได้…จนกระทั่งถึงตอนนี้

รถยนต์คลาสสิกที่โค่นบัลลังก์ของเฟอร์รารี่ 250GTO ลงได้นั้น ไม่ใช่เฟอร์รารี่ รุ่นอื่น หรือรถยนต์รุ่นหายากพวกที่เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ 300SL เจ้าของฉายา Gullwing เพียงแต่ไม่ใช่รุ่นธรรมดา แต่เป็น 300SLR Uhlenhaut Coupe รุ่นพิเศษที่ว่ากันเป็นรถยนต์คลาสสิคในระดับ Ultra Rare รุ่นหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขใหม่ที่เกิดขึ้นคือ 143 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้นมาจากการจัดประมูลของ RM Sotheby ที่สำนักงานใหญ่ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมาก ก่อนที่ราคาจะไปจบลงที่ตัวเลขนี้ด้วยชัยชนะของลูกค้าที่ไม่ประสงค์ออกนาม แต่ทำการประมูลผ่านตัวแทน ซึ่งก็คือ Simon Kidston โดยเขาเป็นนักสะสมรถยนต์และที่ปรึกษาในด้านรถยนต์คลาสสิคที่มีความเชี่ยวชาญ และก่อนที่รถยนต์คลาสสิคคันนี้จะถูกนำออกมาประมูลนั้น มีข่าวรายงานว่าทาง Kidston ใช้เวลานานถึง 18 เดือนในการล็อบบี้บอร์ดบริหารของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการพิจารณาในการนำ 300SLR Uhlenhaut Coupe ออกมาประมูล

สำหรับการจัดประมูลมีขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่พิพิธภัณฑ์ในเมือง Stuttgart โดยที่มีเฉพาะนักสะสมรถยนต์และลูกค้าระดับ V.I.P. ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เท่านั้นที่ได้รับเชิญเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้

300SLR Uhlenhaut Coupe

ไม่น่าแปลกใจที่ราคาสูง เพราะมีแค่ 1 ใน 2 คันเท่านั้นในโลก

สำหรับ 300SLR Uhlenhaut Coupe นั้นถือเป็นรถสปอร์ตที่หายากสุดๆ และด้วยเหตุที่มันมีความสัมพันธ์กับรถสปอร์ตรุ่นดังอย่าง 300SL เจ้าของฉายา Gullwing บวกกับการแชร์พื้นฐานจากรถแข่ง F1 ในยุคนั้น จึงส่งผลต่อเรื่องของความต้องการในตลาด และน่าจะสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่องในอนาคต

รถสปอร์ตรุ่นนี้ถูกผลิตในปี 1955 และมีเพียงแค่ 2 คันเท่านั้นในโลกโดยถูกสร้างจากหน่วยงานด้านพัฒนารถแข่งของ Mercedes-Benz และได้รับการตั้งชื่อโดยใช้นามสกุลของหัวหน้าวิศวกรและเป็นนักออกแบบในยุคนั้นอย่าง Rudolf Uhlenhaut

ตัวรถถูกพัฒนามาเพื่อใช้งานในบนท้องถนน แต่อ้างอิงพื้นฐานของรถแข่งกรังด์ปรีซ์ในรหัส W196R ที่ขับโดย Juan Miguel Fangio แชมป์โลก F1 2 สมัยชาวอาร์เจนตินา โดยตัวรถใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3,000 ซีซี และสามารถแล่นทำความเร็วได้ 180 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับรถยนต์ใช้งานบนท้องถนนในยุคนั้น

แม้ว่าจะมีการนำออกประมูลแบบเซอร์ไพรส์ แต่ด้วยเหตุที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ครอบครองรถสปอร์ตรุ่นนี้เอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ถึง 2 คัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะปล่อยสักคันออกมา ซึ่งทาง Peter Wallman ประธานของ RM Sotherby ที่จัดการประมูลนี้ถึงกับแสดงความแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้รับการทาบทามให้เป็นผู้ดำเนินการจัดประมูล ส่วนเหตุผลที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำรถยนต์คลาสสิกรุ่นนี้ออกประมูลก็เพราะต้องการนำมาใช้เป็นทุนในการตั้งต้นสำหรับการมอบทุน ให้กับงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการลดการปล่อยคาร์บอน

เฟอร์รารี่ 250GTO เคยครองสถิติรถยนต์คลาสสิกที่ถูกประมูลด้วยราคาที่แพงที่สุดในโลก แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

การลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับตลาดการประมูลรถยนต์คลาสสิกถือเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดมาอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาบรรดาคอลเล็กเตอร์ที่หันมาลงทุนกับการสะสมรถยนต์คลาสสิกเริ่มมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งว่ากันว่าเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว ถือว่ามีนักสะสมรถยนต์มากกว่า 1 ล้านคน และประมาณ 30-40% เป็นคอลเล็กเตอร์ที่มีกระเป๋าหนัก

เช่นเดียวกับตลาดนาฬิกา ในกลุ่มของคนรักรถยนต์ก็มีช่องทางในการแสวงหากำไรและมองหาช่องทางในการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ และสินทรัพย์เหล่านี้มีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำ แถมในบางครั้งถ้าคุณเก็งตลาดถูก อาจจะสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำได้เลยทีเดียว

แน่นอนว่าในแง่ของรถยนต์ทั่วไป ราคาลักษณะที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตามธรรมชาติ แต่ทว่าในบางครั้ง รถยนต์บางรุ่น ถ้าหากมีปริมาณของคนที่สนใจมากพอที่จะทำให้เกิดความต้องการขึ้นมา ราคาของรถยนต์รุ่นนั้นๆ จะเริ่มดีดกลับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวอย่างในบ้านเราที่เห็นได้ชัดเจนคือ กระแสของความนิยมรถยนต์ในยุค 1990 จนทำให้รถยนต์บางรุ่นและบางคันราคาทะลุโลกไปเลย

ในตลาดรถยนต์คลาสสิกก็เช่นเดียวกัน บรรดาผู้ที่มีเงินมักจะชอบหันมาลงทุนในรถยนต์ประเภทนี้ เพราะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะไม่สามารถหาได้ในตลาด อีกทั้งยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการเปิดเผยของ HAGI หรือ Historical Automobile Group International ของสหรัฐอเมริกาได้ระบุว่าตลาดรถยนต์คลาสสิกมีดัชนีของมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2019 ซึ่งค่าดัชนีเพิ่มขึ้นถึง 33.78% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า และแม้ว่าในปี 2020 จะเกิดปัญหาโควิด -19 ขึ้นมา แต่ทว่ามูลค่าของดัชนีก็ไม่ได้ลดลงเท่าไร ยังเพิ่มขึ้น 6.19% และล่าสุดคือเพิ่มขึ้น 2.73% ในปี 2021

สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อมีดีมานด์เพิ่มขึ้นราคาของรถยนต์คลาสสิกเหล่านี้ก็ย่อมขยับขึ้นตาม และส่วนใหญ่จะมีราคาเกินหลักล้านเหรียญสหรัฐฯ เช่นโตโยต้า 2000GT สภาพสวยๆ ที่ผลิตในปี 1967-1970 จะมีราคาถึง 1 ล้านเหรียญสหรับฯ หรือ McLaren F1 ที่ผลิตในปี 1995 แม้จะเพิ่งผลิตได้ไม่นาน แต่ด้วยความหายากและเป็นที่ต้องการของตลาด สามารถทำราคาบนเวทีประมูลได้ถึง 20.465 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว

ถือเป็นอีกช่องทางที่มีการเติบโตอย่างแน่นอน และถือเป็นช่องทางที่ทำให้นักสะสมหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นในตลาดอย่างต่อเนื่อง และคงต้องมาดูกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วจะเป็นแค่ฟองสบู่ที่เติบโตขึ้นในช่วงที่ยังไม่มีอะไรที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน หรือเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงนำเงินตัวเองไปลงกับเรื่องของหุ้นหรือ Cryptocurrency กันแน่