การแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก (Formula One World Championship) นับเป็นแหล่งรวมตัวของสุดยอดนักซิ่งที่จะมาโชว์ฟอร์มการขับรถอันสง่างามให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์ การได้เห็นรถฟอร์มูล่าวันจำนวนหลายสิบคันลงสนาม ต่างคนต่างงัดสกิลการขับรถเพื่อขึ้นแซงหน้าฝ่ายตรงข้าม นับเป็นกิจกรรมที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้คนมาหลายสิบปี UNLOCKMEN จึงอยากมาเล่าถึงประวัติของการแข่งขัน เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงความสนุกของการชมฟอร์มูล่าวันมากขึ้น
การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันโลกเริ่มขึ้นมาจากการแข่งขันที่มีชื่อว่า European Championships ซึ่งเป็นการแข่งขันรถกรังปรีซ์ที่จัดขึ้นโดย AIACR (Association Internationale des Automobile Clubs Reconnus) เป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 1931 จนถึง 1939 โดยการแข่งขันนี้ในตอนแรกจะอนุญาตให้รถที่มีน้ำหนักอย่างน้อย 900 กิโลกรัมสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนกฎให้เป็นรถที่มีน้ำหนักไม่เกิน 750 กิโลกรัม และเปลี่ยนอีกครั้งให้เป็นรถที่มีน้ำหนักระหว่าง 400 และ 850 กิโลกรัม จนกระทั่งการแข่งขันต้องจบลงไปเพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่สองจบลง ก็มีกลุ่มคนที่พยายามในการฟื้นคืนชีพการแข่งขันรถให้กลับมาอีกครั้ง โดยในปี 1946 คณะกรรมาธิการกีฬาระหว่างประเทศ (CSI) สหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (Fédération Internationale de l’Automobile) ได้กำหนดมาตราฐานในการแข่งขันรถใหม่ชื่อว่า Formula 1 หรือ สูตรหนึ่ง ซึ่งคำว่า สูตร หมายถึง ชุดของกฎระเบียบที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันรถทุกคนต้องทำตาม กฎหมายนี้ถูกบังคับใช้ในการแข่งขันรถทั่วโลกตั้งแต่ปี 1947 ส่วน Formula 1 จะเป็นการแข่งขันรถประเภท 1 ที่นั่งและเปิดล้อ
โดยการแข่งขัน Formula 1 จะประกอบไปด้วย ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 20 คนที่ต้องประชันกันในการแข่งขันย่อยหลายรายการที่เรียกกันว่า ‘กรังปรีซ์’ (Grand Prix) ซึ่งแต่ละการแข่งขันจะนับคะแนนเฉพาะผู้ที่เข้าเส้นชัย 10 อันดับแรกเท่านั้น โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้ อันดับที่ 1 (25 คะแนน), อันดับที่ 2 (18 คะแนน), อันดับที่ 3 (15 คะแนน), อันดับที่ 4 (12 คะแนน), อันดับที่ 5 (10 คะแนน), อันดับที่ 6 (8 คะแนน), อันดับที่ 7 (6 คะแนน), อันดับที่ 8 (4 คะแนน), อันดับที่ 9 (2 คะแนน) และอันดับที่ 10 (1 คะแนน) คะแนนสะสมของการแข่งขันแต่ละครั้งจะได้รับการประเมินจากคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เพื่อค้นหาผู้ชนะเลิศประจำปี 2 ตำแหน่ง ได้แก่ แชมป์นักซิ่ง และ แชมป์ผู้ผลิต
แม้ Formula 1 จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 96 แต่ในช่วงนั้นมีการจัดแค่การแข่งขันแบบไม่ชิงแชมป์ (non-championship) เช่น การแข่งขันกรังปรีซ์ที่จัดขึ้นในเมืองตูรินประเทศอิตาลี กว่าการแข่งขันระดับโลกจะเกิดขึ้นก็ล่วงเลยมาถึงปี 1950 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการแข่งขันชิงแชมป์รถระดับโลกชื่อว่า World Championship for Drivers ซึ่งจัดขึ้น ณ สนามแข่งรถ Silverstone ของอังกฤษการแข่งขั้นในครั้งนั้นทำให้เกิดแชมป์โลกคนแรกชื่อว่า Giuseppe Farina นักแข่งรถชาวอิตาลี ซึ่งสามารถเอาชนะเพื่อนร่วมทีมของเขา Juan Manuel Fangio ได้แบบฉิวเฉียดด้วยรถ Alfa-Romeo 159 แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ปีเดียวก็มีตำนานหน้าใหม่เกิดขึ้นนั่นคือ Juan Manuel Fangio นักแข่งรถในตำนานที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ 5 ครั้งติดกัน ได้แก่ ปี 1951, 1954, 1955, 1956, และ 1957
ต่อมาในปี 1958 หลังจาก Fangio ได้เกษียณจากการแข่งขัน ก็เริ่มต้นของยุครุ่งเรืองของนักซิ่งอังกฤษ โดยในช่วงปี 1958 และ 1974 นักแข่งรถชาวอังกฤษได้รับตำแหน่งแชมป์โลกกว่า 9 ครั้ง และช่างชาวอังกฤษได้รับตำแหน่งแชมป์โลกกว่า 14 ครั้ง เริ่มจากชัยชนะของนักแข่งรถ Mike Hawthorn และทีมซ่อมรถ Vanwall ไปจนถึงชัยชนะของนักแข่งชาวอังกฤษคนอื่น เช่น Jim Clark, Jackie Stewart, John Surtees และ Graham จนมาถึงปี 1981 การแข่งขัน World Championship for Drivers ก็เปลี่ยนชื่อเป็น FIA Formula One World Championship ที่เรารู้จักกันมาจนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบันการแข่งขัน Formula 1 เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก เพราะในปี 2017 ผู้จัดการแข่งขันได้ออกกฎเพิ่มความกว้างสูงสุดของหน้ารถ ปีกด้านข้าง ไปจนถึง ความกว้างของยาง ซึ่งอาจทำให้รถมีความเร็วสูงสุดได้ถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมที่ผ่านมายังมีการพัฒนาและบังคับใช้สูตรการแข่งขันอื่น เช่น Formula E ซึ่งเป็นการแข่งขันรถพลังไฟฟ้าหนึ่งที่นั่ง, Formula 2 สูตรการแข่งขันใหม่ในปี 2017 ที่เป็นการรีแบรนด์สูตรหนึ่, Formula 3 ซึ่งเป็นการรีแบรนด์สูตรการแข่งขันอันเก่าแก่อีกครั้งในปี 2019 ไปจนถึง Formula 4 ซึ่งเป็นการแข่งขันประเภท Junior เป็นต้น
ปกติการแข่งขันรถสูตรหนึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และจะเริ่มการแข่งขันตั้งแต่ต้นปี อย่างการแข่งขันในปีนี้ก็จัดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม และได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสนใจมากมายมาจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็น การประชันความเร็วระหว่างสองนักซิ่งระดับเทพอย่าง Lewis Hamilton และ Max Verstappen ในการแข่งขัน Bahrain Grand Prix, การได้เห็นสกิลการขับรถอันโดดเด่นของ Lando Norris หรือ การทำผลงานอันแสนยอดเยี่ยมของ Esteban Ocon ในการแข่งขัน Hungarian Grand Prix มาดูกันว่านักแข่งรถคนไหนน่าจับตามองบ้างในปีนี้
Lewis Hamilton
สิงห์นักแข่งรถชาวอังกฤษเจ้าของแชมป์โลก 7 สมัย (2008, 2014, 2015, 2017, 2018, 2019 และ 2020) และเจ้าของสถิติชนะเยอะที่สุด โพลโพสิชั่น และโพเดียมฟีนิช สำหรับการแข่งขันในปีนี้ เขาทำผลงานได้ดีตั้งแต่ช่วงต้นปี เริ่มจากการเอาชนะคู่แข่งสุดหินอย่าง Max Verstappen ได้สำเร็จในการแข่งขัน Bahrain Grand Prix ไปจนถึงการคว้าแชมป์ในการแข่งขัน British Grand Prix อย่างไรก็ตาม เขาก็ทำผิดพลาดในการแข่งขันหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การใช้เส้นทางผิดกฎในการแข่งขันที่ซาเคียร์จนโดนตัดคะแนน การลื่นไถลจากถนนที่เมืองอิโมลา หรือ การขับชนรถของผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่นอย่าง Max Verstappen
Max Verstappen
นักแข่งรถชาวเบลเยี่ยมสังกัดทีม Red Bull ผู้มีผลงานโดดเด่นตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยในปี 2016 เขาสามารถคว้าแชมป์กรังปรีซ์จากการแข่งขัน Spanish Gran Prix ได้สำเร็จ นับเป็นผลงานที่ทำให้เขากลายเป็นนักแข่งที่มีอายุน้อยที่สุดในการคว้าแชมป์กรังปรีซ์ สำหรับการแข่งขันในปี 2021 แม้เข้าจะเจออุบัติเหตุในระหว่างการแข่งขันอย่างเหตุการณ์ยางระเบิดตอนแข่งที่เมืองบากุ เขาก็ทำผลงานได้ดีไม่แพ้ใครด้วยสถิติการเอาชนะการแข่งขันกรังปรีซ์ถึง 7 รายการ และเป็นตัวเต็งของการแข่งขันในครั้งนี้
Valtteri Bottas
นักแข่งรถชาวฟินแลนด์สังกัดทีม Mercedes เจ้าของแชมป์ผู้ผลิต 4 สมัย และผู้ชนะในการแข่งขัน 10 รายการ (3 ครั้งในปี 2017, 4 ครั้งในปี 2019, 2 ครั้งในปี 2020 และ 1 ครั้งในปี 2021) ในการแข่งขันปีนี้เขาสามารถคว้าแชมป์จากการแข่งขัน Turkish Grand Prix ได้สำเร็จ โดยสามารถเอาชนะ Max Verstappen คู่แข่งสุดหินได้ในช่วงโค้งสุดท้าย
Lando Norris
นักแข่งรถชาวอังกฤษเบลเยี่ยมสังกัดทีม Mclaren และเจ้าของแชมป์รายการ Formula 3 European Championship ประจำปี 2017 ทำผลงานได้ดีในการแข่งขันที่ Emilia Romagna Grand Prix ประจำปีนี้ เขาสามารถคว้าได้ 3 โพเดียมตั้งแต่ครึ่งฤดูกาลแรก และก่อนหน้าการแข่งขัน Hungarian Grand Prix เขายังได้คะแนนจากการแข่งขันทุกสนาม เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งผู้เล่นที่น่าจับต่อมองคนหนึ่ง
Esteban Ocon
นักแข่งรถชาวฝรั่งเศสสังกัดทีม Alpine สามารถคว้าแชมป์จากการแข่งขันกรังปรีซ์ Hungarian Grand Prix ประจำปี 2021 ได้สำเร็จ โดยการเอาชนะแชมป์โลกหลายสมัยอย่าง Lewis Hamilton ด้วยการเข้าเส้นชัยในเวลา 2:04:43.199 นับเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Esteban Ocon เลยทีเดียว
การแข่งขัน Formula 1 นับเป็นหนึ่งในพื้นที่ทำให้คนได้แสดงฝีไม้ลายมือในการขับรถ และทำให้ผู้ผลิตรถเจ้าต่าง ๆ มีพื้นที่สำหรับโชว์ศักยภาพของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่พวกเขาได้พัฒนาขึ้น นอกจากนี้มันยังเป็นกีฬาที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้คนมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี
Image Source: 1 / 2 /3
Forty high school gi…
Learn about the impl…
This website uses cookies.